เที่ยวอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ ก.ย.-ต.ค.67 ทัวร์อิตาลี 8วัน บิน TG เดินทาง กันยายน ตุลาคม 2567 : EUROPE ITALY DOLOMITE

รหัสสินค้า : CJN-U013-ITALY DOLOMITE

ราคา

109,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 109,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวอิตาลีอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ ตามรอยโรมิโอแอนด์จูเลียต

นครรัฐวาติกัน เที่ยวเกาะเวนิส ฟลอเรนซ์ หอเอนปิซ่า 

ราคา : เริ่มต้น 109,900.-บาท

โดยสายการบิน : Thai Airways (TG)

•เมืองมิลาน•เมืองซีร์มิโอเน่•ทะเลสาบกราด้า•อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์•ทะเลสาบคาเรซซ่า•เมืองออร์ติเซ่A•ทะเลสาบมิซูลิน่า•NOVENTA DI PIAVEDESIGNER OUTLET•เกาะเวนิส•พักค้างคืนบนเกาะเวนิส•เมืองฟลอเรนซ์•เมืองปิซ่า•หอเอนปิซ่า•เมืองมิลาน•มหาวิหารมิลาน• GALLERIA VITTORIO•EMANUELE II•เมืองโคโม่•ทะเลสาบโคโม

**ที่พัก 4 ดาว

เดินทาง 19-26 กันยายน 2567// 12-19,18-25 ตุลาคม 2567

หมายเหตุ ; โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป้นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง

วันแรก :กรุงเทพ-สนามบินสุวรรณภูมิ (-/-/-)

21.00 น.  คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ  อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 แถว H สายการบินไทย (TG) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง:เมืองมิลาน-เมืองซีร์มิโอเน่-ทะเลสาบกราด้า-อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์-ทะเลสาบคาเรซซ่า (-/L/D)

00.40น. ออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG940(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
07.35 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นำท่านเดินทางสู่ เมืองซีร์มิโอเน่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง เป็นเมืองเก่าแก่อายุนับ 2000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (LAKE GARDA) ที่สวยงาม ก่อนศตวรรษที่ 15 ซีร์มิโอเน่ อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองเวนิส หรือจะเรียกได้ว่าเป็นอาณาบริเวณหนึ่งของเมืองเวนิสนั่นเอง เพราะสมัยนั้นเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลียังไม่ได้รวมตัวกันต่างเป็นเอกเทศปกครองกันเองแถมมีการทำสงครามเพื่อแย่ง ชิงเมือง ซีร์มิโอเน่เลยเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ที่สำคัญมีหลักฐานและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคสมัยโรมันทั้งกำแพงเมืองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันสงคราม ในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีผู้คนที่มีฐานะในยุคสมัยโรมันใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและปัจจุบันก็เป็นเมืองพักผ่อนริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง THE SCALLGER OF SIRMIONE สร้างในปี 1277 เมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล Scaliger
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เขตอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมงนำท่านแวะชม ทะเลสาบคาเรซซ่า Carezza Lake หรือในภาษาอิตาเลี่ยนเรียกว่า “Lec de ergobando” แปลได้ว่า ทะเลสาบสายรุ้ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทะเลสาบที่มีชื่อเสียงในอุทยานโดโลไมท์ น้ำในทะเลสาบมีหลายเฉดสีตั้งแต่ เขียว,เทอร์ควอยซ์,ฟ้าและน้ำเงิน ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ถูกเรียกว่าทะเลสาบสายรุ้ง มีฉากหลังเป็นเทือกเขา Latmar  ด้วยวิวทะเลสาบสีเขียวทองที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเขาสูงปลายแหลม สะท้อนสีสันหลากหลายของธรรมชาติ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน (Bolzano) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเขตโดโลไมท์ โบลซาโน่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ที่นี่แม่น้ำ Talvera จะไหลลงไปในแม่น้ำ Israco และมารวมกันเป็นแม่น้ำ Adige (เมืองโบลซาโน เป็นเมืองที่ใช้ในการพักค้างคืนเท่านั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้หากไม่มีที่พักว่างในช่วงวันเดินทางนั้นๆ โดยทางบริษัทจะเปลี่ยนไปยังเมืองอื่นแทนโดยยังคงซึ่งความสะดวกสบายในการเดินทาง)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
Four Points by Sheraton Bolzano Hotelหรือเทียบเท่า

วันที่สาม:เมืองออร์ติเซ่-ALPE DI SIUSI-โบสถ์ SANTA MADDALENA-ทะเลสาบเบรียส-เมืองคอร์ติน่าดอมปาสโซ่ (B/L/D)

