ทัวร์กรุ๊ปสงกรานต์ 8-17 เม.ย.68 VIVA ONE CRUISE 10วัน7คืน เที่ยวเรือแม่น้ำระดับ5ดาว ล่องแม่น้ำไรน์ เทศกาลทิวลิป บิน TG เมษายน 2568:Europe River Cruise

รหัสสินค้า : CTX-GU001-VIVA ONE TULIP BLOSSOM-TG

ราคา

189,000.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 189,000.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

พักผ่อนเติมความสดชื่นกับบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำไรน์

ชมเทศกาลทิวลิปที่สวนดอกไม้ Keukenhof ช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุด

**พร้อมพาเที่ยวทุกวัน...ไม่ต้องแพคกระเป๋าเปลี่ยนที่นอน

ราคา: เริ่มต้น 189,000.-บาท

Highlight! เรือสำราญ 5 ดาว All Inclusive

**Free Wifi , **Free Mini bar

**All you can eat รวมอาหารทุกมื้อ ทุกห้องอาหาร

**All you can drink รวมเครื่องดื่มทุกมื้ออาหาร และเครื่องดื่มที่บาร์ไม่อั้น

เส้นทาง:เยอรมัน • เนเธอร์แลนด์ • เบลเยี่ยม

สายการบิน : Thai Airways (TG)

รวม : ที่พักบนเรือ 7 คืน,ตั๋วเครื่องบินตามเส้นทางที่ระบุ,ค่าวีซ่าเชงเก้น,รถรับส่งระหว่างสนามบิน-ท่าเรือ ,ทัวร์บนฝั่งตามที่ระบุ,ภาษีท่าเรือ ,ค่าทิปพนักงานบนเรือ ,อาหารบนเรือทุกมื้อ ,กิจกรรมตามที่ระบุในตั๋วเรือ,ค่าทิปไกด์และคนขับรถ,**มีหัวหน้าทัวร์ร่วมเดินทาง

ไม่รวม :ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ,ค่าทิปหัวหน้าทัวร์

>>ขอสงวนสิทธิ์หากเรือมีการปรับเปลี่ยนท่าเทียบเรือ ซึ่งทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าต่อไป ,โปรแกรมการท่องเที่ยว Shore Excursion ของเรือ อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการเข้าออกของตารางเดินทางเรือ

**หมายเหตุ:ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง ที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น ,กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

เดินทาง : **สงกรานต์ 8 - 17 เมษายน 2568

ล่องเรือ VIVA ONE โดยเรือจะล่องไปตามแม่น้ำไรน์และจอดเทียบท่าตามใจกลางเมืองต่างๆ ให้ท่านมีโอกาสได้เที่ยวชมความงามของเมืองต่างๆ ในยุโรป รวมทั้งเทศกาลประจำปีของแต่ละเมืองตลอดเส้นทาง ท่านจะได้ใช้เวลาพักผ่อนและใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเรือ อาทิ ฟิตเนส สปา มินิกอล์ฟ สระว่ายน้ำ ด้วยการบริการระดับ 5 ดาว พร้อมบริการอาหารเทียบเท่าระดับมิชลินไกด์ และที่ขาดไม่ได้คือท่านสามารถใช้บริการ High Speed Internet free WIFI ได้อย่างเต็มที่บนเรือตลอดเส้นทาง
**การเดินทางเริ่มต้นจากต้น “แม่น้ำไรน์” ในดุสเซลดอร์ฟ เมืองหลวงแห่ง North Rhine-Westphalia เมืองสำคัญทางอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของเยอรมัน ท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศการล่องเรือ ที่ล่องไปตามแม่น้ำสายนี้ ซึ่งมีอาณาเขตติดกับประเทศเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม  นำท่านชมเทศกาลทิวลิปที่มีเพียงปีละหนึ่งครั้งที่สวนดอกไม้ Keukenhof ช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุดคือตอนที่ดอกทิวลิปบานสะพรั่ง

