ทัวร์เดนมาร์ก กรีนแลนด์ หมู่เกาะแฟโร 12วัน มิถุนายน - สิงหาคม 2568 | สายการบินไทย (TG)

กรีนแลนด์ - หมู่เกาะแฟโร  12 วัน

#กรีนแลนด์ #เดนมาร์ก #หมู่เกาะแฟโร

โปรแกรมเดินทาง

วันแรก  กรุงเทพมหานคร

22.00 น.  คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอิน D (แถว D) ประตูทางเข้าที่ 3-4 อาคารผู้โดยสาร สายการบินไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

วันที่สอง  โคเปนเฮเก้น–หมู่เกาะแฟโร – น้ำตกมูลาฟอสเซอร์ - หมู่บ้านบูเออร์

01.20 น.  ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) สู่สนามบินโคเปนเฮเกน (CPH) ประเทศเดนมาร์ก โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG950 สายการบินบริการอาหารค่ำและอาหารเช้า บนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 11.20 ชม.)

07.40 น.  เดินทางถึงสนามบินโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

09.00 น.  นำท่านเชคอินสายการบินแอตแลนติกแอร์เวยส์

12.25 น.  ออกเดินทางจากสนามบินโคเปนเฮเกน (CPH) สู่สนามบินแฟโร (FAE) ประเทศเดนมาร์ก โดยสายการบินแอตแลนติกแอร์เวย์แฟโรไอส์แลนด์ เที่ยวบินที่ RC453 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.15 ชม. 

13.40 น.  เดินทางถึงสนามบินแฟโร (Faero Island Airport) ประเทศเดนมาร์ก 

นำท่านเที่ยวชมหมู่เกาะแฟโร (Faroe Island) เป็นประเทศในกลุ่มเกาะจำนวน 18 เกาะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติกระหว่างสกอตแลนด์ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ หมู่เกาะแฟโรเป็นเขตการปกครองตนเองของเดนมาร์ก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 โดยมีสถานภาพเหมือนกับกรีนแลนด์ มีอำนาจในการปกครองตนเองทุกด้าน ยกเว้นด้านการต่างประเทศและการทหาร หมู่เกาะแฟโร มีความหมายว่า “เกาะแห่งแกะ” มีภาษาของตัวเองคือ “ภาษาแฟโร” แต่ภาษาราชการจะใช้เดนมาร์กควบด้วย มีสกุลเงินเป็นของตัวเองคือ “โครนาแฟโร” และมีเมืองหลวงคือเมือง “ทอร์สเฮาน์” มีระบอบกษัตริย์ และมีนายกรัฐมนตรีบริหารกิจการบ้านเมือง นำท่านเดินทางสู่น้ำตกมูลาฟอสเซอร์ (Mulafossur Waterfall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่เปรียบเสมือนซิกเนเจอร์ของหมู่เกาะแฟโร เพราะเป็นน้ำตกที่ปรากฏในภาพโปสการ์ดมากมาย ให้ท่านได้ชื่นชมธรรมชาติและความสวยงามของน้ำตกซึ่งมีฉากหลังเป็นภูเขาสวยแห่งเกาะแฟโร อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านบูเออร์ (Bour Village) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหินเลียบฝั่งทะเล นับเป็นหมู่บ้านที่สวยงามและมีทัศนียภาพของธรรมชาติที่ปรากฏให้เห็นในโปสการ์ดและหนังสือท่องเที่ยวมากมาย เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในซอร์แวงฟยอร์ด (Sorvagsfjord) เรียกได้ว่าเป็นฟยอร์ดที่มีความสวยงามทางธรรมชาติมากที่สุดอีกแห่งของเกาะแฟโร นำท่านเที่ยวชมและเก็บภาพธรรมชาติพิสุทธิ์แห่งหมู่เกาะแฟโร อีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดต่อการมาเยือน (ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนคือ ช่วง พฤษภาคม – สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งจะสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน)

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Foroyar**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) 

วันที่สาม  ล่องเรือชมผารังนกแห่งเกาะแฟโร – เคิร์กจูบูเออร์ - โบสถ์หินโบราณแมกนาส – ทอร์สเฮาน์

