ข้อมูลเรือสำราญVoyager of the Seas

เรือสำราญ Voyager of the Seas 
เรือสำราญสุดหรูในเครือ Royal Caribbean ในกลุ่ม Voyager Class ขนาด ระวางขับน้ำ 137,276 ตัน มีความสูง 15 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 14ชั้น มีลิฟต์บริการ 14 ตัว กว้าง 157.5 ฟุต จุผู้โดยสารได้ประมาณ 4,269 คน จำนวนลูกเรือ 1,176 คน เข้าประจำการในปี 1999 แต่ได้มีการปรับปรุงและตกแต่งให้หรูหราล้ำสมัยเสมอมา ซึ่งได้รับการปรับปรุงล่าสุด ปี 2014 มีการตกแต่งภายในตัวเรือที่โดดเด่น กลางตัวเรือมีบันไดโค้งสวยงาม เพดานเป็นรูปโดม มีลิฟต์แก้วที่มองเห็นวิวทะเลได้ มีหลากหลายห้องอาหารให้บริการ เมื่อท่านมีโอกาสเข้าไปภายในแล้ว ไม่รู้สึกเลยว่าท่านกำลังอยู่บนเรือ เพราะพรั่งพร้อมด้วยสิ่งเอ็นเตอร์เทนประหนึ่งเหมือนเราอยู่ในเมืองหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น โรงภาพยนตร์, คาสิโน ,ภัตตาคาร, ไนท์คลับ, เลานจ์ ,ลานไอซ์สเก็ต ,สนามกีฬา กระดานโต้คลื่น ,ปีนหน้าผาจำลอง ,มินิกอล์ฟ,ฟิตเนส ช้อปปิ้งย่านดาวน์ทาวน์ใจกลางเรือ เป็นต้น

ห้องพักบนเรือสำราญ Voyager of the Seas
ภายในห้องพักของ เรือสำราญ Voyager of the Seas มีมากถึง 5 ประเภท มีให้เลือกตั้งแต่ห้องพักสุดหรูอย่าง Royal Suites ชมทิวทัศน์ทะเลอันกว้างไกล ไปจนถึงห้องพักแบบ Promenade Staterooms สัมผัสกับบรรยากาศอันคึกคักของ ย่านดาวน์ทาวน์ The Royal Promenade หรือห้องพักราคาประหยัดงบ โดยทุกห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ทีวี, โต๊ะอเนกประสงค์ ,และตู้เสื้อผ้า และไดเป่าผม โดยห้องพักแบ่งเป็น
-Interior : ห้องแบบไม่มีหน้าต่าง ขนาดห้อง 15 ตารางเมตร มีจำนวน 642 ห้อง โดยห้องนี้จะเป็นแบบเริ่มต้นราคาจะประหยัดบางห้องสามารถพักได้ 3 หรอ 4 ท่าน ตัวห้องจะอยู่ด้านในของตัวเรือในส่วนหัวหรือท้ายเรือ ชั้น 3,6,7,8,9,10
-Promenade View Interior : เป็นห้องที่มีหน้าต่างเห็นไปยังถนนพรอมเมอนาด (ชั้น 6,7,8) ขนาดห้อง 15 ตารางเมตร มีจำนวน 138 ห้อง ซึ่งเป็นจุดที่เป็นศูนย์รวมของร้านค้า ร้านอาหาร มีห้องที่สามารถพักได้สูงสุด 4 ท่าน
-Outside (Ocean View ):ห้องมีหน้าต่างเป็นกระจกเล็กๆสามารถมองเห็นวิวด้านนอก มีจำนวน 230 ห้อง ขนาด 15-19 ตารางเมตร มีห้องที่สามารถพักได้สูงสุด 4ท่าน ตัวห้องอยู่ด้านหัวเรือชั้น 2,3,6,7,8,9
-Ocean View with Balcony : ห้องมีระเบียงส่วนตัว มีพื้นที่นั่งเล่นพร้อมโซฟา มีจำนวน 652ห้อง ขนาดภายในห้อง15-17 ตารางเมตร ขนาดระเบียง 5 ตารางเมตร ห้องนี้เป็นห้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะตัวห้องพักมีระเบียงให้ออกไปนั่งเล่น สามารถเดินออกมาชมวิวสูดลมทะเลภายนอกห้องได้ มีห้องที่สามารถพักได้สูงสุด 4 ท่าน ตัวห้องอยู่ด้านหัวเรือชั้น 6,7,8,9,10
-ห้อง Suite : ห้องสวีท ซึ่งมีแยกย่อยเป็นอีกหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Junior Suite ,Grand Suite - 1 Bedroom ,Grand Suite - 2 Bedroom ,Owners Suite ,Royal Suite มีจำนวน 119 ห้อง โดยขนาด ห้องมีตั้งแต่ 24 – 101 ตารางเมตร ห้องประเภทนี้ก็คือความโดดเด่นในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง สะดวกสบายมากขึ้น บางห้องสามารถเข้าพักได้ทั้งครอบครัวแล้ว ภายในห้องยังประกอบไปด้วยระเบียงส่วนตัว ห้องนั่งเล่น บาร์และอ่างอาบน้ำส่วนตัว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกครบครัน นอกจากนั้นยังมีสิทธิพิเศษอีกมากมาย