วันแรก วันอังคารที่ 8 เม.ย. 68 : สนามบินสุวรรณภูมิ

20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินไทย (TG) เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ ดูแลอำนวยความสะดวกด้านเอกสารเช็คอินและสัมภาระในการเดินทาง
23.45 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินแฟรงก์เฟริต์ โดยเที่ยวบินที่ TG920

วันที่สอง วันพุธที่ 9 เม.ย. 68  : สนามบินแฟรงก์เฟริต์ เยอรมัน - ดุสเซลดอร์ฟ – ลงเรือ VIVA ONE

06.15 น.เดินทางถึงสนามบินแฟรงก์เฟริต์ ประเทศเยอรมัน (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าเมืองไทย 6 ชั่วโมง) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อย
08.00 น.นำท่านเดินทางสู่เมืองดุสเซลดอร์ฟ (ใช้เวลาเดินทาง 3.20 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่ง North Rhine-Westphalia เมืองสำคัญทางอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของเยอรมัน  เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเยอรมนี เมืองแห่งมหาวิทยาลัยและศูนย์กลางของศิลปะและแฟชั่น มีใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทั้งย่านช้อปปิ้งที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าที่หรูหรา พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์อีกกว่า 100 แห่ง
13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเดินเล่นย่าน เมืองเก่าดุสเซลดอร์ฟ (Altstadt) ยังคงได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี โดยไฮไลท์ของเมืองเก่า คือ ย่านตลาดที่มี Town Hall (Rathaus) และรูปปั้นม้าขนาดใหญ่ จุดเด่นอีกอย่าง คือ ปราสาททาวเวอร์ (Schlossturm) ซึ่งสามารถเดินผ่านย่านเมืองเก่า เลียบเลาะริมฝั่งแม่น้ำไรน์ เพื่อชมความงดงามของเมืองได้อย่างเพลิดเพลิน ถนนโคนิกซาลลี (Königsallee) ถนนที่สวยที่สุดของเยอรมนี เป็นถนนช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดของดึสเซลดอร์ฟ เปรียบได้กับ Avenue Montaigne แห่งกรุงปารีส ถนนที่เต็มไปด้วย ร้านค้าหรู ศูนย์การค้า High End หอศิลป์ รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่หรูหราจำนวนมาก ตลอดทางยาวเกือบ 2 กิโลเมตร สามารถเดินเล่นชิว ๆ ไปตามสองด้านของคูเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ตลอดทางยาว เพิ่มเสน่ห์และความโรแมนติกจนทำให้ถนนสายนี้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดของเยอรมนี
16.00 น.นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อให้ท่านเช็คอินบนเรือ VIVA ONE ที่จอดเทียบท่ารอให้การต้อนรับท่านอย่างอบอุ่น
17.00 น.เรือแล่นออกเดินทางจากท่าเรือเมืองดุสเซลดอร์ฟ  ล่องไปบนแม่น้ำไรน์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ ร่วมกิจกรรมแนะนำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรือและความปลอดภัยในการท่องเที่ยวทางเรือ โดยการต้อนรับของกัปตันและคณะลูกเรือ
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 1)