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสัมผัสประสบการณ์การล่องเรือชมผารังนก (Towering Cliffs) ซึ่งเป็นผาสูงตระหง่านอันเป็นที่อยู่ของนกแถบโซนอาร์คติก ไม่ว่าจะเป็นนกพัพฟิน (puffins) ที่อาศัยอยู่ตามชะง่อนผา และ นกอาร์คติดเทิร์น และอีกนานาชนิด อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของผาหิน และ นกนานาพันธุ์ หากโชคดีท่านอาจได้พบเห็น ปลาโลมา หรือ ปลาวาฬที่อาจมาเล่นน้ำในบริเวณนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านไคว์วิค (Kvivik Village) ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดบนหมู่เกาะแฟโร และยังคงมีหลักฐานทางโบราณคดีที่แสดงให้เห็นว่าชาวไวกิ้งได้มีการเดินทางและตั้งรกรากถิ่นฐานที่หมู่บ้านแห่งนี้เมื่อประมาณศตวรรษที่ 18 เห็นได้จากบ้านเรือนของชาวไวกิ้งโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่ นำท่านเที่ยวชมเมืองเล็กๆที่แสนน่ารักแห่งหมู่เกาะแฟโร พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์และชื่นชมธรรมชาติแห่งหมู่เกาะแอตแลนติกเหนือ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศและความสวยงามของธรรมชาติและหมู่บ้านโบราณริมฝั่งทะเล

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย  นำท่านเดินทางสู่เมืองเคิร์กจูบูเออร์ (Kirkjubour) (ระยะทาง 35 กม. ใช้เวลาประมาณ 35 นาที) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้ของเกาะแฟโร เป็นหมู่บ้านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโบสถ์หินโบราณแมกนาส (Magnus Cathedral) จากศตวรรษที่ 13 ย้อนไปตั้งแต่สมัยยุคไวกิ้ง และมีบ้านไม้ที่อายุเก่าแก่ที่สุดซึ่งสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 นำท่านเข้าชมความงดงามของโบสถ์หินโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งดื่มด่ำกับทัศนียภาพของบ้านไม้โบราณที่นิยมปลูกหญ้าบนหลังคา เลียบฝั่งมหาสมุทร นับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามแห่งเกาะแฟโร อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองทอร์สเฮาน์ (Torshavn) (ระยะทาง 11 กม. ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะแฟโร ดินแดนของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ทางตอนใต้และเป็นส่วนหนึ่งของชายฝั่งทิศตะวันตกของเมืองสเตรอเมอ นำท่านเที่ยวชมเมืองและเดินเล่นพร้อมเก็บภาพบรรยากาศของเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ในฟยอร์ดอันสวยงาม จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับบ้านหลังคาหญ้า (Tiganes) ซึ่งมีการปลูกหญ้าบนหลังคาบ้านนับเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองทอร์สเฮาน์ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองหลวงทอร์สเฮาน์แห่งเกาะแฟโรได้ตามอัธยาศัย

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก

ท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Foroyar**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่สี่  หมู่เกาะแฟโร – นุ๊ค (กรีนแลนด์)

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

09.30 น.  นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน แบบกล่อง

13.15 น.  ออกเดินทางจากสนามบินแฟโร (FAE) สู่สนามบินเคฟลาวิก (KEF) ประเทศไอซ์แลนด์ โดยสายการบินไอแลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI301 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.50 ชม.)

14.05 น.  เดินทางถึงสนามบินเคฟลาวิก (KEF) ประเทศไอซ์แลนด์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

18.20 น.  ออกเดินทางจากสนามบินเคฟลาวิก (KEF) สู่สนามบินนุ๊ค (GOH) ประเทศกรีนแลนด์ โดยสายการบินไอแลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI115 (ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชม.)

19.20 น.  เดินทางถึงสนามบินนุ๊ค (GOH) ประเทศกรีนแลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก 

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hans Egede Nuuk **** หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า  นุ๊ค -  มหาวิหารนุ๊ค - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรีนแลนด์

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเที่ยวชมเมืองนุ๊ค (Nuuk) ชมอาคารบ้านเรือน บ้านไม้หลังเล็ก ๆ สีสันฉูดฉาด ทั้งแดง เขียว เหลือง ม่วง ชมพู เป็นเสน่ห์ของกรีนแลนด์ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของบ้านหลากสีแห่งเมืองนุ๊ค นำท่านเดินทางสู่นุ๊คเซ็นเตอร์ (Nuuk Center) เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในกรีนแลนด์ ตั้งอยู่ติดกับศูนย์วัฒนธรรม Katuaq ห้างสรรพสินค้ามุ่งเน้นไปที่การให้บริการแก่ลูกค้าในวงกว้าง เหนือห้างสรรพสินค้าเป็นอาคารสำนักงานสูง 8 ชั้น มีพื้นที่ 7,000 ตารางเมตร และ Nuuk Center เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในกรีนแลนด์ นำท่านเดินทางเข้าชมมหาวิหารนุ๊ค (Nuuk Cathedral) เป็นโบสถ์ไม้แบบลูเธอรันในย่าน Old Nuuk ของนุก เมืองหลวงของกรีนแลนด์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2392 อาคารสีแดงที่มียอดแหลมเป็นจุดที่โดดเด่นในภูมิทัศน์ ในช่วงการเฉลิมฉลองวันชาติ ผู้คนจำนวนมากมักจะมารวมตัวกันรอบๆ โบสถ์

