ข้อมูลเรือสำราญ Spectrum of the Seas
#เรือสำราญ Spectrum of the Seas
Spectrum of the Seas เรือใหญ่ใหม่สุดของสายเรือ RoyalCaribbeanInternational ไฮเทคที่สุด ทันสมัยที่สุด และอัจฉริยะที่สุดในเอเชีย ประกอบที่ประเทศเยอรมนี
เรือขนาดใหญ่ลำนี้มีน้ำหนัก 169,379 ตัน ยาวทั้งหมด 347 เมตร สามารถจุผู้โดยสารได้ทั้งหมด 5,622 คน (รวมลูกเรือ) มีลิฟต์โดยสาร 17 ตัว โดยเริ่มล่องเมือต้นปี 2019 พร้อมลูกเรือนานาชาติ 1,551 คน กว่า 120 ประเทศ เป็นเรือสำราญลำแรกในตระกูล Quantum Ultra-Class ของสายเรือ RoyalCaribbeanInternational
....เรือลำนี้นอกจากเป็นเรือลำใหม่ล่าสุดของ รอยัลแคริบเบียนครูซส์แล้ว ยังมีความพิเศษมากยิ่งขึ้นอีกด้วย !!!โดยชั้นบนสุดของเรือลำนี้ถูกเปลี่ยนให้เป็นสวนสนุกลอยน้ำกลางมหาสมุทร มีทั้ง The FlowRider, Sky Pad,North Star, รถบั๊ม, เกมเลเซอร์แท็ก หรือดิ่งพสุธาจำลองไปกับ Ripcord By iFlyและไฮไลท์เด็ด คือ Bionic Bar ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 ซึ่งเป็นบาร์ที่ไม่มีบาร์เทนเดอร์คอยชงเหล้า แต่หุ่นยนต์จะทำหน้าที่นั้นเอง เพียงกดแท็บเล็ตเลือกส่วนผสมต่างๆ ที่อยากดื่ม จากนั้นกดส่งออร์เดอร์ เท่านี้หุ่นยนต์ก็จะจัดแจงใส่น้ำแข็ง รินเหล้า เติมโทนิก ใส่การ์นิช ก่อนเชกและส่งให้ถึงมือ โอ้โห....นี่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีล้ำบนเรือสำราญเลยทีเดียว
ส่วนบริการห้องพักบนเรือ
Spectrum of the Seas มีห้องพักทั้งหมด 2,137 ห้อง โดยมี 4 ประเภทหลักเริ่มจาก
-Interior Virtual Balcony : ห้องไม่มีหน้าต่าง พร้อมวิวระเบียงเสมือนจริง เป็นห้องราคาประหยัดสุด สามารถพักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 16 ตารางเมตร มีประมาณ 370 ห้อง
-Oceanview: ห้องมีหน้าต่าง เป็นห้องพักที่จะมีหน้าต่างมองเห็นข้างนอกลำเรือได้ เราจะสามารถเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน แต่ว่าหน้าต่างนั้นจะเปิดออกมาไม่ได้ พักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 17 ตารางเมตร มีประมาณ 156 ห้อง
-Balcony: ห้องมีระเบียง เป็นห้องที่มีระเบียงสามารถเดินออกมาสูดลมทะเลภายนอกห้องได้พักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 19 ตารางเมตร และความกว้างพื้นที่ระเบียงมีความกว้าง 5 ตารางเมตร มีประมาณ 1,530 ห้อง ซึ่งห้องประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงสุด
- Spa Junior Suite: ห้องสวีท พักได้สูงสุด 2 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 25 ตารางเมตร และความกว้างพื้นที่ระเบียงมีความกว้าง 8 ตารางเมตร มีประมาณ 40 ห้อง
- Junior Suite: ห้องสวีทพักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 26 ตารางเมตร และความกว้างพื้นที่ระเบียงมีความกว้าง 15 ตารางเมตร มีประมาณ 16 ห้อง