วันที่สาม วันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย. 68: กรุงอัมสเตอร์ดัม – จตุรัสดัมสแควร์ – ย่านโคมแดง - ชมพิพิธภัณฑ์ ไฮเนเก้น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
09.00 น. เรือเดินทางถึงกรุงอัมสเตอร์ดัม
09.30 น. นำท่านสัมผัสกับความสวยงามและจิตวิญญาณแห่งสายน้ำของเมืองอัมสเตอร์ดัม ความสวยงามของตึกราม โบสถ์ และสถานที่สำคัญที่เรียงรายตามแนวคลอง รวมถึงเพลิดเพลินไปกับการชมร้านค้าต่างๆและได้เรียนรู้เกี่ยวกับยุคทองของสถาปัตยกรรมดัตช์ที่ถูกจัดให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก โดยนำท่านล่องไปบนผืนน้ำตามคลองเฮเรนกราทช์ (Herengracht), ไคเซอร์กราทช์ (Keizersgracht) และ พรินเซนกราทช์ (Prinsengracht) ซึ่งเป็นคลองที่มีชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัม และลอดผ่านใต้สะพานที่สวยงามหลายแห่งซึ่งทอดยาวผ่านเส้นทางน้ำรอบๆ เมือง
11.00 น. นำท่านชมพิพิธภัณฑ์ ไฮเนเก้น เอ็กซ์พีเรียนซ์  HeinekenTour ® brewery (1.5 hrs)ไฮเนเก้นเป็นเบียร์ที่มี ประวัติศาสตร์ย้อนหลังเก่าแก่ไปจนถึง ปี 1864 ซึ่งแน่นอนว่าการผลิตย่อมมีเคล็ดลับและวิธีการที่น่าสนใจ โรงงานเก่าของไฮเนเก้นนี้ เปิดให้เข้าชมขั้นตอนการผลิต ประวัติการทำเบียร์ ม้าลากรถบรรทุกถังเบียร์
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับขึ้นเรือเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ
บ่ายนำท่านเดินเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าที่บริเวณ จัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) ศูนย์กลางของเมืองที่มีอนุสรณ์สงครามเพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 และอดีตศาลาว่าการเมืองที่หลุยส์ โบนาปาร์ต เคยใช้เป็นพระราชวังหลวงในช่วงที่จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศสเรืองอำนาจ จากนั้นนำท่าน แวะชมโรงงานเจียระไนเพชร และอัญมณีซึ่งเป็นงานฝีมือลือชื่อของทางเนเธอร์แลนด์มานานพร้อมกันนั้นท่านจะมีโอกาสเลือกซื้อเพชรเม็ดงามในราคาเป็นกันเองจากโรงงานอีกด้วย นำท่านผ่านชมRed Light Street ซึ่งเป็นย่านการค้าเพศพาณิชที่ถูกกฎหมาย อยู่กลางเมืองอัมเตอร์ดัม ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เรือ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
หลังอาหารค่ำ มีเวลาให้ท่านขึ้นฝั่งเดินเที่ยวชมตัวเมือง จนได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับขึ้นเรือ
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 2) เรือจอดค้างคืนกรุงอัมเตอร์ดัม

วันที่สี่ วันศุกร์ที่ 11 เม.ย. 68 : กรุงอัมสเตอร์ดัม – สวน Keukenhof - หมู่บ้านกังหันลมซานส์ สคันส์ –พิพิธภัณฑ์แวนโก๊