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรมที่พัก

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรีนแลนด์ (Greenland National Museum) ที่บอกเล่าเรื่องราวได้ดีที่สุด มีหลักฐานของคนกลุ่มแรก (Indigenous People) อาศัยอยู่ที่นี่เมื่อ 4,500 ปีมาแล้ว ก่อนที่พวกไวกิ้งและสแกนดิเนเวียนจะเริ่มเข้ามาเพื่อล่าอาณานิคม การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสังคม วิถีชีวิต การนับถือศาสนาของคนพื้นเมืองเดิมที่จัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

15.00 น.  นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน

17.55 น.  ออกเดินทางจากสนามบินนุ๊ค (GOH) สู่สนามบินอิลลูลิแซท (JAV) ประเทศกรีนแลนด์ โดยสายการบินแอร์กรีนแลนด์ เที่ยวบินที่ GL586 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ชม.)

19.15 น.  เดินทางถึงสนามบินอิลลูลิแซท (JAV)  ประเทศกรีนแลนด์ 

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hvide Falk Hotel/ Best Western Plus Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) 

วันที่หก  อิลลูลิแซท - ธารน้ำแข็งอิควิ เซอร์เมีย - ล่องเรือชมไอซ์ฟยอร์ด 

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านสัมผัสประสบการณ์ล่องเรือสู่ธารน้ำแข็งอิควิ เซอร์เมีย กลาเซียร์ (Eqip Sermia Glacier) สัมผัสธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด และชมความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งอิควิ เซอร์เมีย ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งอีกแห่งบนผืนแผ่นดินใกล้ขั้วโลกเหนือ ซึ่งหากช่วงที่อุณหภูมิสูงขึ้นจะทำให้ธารน้ำแข็งเกิดการละลายส่งเสียงดังเหมือนเสียงฟ้าร้อง อิสระให้ท่านได้สัมผัสและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย (การเดินทางไป-กลับ เพื่อไปยังธารน้ำแข็งอิควิเซอร์เมีย ใช้เวลาในการทำทัวร์ประมาณ 5-6 ชั่วโมง) 

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน แบบกล่อง 

นำท่านเดินเที่ยวชมความสวยงามของ ธารน้ำแข็ง (Icefjord) ที่สวยงามอลังการจน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก บริเวณนี้คือ เซอร์เมอร์มิอุท (Sermermiut) แหล่งโบราณคดีอายุกว่า 4,000 ปี ซึ่งนักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นถิ่นฐานของมนุษย์ยุคหินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะกรีนแลนด์ และการเข้าชมความสวยงามของไอซ์ ฟยอร์ดต้องเดินเข้าไปบนทางไม้ ที่ปูเป็นทางให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมความสวยงามของทุ่งน้ำแข็ง ท่านสามารถเดินขึ้นไปบนเชิงเขา ซึ่งมีจุดชมวิวที่สวยงามมาก สามารถมองเห็นทุ่งน้ำแข็งมรดกโลกของกรีนแลนด์ได้จากมุมสูง และอิลลูลิแซท ไอซ์ฟยอร์ด เป็นธารน้ำแข็งที่เกิดจากการแตกตัวมาจากกลาเซียร์เซอแมค คูจอลเลค (Sermeq Kujalleq Glacier) โดยรูปร่างของไอซ์เบิร์ก หรือก้อนน้ำแข็ง แต่ละก้อนเรียกได้ว่าเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติที่รังสรรค์ขึ้นอย่างสวยงาม  

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก 

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hvide Falk Hotel/ Best Western Plus Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่เจ็ด  ล่องเรือชมธารน้ำแข็ง

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านสัมผัสประสบการณ์ ล่องเรือชมธารน้ำแข็ง (Iceberg Boat Tour) ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. ตื่นตากับความอลังการของก้อนน้ำแข็งยักษ์ (Iceberg) ซึ่งเรียงรายอยู่ ตลอดเส้นทาง หากเป็นวันที่แสงแดดส่องประกายจะเห็นเฉดสีฟ้าน้ำเงินของก้อนน้ำแข็งไล่ระดับกันอย่างชัดเจน ถือเป็นประสบการณ์สุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิตที่ยากลืมเลือน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งดูปลาวาฬหลังค่อม (Humpback whales) อีกแห่งที่สำคัญของกรีนแลนด์      