-Grand Suite: ห้องสวีท พักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 33 ตารางเมตร และความกว้างพื้นที่ระเบียงมีความกว้าง 24 ตารางเมตร มีประมาณ 16 ห้อง
-Owners Suite : ห้องสวีท พักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 51 ตารางเมตร และความกว้างพื้นที่ระเบียงมีความกว้าง 24 ตารางเมตร มีประมาณ 4 ห้อง
-Grand Loft Suite: ห้องสวีท พักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 65 ตารางเมตร และความกว้างพื้นที่ระเบียงมีความกว้าง 20 ตารางเมตร มีประมาณ 4 ห้อง
***มาถึงห้องสุดไฮไลท์เด็ดสุด !!! Ultimate Family Suite
ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด สามารถพักได้ทั้งครบครัวโดยพักได้สูงสุดถึง 11 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 107 ตารางเมตร และความกว้างพื้นที่ระเบียงมีความกว้าง 20 ตารางเมตร
ภายในห้องยังมีสนามเด็กเล่น ผนังเลโก้ โรงหนังส่วนตัวแบบ 3 มิติ และสไลด์เดอร์ส่วนตัวอีกด้วย
ตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมไฮไลท์
หลายท่านอาจเคยคิดว่าการใช้ชีวิตอยู่บนเรือสำราญเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ แต่บนเรือสำราญลำนี้นอกจากจะได้ท่องเที่ยวไปตามเมืองต่างๆแล้ว บนเรือยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทุกท่านได้สนุกอย่างเต็มอิ่มและร่วมเดินทางไปกับเราอย่างมีความสุข โดยมีการเนรมิตบนสุดของให้เป็นสวนสนุกลอยน้ำกลางมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นต่างๆ...
จะมีอะไรบ้างไปดูกันได้ที่ชั้น 15 และ16 เลยจ้า
ขอบคุณเครดิตภาพจาก https://www.royalcaribbean.com/cruise-activities
- Sky Pad: สนุกกับกิจกรรม ที่ไม่ใช่แค่ลานแทรมโพลีน แต่ยังใช้เทคโนโลยี Virtual Reality มาข้องเกี่ยว โดยผู้เล่นต้องสวมใส่แว่น VR ที่ทำให้คุณเห็นภาพราวกับว่ากำลังผจญภัยอยู่ในเกม มีให้เลือกถึง 3 เกมด้วยกัน ได้แก่ Jump Rally, Sugar Leap และ Bass Bouncer ไปสนุกได้ที่ชั้น 16
-North Star: รอยัล แคริบเบียน อินเตอร์เนชั่นแนล ยังคงเดินหน้าต่อผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆที่ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับการแนะนำเครื่องเล่น North Star หนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดของเรือสำราญQuantum Class ซึ่งเครื่องเล่นนอร์ธสตาร์นี้จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับท่าน ซึ่งครั้งหนึ่งในชีวิตกับการขึ้นไปบนแคปซูลกระจก ล่องลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า 300 ฟุต หรือ 92 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลและยื่นออกนอกตัวเรือ ให้ได้ตื่นตะลึงไปกับทัศนียภาพ 360 องศาของท้องมหาสมุทร