เรือนำท่านจอดเทียบท่าเรือเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
09.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เคอเคนฮอฟ Keukenhof ชมการจัดแสดงดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ด้วยการจัดสวนในแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี  สวนแห่งนี้จะเปิดให้ชมในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม เคอเคนฮอฟ เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเมือง Lisse ในเนเธอร์แลนด์ สวนสาธารณะเคอเคนฮอฟครอบคลุมพื้นที่ 32 เฮกตาร์ และปลูกหัวดอกไม้ประมาณ 7 ล้านต้นในสวนทุกปี เคอเคนฮอฟเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในด้านดอกทิวลิป ออกดอกบานสะพรั่งดูละลานตา นำท่านเดินชมสวนที่ได้ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม ประกอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่อันเก่าแก่ มีทางเดินอันร่มรื่น ชมงานประติมากรรมประดับสวนอยู่เป็นระยะ มีสระน้ำและน้ำพุ การจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกไม้มากมาย มีการจัดสวนตัวอย่าง การวางแผนจัดปลูกไม้ดอกไม้ใบ มีร้านอาหาร รวมทั้งคาเฟ่ให้ท่านได้พักผ่อน
13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ช่วงบ่ายได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลม ซานส์ สคันส์ (ZAANSE SCHANS) หมู่บ้านอนุรักษ์วัฒนธรรมเก่าแก่และวิถีชีวิตของชาวเนเธอร์แลนด์สมัยก่อนที่มีกลิ่นอายหรือสัญลักษณ์ของความเป็นเนเธอร์แลนด์ไว้ได้อย่างครบถ้วน อดีตในหมู่บ้านนี้มีกังหันลมกว่า 800 ตัวที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งอาจจะลดน้อยลงไปบ้างในปัจจุบันและได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ นอกจากหมู่บ้านซานส์ สคันส์ ยังมีโรงสาธิตวิธีการทำชีส และทำรองเท้าไม้ให้ท่านได้เข้าชม อิสระให้ท่านเที่ยวชมหมู่บ้านน่ารักแห่งนี้ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับสู่ท่าเรือ
15.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum) พิพิธภัณฑ์ภาพวาดของแวนโก๊ะ ตั้งอยู่ด้านหลังของ Rijksmuseum มีภาพวาดมากกว่า 200 ภาพ ซึ่งภาพของแวนโก๊ะส่วนใหญ่จะสะท้อนมาจากความรู้สึกของเขา เช่น ภาพ The Potato Eaters แสดงให้เห็นชีวิตที่ยากลำบากของคนยากจนในชนบทที่เขาอาศัยอยู่ในเวลานั้น นอกจากนี้ยังมีภาพที่เป็นที่รู้จักอันดับต้นๆ เลยก็คือ Bedroom in Arles และ Vase with Sunflowers
17.00 น.ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับมายังท่าเรือ
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
หลังอาหารค่ำ ให้ท่านขึ้นฝั่งเดินเที่ยวชมตัวเมือง จนได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับขึ้นเรือ
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 3)

วันที่ห้า วันเสาร์ที่ 12 เม.ย. 68  : เอ็นคอยเซนส์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ - พิพิธภัณฑ์ทะเลใต้

06.00 น.เรือแล่นออกเดินทางจากท่าเรือเมืองอัมสเตอร์ดัม ล่องไปบนแม่น้ำไรน์
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
13.00 น.เรือเดินทางถึงเมือง Enkhuizen (เอ็นคอยเซนส์) อดีตเป็นเมืองที่รุ่งเรืองมากในยุคล่าอาณานิคมและได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการล่าปลาแฮริ่ง ต่อมาภายหลังมีเรื่องการสร้างเขื่อนและกั้นน้ำทำให้เมืองนี้ไม่สามารถเป็นเมืองท่าชั้นนำได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามยังมีสถานที่น่าเที่ยวอย่างพิพิธภัณฑ์แสดงวิถีชีวิตในอดีตของเมืองแห่งนี้ให้ท่านได้สำรวจ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ
14.00 น.นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ทะเลใต้ Zuiderzeemuseum นี้แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ Indoor และ Outdoor จัดแสดงวิถีชีวิตชาวบ้านโดยการสาธิตการประกอบอาชีพในอดีตอย่างสมจริง เช่น การปิ้งปลา, การทอผ้า, การเลื่อยไม้, การทำแหหรืออวนจับปลา, การต่อเรือ, การตากกุ้ง, และการทำเชือก เป็นต้น ซึ่งการแสดงเหล่านี้จะจัดขึ้นกลางแจ้งและผลผลิตที่ได้จากการแสดงสามารถนำไปจำหน่ายได้จริง นอกจากนี้ยังมีห้องที่จัดแสดงวิถีชีวิตในศตวรรษก่อนหน้า เกมโบราณ และเครื่องสูบน้ำให้ผู้เข้าชมได้เล่นและสัมผัสประสบการณ์จริง จนกระทั่งได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับสู่ท่าเรือ
18.30 น.เรือแล่นออกจากท่าเมืองเอ็นคอยเซนส์ ล่องไปบนแม่น้ำไรน์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 4)

วันที่หก วันอาทิตย์ที่ 13 เม.ย. 68 : เมืองรอตเทอร์ดาม - เมืองเดลฟท์ - กรุงเฮก - บ้านลูกเต๋าไคก์คูมูส