เช้าบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองออร์ติเซ่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ เป็นเมืองรีสอร์ทเล็กๆที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Dolomites Val Gardena โดยมีเทือกเขาต่างๆอยู่รายล้อม ที่นี่จัดได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวโดโลไมท์ในด้านตะวันตก จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนตลอดทั้งปี นำท่านขึ้นกระเช้า Ortisei / St.Ulrich – Seiser Alm  / Alpe di Suisi นำท่านขึ้นไปที่ระดับความสูง 1,684 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สู่บนเนินเขาที่เราเรียกว่า ALPE DI SIUSI” นำท่านชมวิวทิวทศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา Seiser Alm ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรปและยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก Unesco อีกด้วย
ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่น อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ชุมชน Val di Funes หรือ Villnöß ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ชุมชนเล็กๆทางภาคตะวันตกของอุทยานโดโลไมต์ ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ 6 หมู่บ้าน โดยมีชื่อเสียงจากการมีวิวทิวทัศน์ที่สวยที่ในเขต South Tyrol
จากนั้นนำท่านเก็บภาพความประทับใจอีกนึงสถานที่ ณ โบสถ์ Santa Maddalena โบสถ์ที่ถือเป็นสถานที่ไฮไลต์ทที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในอุทยานโดโลไมต์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉาหหลังเป็นเทือกเขา Odles (การเดินขึ้นไปเก็บภาพความประทับใจนี้ ท่านจะต้องเดินขึ้นลงเนินไปและกลับประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อไปเก็บภาพ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง( Lake Braies) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์และยังได้เป็นส่วนหนึ่งในมรดกโลก (Unseco) อีกด้วย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ (CORTINA D’AMPEZZO)  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ (DOLOMITE) คอร์ติน่าดอมปาสโซ่นั้นสกีรีสอร์ท BEST OF THE ALPS เพียงแห่งเดียวของอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1956 และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 007 ตอน FOR YOUR EYE ONLY
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
De La Poste Hotelหรือเทียบเท่า