เครื่องเล่น North Star นี้ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าบนสุดของเรือ ชั้น 16 โดยท่านจะได้ใช้เวลารวม 15 นาทีที่จะได้ตื่นเต้นไปกับทัศนียภาพที่ได้เห็น โดยจะเปิดให้ใช้บริการทั้งในวันที่ล่องอยู่กลางทะเลหรือแวะเทียบท่า
** โดยท่านจะได้ค้นพบว่าช่วงเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเมื่อได้สัมผัสกับภาพอาทิตย์โผล่พ้นเส้นขอบฟ้าตัดกับน้ำทะเลและลาลับลงจากขอบน้ำทะเล สิ่งเหล่านี้จะทำให้ท่านกลับออกไปจากเรือพร้อมกับความประทับใจแบบที่หาที่ใดบนโลกใบนี้ไม่ได้เลย
**นอกจากนี้ทางเรือยังมีพรีเมี่ยมแพ็คเกจพิเศษของเครื่องเล่นNorth Star ไว้นำเสนอเพื่อได้จับจองกันล่วงหน้า อาทิ รอบพิเศษสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและลง, รอบพิเศษส่วนตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสถานที่ในการขอแต่งงานอย่างเป็นส่วนตัวและสุดพิเศษ และเฉลิมฉลองงานแต่งงาน แพ็คเกจเหล่านี้รวมเครื่องดื่มต้อนรับก่อนขึ้นเครื่อง, แชมเปญโทสต์ระหว่างอยู่บนแคปซูล, ใบประกาศนียบัตรที่ระลึก และของว่างภายหลังจากลงจากแคปซูล
*****แนะนำว่าให้รีบทำจองล่วงหน้า เพราะในจุดนี้มีคนต่อคิวกันเยอะเลยที่เดียวจ้า****
-Ripcord by iFLY: เครื่องเล่นดิ่งผสุธาจำลอง เราจะได้เรียนรู้กับวิธีการบิน! กับฟีเจอร์ล่าสุดที่ได้มีการเพิ่มเติมขึ้นไปบนเรือที่เราพร้อมนำเสนอให้กับผู้ที่เสาะแสวงหาความตื่นเต้นระทึกใจกับเครื่องเล่น RipCord byiFLYครั้งแรกกับการสัมผัสประสบการณ์ 'ไร้แรงโน้มถ่วง' กลางท้องมหาสมุทร ที่จะให้ทุกคนได้ทดลองสนุกสนานและตื่นเต้นสุดขั้วไปกับบรรยากาศจำลองการบินภายใต้บรรยากาศที่ควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ โดยเริ่มด้วยการเข้าไปในหอแก้วใสสูง 23 ฟุต โดยแขกของ รอยัล แคริบเบียน จะเริ่มต้นล่องลอยอยู่กลางอากาศท่ามกลางทิวทัศน์ของท้องมหาสมุทรอันแสนตื่นตะลึง
เครื่องเล่น RipCord by iFly นี้ตั้งอยู่บนชั้น Sports Court ทางด้านท้ายเรือ ชั้น 16 โดยสามารถมองเห็นเครื่องเล่น FlowRider เซิร์ฟซิมูเลเตอร์ และไม่ไกลกันจากหน้าผาจำลอง โดยก่อนที่จะเริ่มต้นโบยบิน ผู้ร่วมกิจกรรมทุกท่านจะต้องลงทะเบียนและเข้าร่วมคอร์สเทรนนิ่งก่อน โดยจะทำการฉายวีดีทัศน์ถึงตำแหน่งและท่าทางที่ถูกต้องระหว่างการเล่น สัญญาณมือและความหมายจากผู้ฝึกสอน ก่อนที่จะสวมชุดและอุปกรณ์ ได้แก่ ชุดสูทสำหรับการบิน แว่นตา และหมวกกันน็อค และเริ่มต้นเดินเข้าสู่เครื่องเล่นพร้อมผู้ฝึกสอน ก่อนที่จะเริ่มเล่นกิจกรรมไปพร้อมๆกัน ก่อนที่ผู้ฝึกสอนจะเปิดโอกาสให้แขกได้ทดลองเล่นในแบบฟรีสไตล์ของตนเอง นอกจากนี้ยังมีบริการเก็บภาพและวีดีโอไว้จำหน่ายเป็นที่ระลึกด้วย
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ควรค่าแก่การมาสัมผัสเป็นอย่างมาก....