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
09.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองรอตเทอร์ดาม (ROTTERDAM) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป จึงเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่ง
09.30 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองเดลฟท์ (Delft) อีกเมืองหนึ่งที่มีความสวยงามและสำคัญทาง  ประวัติศาสตร์ เนื่องจากเมืองนี้ในช่วงปี 1572-1584 เคยเป็นที่พำนักของเจ้าชายวิลเลี่ยมส์แห่งออเรนจ์ พระบิดาแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ พระองค์ใช้เมืองเดลฟท์เป็นที่บัญชาการต่อสู้กับสเปน
นำท่านเยี่ยมชม โรงงานเครื่องกระเบื้องเคลือบ (Royal Delft Factory and museum) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังเป็นแห่งเดียวที่ยังคงผลิตมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และเลือกซื้อเป็นของที่ระลึกตามอัธยาศัย จากนั้นเดินทางสู่ กรุงเฮก (Hague) ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของรัฐบาลดัตช์ อาคารรัฐสภา ศาลฎีกา และสภาแห่งรัฐ รวมไปถึงเป็นที่ประทับของพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์ ถึงแม้ว่ากรุงเฮกจะไม่ได้เป็นเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและการพิมพ์ และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
นำท่านผ่านชม บินเนนฮอฟ (Binnenhof) อาคารรัฐสภาของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเฮก บินเนนฮอฟเป็นที่ตั้งของกระทรวงต่างๆ และเป็นสำนักงานของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ที่ใช้ในการประชุมในวาระต่างๆ ตัวอาคารของบินเนนฮอฟสร้างขึ้นอย่างงดงามด้วยสไตล์โกธิค รอบนอกมีบึงน้ำขนาดใหญ่และตกแต่งด้วยสวนอย่างร่มรื่น เป็นอีกหนึ่งจุดชมเมืองและจุดถ่ายภาพของกรุงเฮกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
นำท่านผ่านชม พระราชวังสันติภาพ (Peace Palace) ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของกรุงเฮก พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมนีโอเรเนซองอย่างงดงามและโดดเด่นด้วยหอคอยสูง พระราชวังสันติภาพได้รับการยกย่องว่าเป็นบัลลังก์แห่งกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของศาลโลก และสถาบันกฎหมายระหว่างประเทศแห่งกรุงเฮก
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับขึ้นเรือเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ
บ่าย นำท่านเดินชม เมืองรอตเทอร์ดาม ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มืชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยอีราสมุส ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านเศรษฐศาสตร์ และสถาบันสถาปัตยกรรม เป็นมหานครริมน้ำ เมืองหลวงทางวัฒนธรรม มีมรดกทางการเดินสมุทร และมีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ตั้งอยู่มากมาย รอตเทอร์ดามได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้มีการสร้างบูรณะสร้างอาคารใหม่รวมถึงตึกระฟ้าจำนวนมากมาย จน ในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากการที่ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำแม่น้ำไรน์ แม่น้ำเมิซ และแม่น้ำสเกลต์ รอตเทอร์ดาม จึงเป็นจุดเริ่มต้นสู่การคมนาคมทางเรือสู่ภูมิภาคอื่นของยุโรปตะวันตก รวมถึงเขตอุตสาหกรรมในประเทศเยอรมัน มีโครงข่ายระบบ ราง ถนน คลองเชื่อมจนรอตเทอร์ดามได้รับฉายาว่า ประตูสู่ยุโรป
นำท่านชม บ้านลูกเต๋าไคก์คูมูส (KIJK KUBUS THE CUBIC HOUSES) กลุ่มอาคารเหลืองขาวทรงลูกเต๋า 39 หลัง ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบสาขาประหยัดพลังงานโดยสถาปนิกนาม PIET BLOEM มีเวลาให้ท่าน เดินเล่นชมเมือง เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกท้องถิ่นตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เรือ
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 5)
19.00 น.เรือแล่นออกจากท่าเมืองรอตเทอร์ดาม

วันที่เจ็ด วันจันทร์ที่ 14 เม.ย. 68 : แอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม – Old Town - พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต