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

14.00 น.  นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน

15.40 น.  ออกเดินทางจากสนามบินอิลลูลิแซท (JAV)  สู่สนามบินแคงเกอร์ลุสเซค (SFJ) ประเทศกรีนแลนด์ โดยสายการบินแอร์กรีนแลนด์ เที่ยวบินที่ GL513 (ใช้เวลาบินประมาณ 50 นาที)

16.30 น.  เดินทางถึงสนามบินแคงเกอร์ลุสเซค (SFJ) ประเทศกรีนแลนด์

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Kangerlussuaq Hotel *** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) 

วันที่แปด  ธารน้ำแข็งรัสเซล - แคงเกอร์ลุสซวก

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านขึ้นรถ 4WD มุ่งหน้าสู่ธารน้ำแข็งรัสเซล (Russell Glacier) (ระยะทาง 26 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) ธารน้ำแข็งที่มีผาน้ำแข็งขนาดใหญ่สูงกว่า 60 เมตรเด่นตระหง่าน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งประติมากรรมธรรมชาติชิ้นเอกแห่งกรีนแลนด์ เนื่องจากลักษณะของก้อนน้ำแข็ง มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไป ตามการกัดเซาะของลมและฝน สามารถจินตนาการได้หลายรูปแบบ ทั้งนี้ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมภูมิประเทศแบบ ทุ่งหญ้าทุนดร้า (Tundra) อันเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของเหล่าวัวป่า อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของทัศนียภาพ ฝูงวัวป่าและทุ่งหญ้าสลับภูเขาและธารน้ำแข็ง นับเป็นภูมิประเทศที่น่าแปลกตาอีกแห่งในกรีนแลนด์

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรมที่พัก

บ่าย  นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองแคงเกอร์ลุสซวก นำท่านเที่ยวชมเมืองแคงเกอร์ลุสซวก เมืองศูนย์กลางการบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ โอบล้อมด้วยแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ (Greenland Ice Sheet) ที่ยิ่งใหญ่ พร้อมเก็บภาพความน่ารักของอีกเมืองสวยแห่งประเทศกรีนแลนด์ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของบ้านหลากสีแห่งเมืองแคงเกอร์ลุสซวก พร้อมเก็บภาพทัศนียภาพ ฝูงวัวป่าและทุ่งหญ้าสลับภูเขาและธารน้ำแข็ง นับเป็นภูมิประเทศแปลกตาอีกแห่งของโลก

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน 

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Kangerlussuaq Hotel *** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่เก้า  Ice Sheet Point 660

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านสัมผัสประสบการณ์นั่งรถ 4WD มุ่งหน้าสู่แผ่นน้ำแข็งแห่งกรีนแลนด์ (Ice Sheet Point 660) ระหว่างทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพของภูเขาน้ำแข็ง ทุ่งหญ้าทุนดร้า และ ทะเลทรายในหุบเขา แห่งกรีนแลนด์ ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีพื้นที่แผ่นน้ำแข็งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากทวีปแอนตาร์กติกา อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของ Ice Sheet Point 660 ผืนน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นโลกทางแถบขั้วโลกเหนือและใต้ สัมผัสกับแผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมทั้งประเทศคิดเป็น 10% ของโลก (ระยะเวลาในการทำทัวร์ประมาณ 4-5 ชั่วโมง)