ไฮไลท์กิจกรรมความสนุกต่างๆบนเรือสำราญ Voyager of the Seas
ท่านสามารถสนุกกับกิจกรรมต่างๆมากมายบนเรือสำราญได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมท้าทายความแข็งแรงของร่างกาย หรือกิจกรรมผ่อนคลาย ชิวล์ๆ บนเรือสำราญลำนี้ก็มีพร้อม 
- Flowrider Surf Simulator: กิจกรรมไฮไลท์สุดพิเศษ บริเวณชั้น 13 ให้ท่านได้สนุกเต็มอิ่มกับกระดานโต้คลื่นสุดมันส์ 
- Ice Skating Rink : ลานสเก็ตน้ำแข็ง (Studio B) ชั้น 2 และชั้น3 ท่านสามารถเข้ามาเล่นสเกตน้ำแข็งที่ลานนี้ นอกจากนี้ในช่วงเย็นพื้นที่นี้จะมีการแสดงโชว์สเกตน้ำแข็งที่คัดนักแสดงระดับสุดยอดจากหลากหลายประเทศ ทำให้การแสดงน่าตื่นเต้น สวยงาม อลังการ ที่ถือเป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งบนเรือลำนี้ สามารถเข้าชมได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
-Rock Climbing Wall : ออกกำลังกายเรียกเหงื่อกับกิจกรรทปีนหน้าผาจำลองบริเวณชั้น 13
-Nine-Hole Miniature Golf Course : สนามมินิกอล์ฟขนาด 9 หลุม บริเวณชั้น 13
นอกจากกิจกรรมยังมีกิจกรรมไฮไลท์ข้างต้นแล้วยังมีกิจกรรมและส่วนบริการอื่นๆอีกมากมาย เช่น