-Rock ClimbingWall : กิจกรรมปีนหน้าผาจำลองขนาดย่อมๆ ชั้น 15 ทดสอบความแข็งแรงกับกิจกรรมไต่หน้าผา ด้วยความสูง 30 ฟุต
-The FlowRider : ไอคอนที่เป็น ไฮไลท์ของสายเรือสำราญ Royal Caribbean ให้ท่านได้สนุกกับโต้คลื่นจำลอง ลองมาฝึกทักษะการเล่นเซิร์ฟของคุณได้ที่ชั้น 16 ได้เลยจ้า
นอกจากนั้นยังมีโซน SeaPlex เหมาะสำหรับทำกิจกรรมสนุก ไปพร้อมกันทั้งก๊วน ที่มีกิจกรรมสนุกๆ ในให้ทำอีกเพียบ เช่น, ลานสเก๊ต , บาสเก็ตบอล, ฟุตบอล ,Battle for Planet Z เกมยิงเลเซอร์ที่เล่นได้ทั้งครอบครัว ฟันดาบ, ปิงปอง ,ยิงธนู หรือจะเป็นกิจกรรมยอดนิยมอย่างรถบั๊ม Bumper Cars ซึ่งโซนเกมอาเคด ทั้งหมดนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จะเล่นเท่าไรก็ได้ ยกเว้นเกมตู้ที่ต้องเสียเงิน
ท่านที่สนใจกิจกรรมเพื่อสุขภาพ เรือลำนี้มีสระว่ายน้ำ ทั้งสระในร่มชมวิวพระอาทิตย์ตกและสระกลางแจ้ง รวมถึงสวนน้ำเอาใจเด็กๆ หรือจะวิ่งเบาๆยามเช้ากับลู่วิ่งกลางแจ้งบริเวณกราบเรือ หรือจะใช้เวลากับห้องฟิตเนส บนเรือลำนี้ก็มีพร้อม
นอกจากกิจกรรมแอ็กทีฟแล้ว ส่วนที่ขาดไม่ได้คือ โชว์ต่างๆ ที่เวียนเปลี่ยนไปทุกวัน หลักๆ มี 2 โชว์ ได้แก่ The Silk Road ว่าด้วยเรื่องเส้นทางสายไหม และ Showgirl! Past. Present. Future เอาใจคนชอบเพลงป๊อป
ขอบคุณเครดิตภาพจาก https://www.royalcaribbean.com/cruise-activities ,https://www.royalcaribbeanpresscenter.com
เอาใจขาช้อปที่โซน Royal Esplanade ที่ชั้น 4 และ 5 มีสินค้าปลอดภาษี และสินค้าแบรนด์เนมที่มีให้เลือกหลากหลาย หากใครที่กำลังมองหา น้ำหอม เครื่องปะดับ แว่นตา นาฬิกา กระเป๋า รองเท้า ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และของที่ระลึกต่างๆ พร้อม เชิญชมการแสดงระดับโลกในห้อง The Royal Theater หรือ ห้อง Two70° และ ท่านยังสามารถท่องราตรีบนเรือสำราญหรู คาสิโนลอยน้ำอย่าง Casino Royal หรือจิบเครื่องดื่มฟังดนตรีในเลานจ์ ไนต์คลับแบบที่คุณชอบ ได้ตลอดทั้งคืน
ว่าด้วยเรื่องอาหารการกิน
กินหรู...อยู่สบาย....สไตล์เรือสำราญ สำหรับอาหารจะรวมอยู่ในแพ็กเกจห้องพักแล้ว ท่านสามารถทานอาหารทั้ง 3 มื้อได้ตามห้องอาหารที่อยู่ในแพ็กเกจ ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ที่เด่นๆ ก็จะมีซีฟู้ดต่างๆ เช่น ล็อบสเตอร์ ปูอลาสก้า แกะย่าง สเต๊กเนื้อ อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารอินเดีย เบเกอรี ผักและผลไม้สด มีทั้งแบบที่เป็นบุฟเฟต์ที่ห้องอาหาร หรือคอร์สเมนู ซึ่งเป็นห้องอาหารที่ท่านสามารถทานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายมีให้เลือกทานบอกเลยว่า...เพียบ
-Main Dining Room: ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 และ 4 ช่วงเวลาที่เปิดให้บริการ เช้า ( 07.30 น. - 10.00น. ) , กลางวัน ( 12.00น. - 13.30 น. ) , เย็น ( 17.30 น. - 21.30 น. ) เป็นห้องอาหารแบบ A La Cate ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักบนเรือแห่งนี้ ใหญ่โตขนาดจุได้ 1,844 ที่นั่ง เสิร์ฟอาหารจีน ,ตะวันตก และ นานาชาติ แล้วแต่ว่ามื้อไหนคุณอยากทานที่ห้องอาหารอะไร เพราะแต่ละห้องก็จะมีบรรยากาศที่แตกต่างกัน