05.30 น.เรือนำท่านจอดเทียบท่าเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
09.00 น.นำท่านเที่ยวชม เมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp)  เมืองแห่งเพชร ที่ใหญ่อันดับสองของเบลเยียม อยู่ค่อนไปทางตอนเหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตรงจุดศูนย์กลางของทวีปยุโรป การที่ตัวเมืองตั้งอยู่ปากอ่าวของแม่น้ำ เชลท์(Scheldt) ที่ไหลออกทะเลเหนือ และเชื่อมต่อกับแม่น้ำสายสำคัญๆ ของยุโรปทำให้กลายเป็นท่าเรือที่สำคัญมาตั้งแต่ก่อน ผ่านชมเมือง เริ่มต้นจากจตุรัสใจกลางเมือง (Grote Markt) เป็นลานกว้างที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่อันงดงาม ด้วยศิลปะแบบเรเนสซองส์ อาคารที่โดดเด่นที่สุดคือ ศาลากลาง (City hall) อายุกว่า400 ปี ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของจัตุรัส เป็นศิลปะของอิตาลี และดัชท์ผสมกัน ส่วนตรงกลางของจัตุรัส มีน้ำพุศิลปะแบบบาร็อก มีรูปปั้นบาร์โบ วีรบุรุษผู้กล้าในตำนานของเมือง ชื่อของแอนต์เวิร์ป (antwerpt) มาจากคำว่า Hand ในภาษาดัทซ์ แปลว่า มือและคำว่า "Werpen" แปลว่า ขว้าง มาจากตำนานของเมืองที่เล่ากันว่ามียักษ์เกเรตนหนึ่ง กั้นทางไม่ให้ชาวเรือที่ผ่านไปมาในแม่น้ำ ต้องจ่ายค่าผ่านทางก่อน ถ้าไม่จ่ายจะถูกยักษ์ตัดมือ แต่มีผู้กล้าคือหนุ่มน้อย Silvius Brabo ที่สามารถล้มยักษ์ และตัดมือยักษ์ขว้างข้ามแม่น้ำไปเมืองนี้เลยมีชื่อว่า Handwerpen และกลายมาเป็น antwerpt ดังปัจจุบัน ผ่านชมโบสถ์เก่าแก่มากมาย
นำท่านเข้า ชมวิหารพระแม่ (The Cathedral of Our Lady) ซึ่งเป็นงานศิลปะแบบโกธิค ชิ้นเยี่ยมของโลก อายุกว่า 700 ปี ภายในมีหน้าต่างกระจกสี และภาพเขียนชิ้นเยี่ยมของศิลปินชื่อดังคือ ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เรือ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ
ช่วงบ่าย  นำท่านเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเบลเยียม Chocolate Nation Museum สวรรค์ของคนรักช็อกโกแลตกับพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงพัฒนาการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ของพืชเศรษฐกิจหลักประจำเมืองบรัสเซลส์อย่างต้นโกโก้ ต้นน้ำของผลิตผลยอดนิยมในเบลเยียมที่แปรรูปมาเป็นโกโก้ ช็อกโกแลต รสชาติเยี่ยม ให้ความรู้ด้านการเกษตรกรรมเม็ดโกโก้ กรรมวิธีขั้นตอนการทำช็อกโกแลต วัฒนธรรมการรับประทาน ช๊อกโกแลตจากเชฟคุณภาพที่มาสาธิตวิธีทำช็อกโกแลตให้เราชมกันในพิพิธภัณฑ์
จากนั้นมีเวลาให้ท่านช้อปปิ้ง ย่าน The Meir ถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงเต็มไปด้วย ร้านอาหาร ร้านขายของขนาดใหญ่ทั้งสองด้านของถนน
18.00 น. ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับมายังท่าเรือ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 6)
20.00 น.เรือแล่นออกจากท่าเรือเมืองแอนต์เวิร์ป

วันที่แปด วันอังคารที่ 15 เม.ย. 68 : ไนเมเคิน เนเธอร์แลนด์ - ชมเมือง ตลาดกลาง Grote Markt เรือแล่นสู่เมือง Nijmegen ไนเมเคิน ล่องไปบนแม่น้ำไรน์ 