-กิจกรรมบริเวณท้ายเรือชั้น 13 : Sports Court ลานกีฬาขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้ง ลานโรลเลอร์สเก็ต ,โต๊ะปิงปอง,สนามบาสเก็ตบอล เป็นต้น 
-กิจกรรมบริเวณชั้น 12: เอาใจสาวๆ ที่อยากจะนวดผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับ สปา Vitality At Sea Spa สำหรับท่านที่รักการวิ่งออกกำลังกายยามเช้าก็สามารถวิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นรับแสงแดดอ่อนๆ ที่ลู่วิ่ง Jogging Track พร้อมกิจกรรมไว้เล่นแก้เบื่อสำหรับ เด็กๆ วัยรุ่น สนุกกับเครื่องเล่นสุดอลังกาล รวมถึงตู้เกมส์หยอดเหรียญต่างๆ รวมถึงสวนน้ำสำหรับเด็กๆกับVideo Arcade และ Adventure Ocean รับลองว่าเด็กๆจะเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน
-กิจกรรมบริเวณชั้น 11 : ศูนย์สุขภาพ ให้ท่านได้ออกกำลังกายฟิตหุ่นที่โรงยิมขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยที่ Vitality at Sea Fitness Center ศูนย์ฟิตเนสที่เปิดตั้งแต่เช้าถึงดึก นอกจากนี้ยังมีห้องแอโรบิคและคลาสโยคะอีกด้วย และที่ขาดไม่ได้สำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนคือ สระว่ายน้ำ ซึ่งนอกจากเก้าอี้อาบแดดที่พร้อมรองรับสำหรับทุกท่านแล้ว บนเรือลำนี้มีสระว่ายน้ำให้บริการถึง 2 สระ อ่างน้ำวนสระสปา Whirlpools 6 สระ นอกจากนี้ยังมี Pool Bar ชิวล์ๆ กับเครื่องดื่มริมสระ ใน Solarium Bar พร้อมเพลิดเพลินชมภาพยนตร์กลางแจ้ง Outdoor Movie Screen สำหรับผู้เข้าพัก ห้อง Grand Suite และสมาชิกสามรถใช้บริการ Concierge Club เลานจ์และบาร์สุดพิเศษได้ ที่บริเวณชั้น 9 

ในส่วนจุดบริการอื่นๆ 
ท่านสามารถใช้บริการอินเตอร์เนทได้ ที่ Royal Caribbean Online หรือห้องคอมพิวเตอร์ บริเวณชั้น 8 , หามุมเงียบอ่านหนังสือเล่มโปรดได้ที่ห้องสมุด บริเวณชั้น 7 ,เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ารวมถึงแบรนด์เนมต่างๆได้ที่ย่านดาวน์ทาวน์ Royal Promenade ถนนคนเดินสุดหรู สำหรับท่านที่ต้องการความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็มีจุดบริการ สามารถติดต่อได้ที่เคาท์เตอร์ Guest Services รวมถึงเคาน์เตอร์ จองทัวร์เสริม Shore Excursions Desk บริเวณชั้น 5 , ในส่วนบริเวณชั้น 4 พบกับโรงละครสุดหรูอลังการให้ท่านได้เข้าไปรับชมการแสดง มีทั้ง ละครร้อง ละครบรอดเวย์ การแสดงมายากล และอื่นๆอีกมากมายให้ท่านชมทุกวัน แต่ละวันจะมีเวลาโชว์ 2 ครั้งคือรอบ 18.00 น.และ 20.30น.วันเวลารายการโชว์จะระบุในรายการของเรือ (Cruise Compass) โดยท่านสามารถเข้าชมได้ที่ La Scala Theatre (สำหรับห้องแสดงโชว์จะมีบริเวณในส่วนของชั้น3ด้วย)หรือ ท่านที่ชอบการเสี่ยงโชคก็มีคาสิโนขนาดใหญ่ Casino Royale ก็อยู่ในบริเวณชั้นนี้ 

นอกจากนี้สำหรับกลุ่มบริษัทที่ต้องการจัดสัมมนาภายในเรือสำราญก็มีห้องประชุม Conference Room บริเวณ ชั้น 2 สามารถรองรับได้สูงสุด 330 ท่าน พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัยให้บริการ เช่น โปรเจ็คเตอร์, เครื่องเล่นสื่อ, ทีวีพลาสม่าขนาดใหญ่, หน้าจอติดผนัง, วิดีโอ, ไมโครโฟน, ไฟเวที เป็นต้น