-WindJammer: ตั้งอยู่บริเวณชั้น 14 เป็นห้องอาหารบุฟเฟต์ สำหรับ 3 มื้อ จะเปิดให้บริการสำหรับอาหารมื้อเช้า เวลา 06.30-11.00 น. อาหารกลางวันตั้งแต่ 11.30-15.30 น. และมื้อเย็นสุดอลังการจะเปิดตั้งแต่ 18.00-21.00 น. อาหารมีหลากหลายทั้งนานาชาติ และ อาหารจีน รับรองว่าอิ่มทั้งวันแน่นอน
-Noodle Bar : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 14 เปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00น.-22.00น.บริการอาหารจำพวก ก๋วยเตี๋ยวหรือแนวเส้นๆ ที่เชฟจะทำให้สดๆ รวมถึงขนมหวานต่างๆ
- Splashaway Café : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 14 ใกล้ๆกับสระว่ายน้ำเด็กๆ เป็นคาเฟ่สำหรับเด็ก บริการอาหารเช้าและอาหารกลางวัน
- Sorrento's : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 14เปิดให้บริการตั้งแต่ 11.30น.ไปจนถึง 03.00น.กันเลยทีเดียว เป็นห้องอาหารที่ให้บริการเมนูพิซซ่าหลากหลายรูปแบบ บริการพิซซ่าร้อนๆเสิร์ฟจากเตาอบ ใหม่ๆ โรยหน้าด้วยชีส ไม่ว่าจะเป็น เปบเปอร์โรนี่, พิซซ่าไส้กรอก ,ฮาวายเอี้ยน ,ชีสคลาสิก, โชริโซ่ รวมถึงเมนูของหวาน ไอศครีม ช็อกโกแล็ตต่างๆอีกด้วย
-The Cafe @ Two70 : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เปิดให้บริการช่วงเช้า (ระหว่าง 7:30 น. - 10:30 น.),กลางวันและเย็น ( 11:30น.-19:30 น.) เป็นเลานจ์บาร์ ตั้งอยู่บริเวณโหน้าห้องโถงใหญ่ Two70 บริการอาหารเบาๆ หลากหลาย มีตั้งแต่ แซนด์วิช ,ซุป ,ขนมปัง, มัฟฟิน, เค้ก, ผลไม้ และเครื่องดื่ม (รวมถึงกาแฟชนิดพิเศษ)
- Seaplex Dog House : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 15เปิดให้บริการ(ระหว่างเวลา 11:30 น. -19:00 น.) เป็นบาร์อาหารจานด่วน ประเภท ขนมปัง ฮอทด็อก สลัส ที่ปรุงด้วยซอสเครื่องปรุงหลากหลาย
นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารพิเศษ ( แบบชำระเงินเพิ่ม / ไม่รวมในแพคเกจ ) เพื่อให้ลูกค้าได้เปลี่ยนบรรยากาศทานได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่
-Jamie’s Italian: ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เปิดให้บริการมื้อกลางวัน( ระหว่าง 12.00น.-13.30น. )และเย็น ( ระหว่าง 18.00 น. - 21.30 น.) สามารถรองรับได้ถึง 132 ที่นั่ง ห้องอาหารจากเชฟชื่อดังชาวอังกฤษ เจมี่ โอลิเวอร์ บริการอาหารอิตาเลียน แฟมิลี่สไตล์ เมนูเนื้อขึ้นชื่อ สปาเก็ตตี้ , ลาซานญ่า ,พาสต้า, ชีส รวมถึงของหวานต่างๆ
- Wonderland by Dadong : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เปิดให้บริการ ( ระหว่าง 06.00น.-21.30น.)สามารถรองรับได้ถึง 62 ที่นั่ง ห้องนี้มีการตกแต่งด้วยศิลปะมากมายสไตล์ที่ไม่เหมือนใครเป็นร้านอาหารจีนพิเศษ (มีค่าใช้จ่ายต่อคน) โดยต้องทำการจองล่วงหน้า ความพิเศษของห้องอาหารห้องนี้คือพนักงานจะนำเมนูอาหารมาให้ โดยเป็นกระดาษที่ว่างอยู่ในแป้นกระดานสีทองพร้อมกับพู่กัน ท่านสามารถจุ่มพู่กันในน้ำระบายในแป้นเมนู จากนั้นเมนูทั้งหมดก็จะปรากฏขึ้น มีการคัดสรรค์เมนู โดยเชฟชื่อดัง Dong Zhenxiang และตกแต่งด้วยความพิถีพิถันน่ารับประทาน
- Chops Gille : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เปิดให้บริการมื้อเย็น ( ระหว่าง 17.30น.-21.30น. ) สามารถรองรับได้ถึง 130ที่นั่ง มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ท่านละ US39 เป็นร้านอาหารสเต๊กเฮาส์ซีฟู้ดระดับพรีเมี่ยมอาหารคุณภาพและคัดสรรมาอย่างดี ด้วยสไตล์ร่วมสมัยผสมผสานกับสเต็กแบบดั้งเดิม เมนูที่พลาดไม่ได้คือ เสต็กเกรดเอเนื้อวัวชั้นเลิศ ,อาหารทะเลสุดพิเศษ,กุ้งล็อบสเตอร์ ,ปลากระพงย่าง ,หอยเชลล์และอืนๆอีกมากมาย รวมถึงเมนู ของหวาน พายช็อกโกแลต, ช็อคโกแลตลาวา,เค้ก, ชีสเค้ก,ไอศครีม ต่างๆ อีกด้วย