วันที่สี่:ทะเลสาบมิซูลิน่า-NOVENTA DI PIAVE DESIGNER OUTLET-เกาะเวนิส-พักค้างคืนบนเกาะเวนิส (B/-/D)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่ ทะเลสาบมิซูลิน่า (MISURINA LAKE) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที เป็นทะเลสาบที่สวยงามและเป็นเหมือนกับหนึ่งในแลนด์มาร์คที่นักท่อวเที่ยวต้องมาเยือนสักครรั้งหนึ่ง เป็นทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขา ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งในโดโลไมท์
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Noventa Di Piave Designer Outletใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ให้ท่านได้เลือกเดินซื้อสินค้าตามใจชอบ ซึ่งแต่ละร้านลดราคาสินค้ามากถึง 70 เปอร์เซนต์ มีร้านค้ากว่า 170 ร้าน  ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย
***อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย***
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เวนิส เมสเตร้ แคว้นเวเนเซีย (Venezia)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อเตรียมตัวนั่งเรือข้ามสู่เกาะเวนิสเพื่อท่องเที่ยวและพักค้างคืนบนเกาะแห่งนี้
เพื่อความสะดวกกรุณาเตรียมกระเป๋าใบเล็กสำหรับพักบนเกาะเวนิส 1 คืน
จากนั้นนำทุกท่านนั่งเรือเพื่อไปยัง ท่าเรือซานมาร์โค (San Marco Pier) บนเกาะเวนิส จากนั้นให้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นที่ระลึกกันที่ พระราชวังดอดจ์ (Doge’s Palace) พระราชวังริมน้ำแสนอลังการที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ในสไตล์เวเนเชียนโกธิค ที่เคยเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแต่เก่าก่อนของเวนิส แต่ตั้งแต่ปี 1923 ก็ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปได้เข้าชม เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กหลักของเวนิส จากนั้นเดินเที่ยวชมแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ในเมือง และเก็บภาพสถานที่ต่างของเมืองแห่งคลองไม่ว่าจะเป็น จัตุรัสเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Square) จัตุรัสหลักของเมืองเวนิสและยังเป็นศูนย์กลางเมืองตั้งแต่โบราณ รายล้อมไปด้วยอาคารสวยๆ สไตล์โกธิค และจุดเด่นของจัตุรัสเซนต์มาร์คแห่งนี้ก็คือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Basilica)  ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจัตุรัสเซนต์มาร์ค มหาวิหารใหญ่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก อลังการด้วยการตกแต่งด้วยโดมใหญ่ รูปปั้นมากมายที่ทั้งละเอียดและประณีต และที่อยู่ติดกันและโดดเด่นด้วยความสูงถึง 50 เมตรก็คือ หอระฆัง ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่เห็นได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมืองก็ตาม และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สะพานถอนหายใจ  สะพานอันโด่งดังแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำที่คั่นกลางระหว่างคุกเก่ากับพระราชวังดอดจ์ ทำจากหินปูนที่แกะสลักและออกแบบอย่างงดงามเช่นเดียวกับพระราชวังดอดจ์และอาคารโดยรอบ
ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
Albergo Cavalletto and Doge Orseolo Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า:เมืองฟลอเรนซ์-เมืองปิซ่า-หอเอนปิซ่า (B/L/D)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ (FLORENCE)  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เมืองสวยอันดับ 1 ของอิตาลี เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าหากมาอิตาลีแล้วไม่ได้มาเยือนฟลอเรนซ์ก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงอิตาลีอย่างแท้จริง  เมืองเก่าที่มีความเจริญสูงสุดในศตวรรษที่ 13-16 เมืองที่ถือเป็นต้นกำเนิดของชาวอิตาลี เป็นเมืองที่ยังคงความสวยงามและมีการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะยุคเรเนสซองส์เป็นยุคที่ศิลปะเฟื่องฟูที่สุด
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสซินยอเรตตา จตุรัสกลางเมืองซึ่งปัจจุบันเป็นศาลาว่าการเมือง ณ จตุรัสแห่งนี้ท่านจะได้พบกับศิลปะมากมาย อาทิเช่น รูปปั้นเดวิดจำลอง ที่เหมือนของจริงทุกประการชมสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของเมืองและไม่มีที่ไหนเหมือน มหาวิหารซานตามาเรีย เดลฟิออเร  มหาวิหารที่มียอดโดมขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งสัญญาลักษณ์ของเมือง หอศีลจุ่มที่มีความสวยความงาม ชมสะพานเวคคิโอ หรือสะพานทองคำ สะพานข้ามแม่น้ำอาร์โนแห่งแรกของเมือง อิสระให้ทุกท่านถ่ายรูป หรือเลือกช้อปปิ้งสินค้ามากมายตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และนำท่านเดินทางเข้าสู่ บริเวณ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า หรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจาก หอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ชม มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่องชื่อ นำท่านถ่ายภาพคู่กับ หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
Grand Duomo Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่หก:เมืองมิลาน-มหาวิหารมิลาน- GALLERIA VITTORIO EMANUELE II         (B/L/D)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (MILAN) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ในแคว้นที่ราบลอมบาร์ดีเป็น เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร|
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารมิลาน (Milan Duomo) มหาวิหารประจำเมืองขนาดใหญ่แห่งนี้คือโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลีเด่นด้วยศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 579 ปี ตั้งอยู่ในระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดินราย ล้อมด้วยยอดแหลมอีก135ยอดทำให้อาสนวิหารดูสง่าและแปลกพร้อมด้วยรูปแกะสลักจากหินอ่อนที่ประดับอยู่โดยรอบสลักอย่างวิจิตรบรรจงด้วย  รูปปั้นนักบุญรูปเรื่องราวในพระคัมภีร์จำนวนมากประดับโดยรอบ อิสระช้อปปิ้ง ที่ Galleria Vittorio Emanuele IIที่ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของมหาวิหารมิลานเป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลีโดยสร้างขึ้นในปี1877มากมายด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมายในอาคารขนาด 4 ชั้น สองข้างทางเดินกว้างที่โดดเด่นมากก็คือหลังคาทรงโดมเป็นกระจกใส ทำให้สามารถช้อปปิ้งได้ในทุกสภาพอากาศ
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
The Hub Hotelหรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด :เมืองโคโม่-ทะเลสาบโคโม-สนามบินเมืองมิลาน   (B/-/-)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบโคโม (Lago di Como) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของอิตาลี ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองโคโม ในแคว้นลอมบาร์เดีย ทางเหนือของประเทศอิตาลี บริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบโคโมล้อมรอบด้วยภูเขาสูงที่ยังมีป่าไม้เขียวชะอุ่ม หลายจุดบนชายฝั่งเป็นช่องเขาแคบและหน้าผาที่สวยงาม ทางเหนือของทะเลสาบคือเทือกเขาแอลป์ยาวเหยียดสุดสายตาเป็นกำแพงธรรมชาติที่สร้างฉากหลังอันงดงามอลังการให้กับดินแดนบริเวณนี้ เทือกเขาแอลป์นั้นมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดปี ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน
14.05 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG941(äบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่แปด:สนามบินดูไบ-กรุงเทพ-สนามบินสุวรรณภูมิ  (-/-/-)

05.55 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

วันเดินทาง

กรุ๊ปไซส์

ราคาต่อท่าน

พักเดี่ยว
เพิ่มท่านละ

หมายเหตุ

19-26 ก.ย.67

25+1 หัวหน้าทัวร์

109,900

18,000

 

12-19/18-25 ต.ค.67

25+1 หัวหน้าทัวร์

109,900

18,000

 

Visitors: 153,444