ห้องอาหารบนเรือสำราญ Voyager of the Seas
บนเรือสำราญ Voyager of the Seas มีห้องอาหารที่สามารถทานได้ฟรีทันที ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม( Complimentary )
จะมีทั้งหมด 2 ห้องคือ
-Windjammer Cafe : ห้องอาหาร International Buffet ชั้น 11 มีทั้งพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง บริการอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ให้ท่านได้เลือกทานด้วยตัวเองกับเมนูที่หลากหลาย เปิดบริการทั้งวัน ตั้งแต่เช้าถึงช่วงดึก ซึ่งนอกจากจะบริการอาหารหลัก 3 มื้อ ( เช้า,กลางวัน,เย็น ) แล้วยังมีอาหารว่างยามบ่ายและดึกด้วยห้องอาหารห้องนี้เราสามารถเข้าไปใช้บริการได้ทุกเมื่อ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยอาหารจะมีการเปลี่ยนไปตามเวลา เพื่อให้เหมาะกับมื้ออาหารเวลานั้นๆ การแต่งกายเข้าทานอาหารห้องนี้สามารถแต่งตัวสบาย สบาย ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะได้
-Main Dining Room : ห้องอาหาร Sapphire Main Dining Room ที่มีความสูงถึง 3ชั้น บริเวณชั้น 3-5ให้บริการอาหารค่ำแบบ Set Menu อาหารที่เสิร์ฟจะเป็นแบบ Full Course มีอาหารให้เลือกรายการละ 2-3 อย่างทุกมื้อซึ่งตอนเชคอินขึ้นเรือท่านจะได้รับหมายเลขโต๊ะทานอาหารของท่าน โดยหมายเลขโต๊ะ จะระบุอยู่ใน Sea Pass จะได้ที่นั่งที่เดิมทุกวันจน จบทริป
นอกจากนี้ยังมี Cafe Promenade บริเวณชั้น 5 บริการเมนูอาหารว่าง แซนวิช, ครัวซองต์, คุกกี้, มัฟฟิน, ชีสเค้ก ,ไอศครีม กาแฟ ชา เป็นต้น
**( และในส่วนของ Room Service จะบริการส่งอาหารให้ถึงห้องพักของท่านฟรีก่อนเที่ยงคืน )

สำหรับห้องอาหารพิเศษที่ต้องจ่ายเพิ่ม (Specialty )
ห้องอาหารพิเศษจะมีค่าสำรองที่นั่งโดยอัตราค่าจองของแต่ละห้องจะมีระบุไว้ในนิตยสารภายในห้องพักของท่าน และควรสำรองที่นั่งล่วงหน้า สามารถทานอาหารที่มีบริการตามปรกติ แต่สามารถสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ได้โดยมีค่าใช้จ่ายตามเมนูของร้าน มีให้เลือกดังนี้
-Chops Grille : ห้องอาหารสเต๊กสไตล์อเมริกัน ตั้งอยู่บริเวณชั้น 11 เปิดให้บริการมื้อเย็น ( ระหว่าง 17.30น.-21.30 น. ) มีค่าสำรองที่นั่งท่านละประมาณ USD39 
-Giovanni’s Table : ห้องอาหารชั้น 11 สไตล์อิตาลี
-Izumi Japanese Cuisine :ห้องอาหารชั้น 14 สไตล์ญี่ปุ่น อาหารจานพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของ RoyalCaribbean ที่มีอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นส่วนใหญ่
-Johnny Rockets :ห้องอาหารชั้น 12 เปิดให้บริการระหว่าง 11.30 น. – 24.00 น. พร้อมที่นั่งในร่มและกลางแจ้งบริการอาหารประเภทฟาสฟู้ดและแฮมเบอร์เกอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ RoyalCaribbean 

เรือสำราญ Voyager of the Seas ถือเป็นประสบการณ์การพักผ่อนระดับเวิลด์คลาส พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมโปรแกรมการเดินทางอันตื่นตาตื่นใจ
**โดยมีเส้นทางล่องในโซนทวีปเอเชีย , สิงคโปร์ , ภูเก็ต ,มาเลเซีย (ปีนังกัวลาลัมเปอร์,ลังกาวี) ออสเตรเลีย ,มหาสมุทรแปซิฟิกใต้, และแถบแคริบเบี้ยน เป็นต้น

***Cruise Vacations Start Here….Cruise Tour eXperts by Chic Journey 2020***