- Vintages : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เป็นบาร์ไวน์ที่ขึ้นชื่อของ RoyalCaribbean บริการ ไวน์ชั้นดีและแชมเปญจำนวนมาก รวมถึงเมนูมีอาหารเรียกน้ำย่อย สำหรับนักดื่มห้ามพลาดจ้า
-Izumi Japanese Cuisine : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เปิดให้บริการมื้อกลางวัน ( ระหว่าง 12.00น.-13.30น. )และเย็น ( ระหว่าง 18.00 น. - 21.30 น.) โดยต้องจองล่วงหน้า เป็นร้านอาหารจานพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของ RoyalCaribbean ที่มีอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นส่วนใหญ่ ร้านอาหารเป็นอาหารตามสั่ง มีเมนูพิเศษที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ,ซาชิมิ ข้าวปั้นหน้าต่างๆ (เมนู ย่าง/ ไก่, เนื้อวัว), สลัดสาหร่าย wakame ,เกี๊ยวซ่า, อาหารเรียกน้ำย่อยเย็น, อาหารทะเลพรีเมี่ยม (ปลาทูน่า, กุ้ง, กุ้งก้ามกราม, ปลาไหล, ปู) ของหวาน (ไอศครีม, แพนเค้ก เป็นต้น) และเครื่องดื่มพิเศษ (ค็อกเทล, เบียร์, เหล้า,สาเก) และอื่นๆอีกมากมาย
-Sichuan Red :ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 เปิดให้บริการมื้อเย็น (ระหว่าง 17.30น.–21.30 น.) เป็นร้านอาหารจีนใหม่สุด ที่ให้บริการอาหารตำรับดั้งเดิมดั้งเดิมของมณฑลเสฉวนของจีน
-La Patisserie :ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 บริการอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ของว่าง,ของหวาน,มาการอง เป็นต้น
-The Hot Pot : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 14
-Teppanyaki : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 14 เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพิเศษของฮิบาชิต้นตำหรับ โดยเชฟมาปรุงแบบสดๆ ตั้งแต่สเต็กชั้นดีไปจนถึงอาหารทะเลพร้อมรสชาติที่ละมุน
-Chef’sTable : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เป็นห้องรับประทานอาหารส่วนตัว (รองรับได้ 16 ท่าน) มีค่าใช้จ่าย ท่านละUS $85 โดยต้องทำการจองและแต่งกายเป็นทางการ ห้องนี้เป็นส่วนหนึ่งของร้านอาหาร Chops Grille โดยท่านจะได้ เมนู 6 คอร์ส ที่เชฟจะจับคู่กับไวน์พรีเมี่ยม มีระยะเวลาในการทาน 3 ชั่วโมง
-Tea & Coffee Shop : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 คาเฟ่ที่มีบริการทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น มีเมนูหลาหลายทั้ง ชา,กาแฟ และอื่นๆ รวมถึงขนมโฮมเมดสไตล์จีนและตะวันตก
ขอบคุณเครดิตภาพจาก https://www.royalcaribbean.com/cruise-ships/spectrum-of-the-seas ,https://www.royalcaribbeanpresscenter.com
นอกจากข้างต้นนี้แล้วยังมีพื้นที่กิจกรรมอื่นๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Bars & Lounges รวมไปถึงพื้นที่กิจกรรมสำหรับเด็กๆ ก็ได้ถูกรวบรวมไว้พร้อมบนเรือลำนี้...
***Cruise Vacations Start Here….Cruise Tour eXperts by Chic Journey 2020***
ขอบคุณเครดิตภาพ https://www.royalcaribbeanpresscenter.com