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
ให้ท่านอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย สนุกกับกิจกรรมต่างๆบนเรือ อาทิ ฟิตเนส สปา มินิกอล์ฟ สระว่ายน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเรือ
12.00 น.เรือเดินทางถึงเมือง Nijmegen ไนเมเคิน
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ
13.00 น.นำท่านเที่ยวชม เมืองไนเมเคิน ผ่านประตูเมืองไนเมเคิน (Kerkboog) เป็นประตูเมืองในเมืองไนเมเคิน เชื่อมต่อระหว่างตลาดกลาง Grote Markt และโบสถ์ Stevenskerk ก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1542 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1545 ต่อมาประตูได้รับความเสียหายระหว่างการทิ้งระเบิดที่เมืองไนเมเคิน สถานที่แห่งนี้จึงได้รับการบูรณะและซ่อมแซ่มอีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1955 และ 1972 และกลายมาเป็นที่อยู่อาศัย ปัจจุบันประตูเมืองแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในเมือง
ไนเมเคินจากทั้งหมด 241 แห่ง นำท่านชม โบสถ์เก่าแก่ที่สุดในเมืองไนเมเคิน (Saint Stephen’s Church(Stevenskerk) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1254 บนเนินเขาเล็กๆ Hundisburg Stevenskerk เป็นโบสถ์สไตล์กอทิกตอนปลายตั้งอยู่ใจกลางศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง  ไนเมเคิน ติดกับตลาดกลาง Grote Markt ภายในมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและแสงที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกสี ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับมายังท่าเรือ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 7)**จัดเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น**

วันที่เก้า วันพุธที่ 16 เม.ย. 68 :  เมืองดุสเซลดอร์ฟ – เมืองแฟรงก์เฟริต์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
07.00 น. เรือเดินทางกลับถึงที่หมายเดิมของจุดเริ่มต้นการเดินทางที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ
08.30 น. นำท่านเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟริต์ (ใช้เวลาเดินทาง 3.30 ชั่วโมง) 
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารไทย
บ่าย ชมเมืองแฟรงค์เฟริต์ บริเวณจัตุรัสโรมเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่าที่เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงาม ซึ่งได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายไว้ได้ทั้งหมด  อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ถนน Goethestrasse เป็นถนนที่หรูหราที่สุดของแฟรงค์เฟิร์ต ถนนสายนี้เต็มไปด้วยที่รวบรวมแบรนด์ต่างๆ เช่น Miu Miu, Tiffany, Cartier และ Gucci, Louise, Nespresso ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งอย่างเต็มที่
16.00 น.จนกระทั่งได้เวลาอันควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินแฟรงก์เฟริต์และทำเรื่องคืนภาษี TAX REFUND  มีเวลาให้ท่านช้อปปิ้งสินค้า DUTY FREE ตามอัธยาศัย
20.40 น.ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินที่ TG 923

วันที่สิบ วันพฤหัสบดีที่ 17 เม.ย. 68 :  สนามบินสุวรรณภูมิ  

 12.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพและความประทับใจ..

อัตราค่าบริการ (บาท)

EMERALD ชั้น 1
มีหน้าต่าง 15 ตรม.

RUBY ชั้น 2
มีระเบียง 19 ตรม.

DIAMONDชั้น 3
มีระเบียง 19 ตรม.

ผู้ใหญ่ พักห้องคู่

189,000

202,000

212,000

เด็กต่ำกว่า 12 ปี
พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน

168,000

178,000

188,000

พักเดี่ยว เพิ่มท่านละ

35,000

40,000

45,000

มีวีซ่าแล้วหักคืน

4,500. -

ไม่ใช้ตั๋วหักคืน

 40,000.-

***ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับจอง 3 ท่าน ต่อ 1 ห้องเนื่องจากทางเรือไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่านค่ะ***

Visitors: 141,896