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านขึ้นรถ 4WD มุ่งหน้าสู่ทุนดราซาฟารี (Tundra Safari) พาท่านสำรวจเขตทุรกันดารของกรีนแลนด์ด้วยฟยอร์ดด้านหนึ่งและแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ขนาดยักษ์ที่กั้นอีกด้านหนึ่ง ทำให้แคงเกอร์ลุสซวกกลายเป็นเส้นทางที่ไม่มีน้ำแข็งมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรีนแลนด์อย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับทั้งกวางเรนเดียร์และวัวมัสค์ (Musk Ox) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรูปร่างล่ำสัน หัวโต คอสั้น ขาสั้นและแข็งแรง ชื่อของวัวมัสก์มาจากกลิ่นฉุนและลักษณะภายนอกที่คล้ายกับวัวแม้ว่าวัวมัสก์จะไม่ได้มีความใกล้ชิดกับวัว วัวมัสก์มีความใกล้ชิดกับแพะภูเขาชะมดและเลียงผา และจัดอยู่ในวงศ์ย่อย Caprinae ของ วัวเช่นเดียวกับแพะและแกะ ในเขตทุนดรารอบๆ Kangerlussuaq มีวัวมัสค์ประมาณ 10,000 ตัว วัวมัสค์อาศัยอยู่ในเขตอาร์กติกที่เย็นยะเยือก และท่องเที่ยวไปในทุ่งทุนดราเพื่อค้นหาราก มอส และไลเคนที่ค้ำจุนพวกมัน ในฤดูหนาวพวกมันจะใช้กีบขุดหิมะเพื่อกินหญ้า ในช่วงฤดูร้อน พวกมันเสริมอาหารด้วยดอกไม้และหญ้าอาร์กติก ซึ่งมักหากินใกล้น้ำ วัวมัสค์จะสัญจรอย่างอิสระในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของพวกมันรอบๆ Kangerlussuaq และเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งเหล่านี้ วัวมัสค์สามารถก้าวร้าวและพุ่งเข้าใส่โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ดังนั้นเราจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเราสามารถสังเกตพฤติกรรมของพวกมันได้อย่างใกล้ชิดเพียงใด นอกจากนี้เรายังมีสัตว์ป่าอื่นๆ ในพื้นที่ เช่น กวางเรนเดียร์ และเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพรรณและไม้ดอกของทุ่งทุนดรา รวมถึงพุ่มไม้หนาทึบที่เติบโตบนเนินหินที่หันหน้าไปทางทิศใต้และป่าทึบของต้นวิลโลว์อาร์กติกที่เจริญรุ่งเรือง ริมแม่น้ำและลำธาร

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Kangerlussuaq Hotel *** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)

วันที่สิบ  แคงเกอร์ลุสเซค - โคเปนเฮเก้น

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

07.00 น.  นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเชคอิน

09.05 น.  ออกเดินทางจากสนามบินแคงเกอร์ลุสเซค (SFJ)  สู่สนามบินโคเปนเฮเก้น (CPH) ประเทศเดนมาร์ก โดยสายการบินแอร์กรีนแลนด์ เที่ยวบินที่ GL784 (ใช้เวลาบินประมาณ 4.30 ชม.) 

16.35 น.  เดินทางถึงสนามบินโคเปนเฮเก้น (CPH) ประเทศเดนมาร์ก นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร 

ค่ำ  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Scandic Sydhavnen Hotel **** หรือเทียบเท่า

วันที่สิบเอ็ด  โคเปนเฮเก้น

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่กรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก อีกเมืองสวยแห่งประเทศในกลุ่มนอร์ดิก นำท่านชมเงือกน้อย หรือ ลิตเติ้ลเมอร์เมด (Little Mermaid) (ระยะทาง 17 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) รูปปั้นทองแดงของเจ้าหญิงเงือกน้อยบนโขดหิน ตัวละครที่มาจากนิทานอันโด่งดังของนักประพันธ์ชาวเดนิช ฮันส์ คริสเตียน  แอนเดอร์สัน รูปปั้นเงือกน้อยนี้เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นผลงานของ Edv. Eiriksen สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานถึงจินตนาการของแอนเดอร์สัน และเป็นนิทานอีกเรื่องที่หลายๆท่านคงเคยได้ฟัง แม้กระทั่งดิสนีย์ยังเคยนำเรื่องนี้มาทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูน จากนั้นนำท่านชมน้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน (The Gefion Fountain) (ระยะทาง 3 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1908 ชื่อ Gefion นี้คือชื่อของเทพเจ้าในตำนานของชาวสแกนดิเนเวียน นำท่านแวะชมภายนอก พระราชวังอมาเรียนบอร์ก (Amalienborg Palace) (ระยะทาง 500 เมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) เป็นพระราชวังที่พระราชินีมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งราชวงศ์เดนมาร์กประทับอยู่ และเป็นที่ประทับของราชวงศ์เดนมาร์กมาตั้งแต่ค.ศ. 1794 เป็นสถาปัตยกรรมแบบร็อคโคโค บริเวณกลางลานมีพระรูปทรงม้าของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 4 นอกจากนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 11.30 น.  ทหารหลวงจะเดินสวนสนาม และเคลื่อนขบวนมาเปลี่ยนเวรเฝ้ายามที่หน้าพระราชวังอมาเรียนบอร์กในทุกวัน

11.00 น.  นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเชคอิน

14.25 น.  ออกเดินทางจากสนามบินโคเปนเฮเก้น (CPH) สู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG951 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.35 ชม.)

วันที่สิบสอง  กรุงเทพมหานคร

06.00 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)  

*****Travel Around the World by Chic Journey***** 

หมายเหตุ...โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

15-26 มิ.ย. / 20-31 ก.ค. / 10-21 ส.ค. / 31 ส.ค.-11 ก.ย. 2568