VIP ศรีลังกา ร่วมทริปทำบุญทอดกฐินศรีลังกา 18 - 22 ต.ค.67 บิน UL 5 วัน 3 คืน ตุลาคม 2567 :SRILANKA

รหัสสินค้า : CJN-V002VWLK-SRILANKA-UL003

ราคา

37,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 37,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

คณะ VIP ศรีลังกา

เชิญร่วมทริปทำบุญทอดกฐิน ศรีลังกา ประจำปี 2567

ณ วัด Sri Bodhirukkaramaya

ราคา : 37,900.-บาท

โดยสายการบิน : Srilankan Airlines ( UL )

สนามบินโคลัมโบ•ดัมบุลลา•สิกิริยา•มหินตะเล •อนุราธปุระ•ทอดกฐิน •แคนดี้•นีกอมโบ

**สักการะพระเขี้ยวแก้ว VIP...

**พระราชวังลอยฟ้า Srigiriya UNESCO..

**ถ้ำดัมบูลลา พระพุทธรูปทองคำ UNESCO

**ต้นศรีมหาโพธิ์เมืองอนุราชปุระ...

**ช้อปปิ้งเมืองแคนดี้ - โคลัมโบ ,

**ชม Ami Ul Alfar Mosque สวยงาม

**พักโรงแรม 5 ดาว ทุกคืน

เดินทาง : 18-22 ตุลาคม 2567

หมายเหตุ **รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

วันแรก : 18 ต.ค. 67สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินโคลัมโบ - ดัมบุลลา - สิกิริยา

06:00น.พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอํานวยความสะดวกในการเช็คอิน
09:00น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินโคลัมโบ ประเทศศรีลังกาโดยสายการสายการบิน SriLankanAirlines เที่ยวบินที่ UL403
11:00น.  ถึงสนามบินโคลัมโบประเทศศรีลังกา (เวลาท้องถิ่นของศรีลังกาช้ากว่าไทย 1.30 ชั่วโมง)
ไกด์ท้องถิ่นต้อนรับและนําคณะเดินทางต่อไปยังเมืองสิกิริยา (ประมาณ 3 ชม.ครึ่ง ระยะทาง 146 กม.)เพื่อเช็คอิน ณ โรงแรมที่พัก
เที่ยง  แวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารในโรงแรม Full Moon Garden Hotel
บ่าย   จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองสิกิริยา
พาท่านชม เขา สิกิริยา และถ่ายรูป - ยอดเขานี้เป็น ยอดเขาที่สูงที่สุดใประเทศศรีลังกา มี บันไดทั้งหมด 2,200 ขั้น บนยอดศิลา จะพบซากปรักหักพังของพระราชวังในอดีต บนยอดเขาจะมีพระราชวังลอยฟ้า ซึ่งมีชื่อว่า พระราชวังสิกิริยา(Sigiriya Palace) เป็นพระราชวังบนยอดเขา มีอ่างเก็บน้ำโบราณและสามารถรับชมวิวทิวทัศน์ของเมืองสิกิริยา
ชม ป้อมปราการหรือประตูสิงโต เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งเดียวบนเกาะนี้รู้จักกันดีในชื่อ LionRockหรือ แท่นศิลาราชสีห์ ชมภาพเขียนสีเฟรสโกเป็นภาพนางอัปสรสวรรค์ที่มีอายุพันกว่าปีและถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พักJetwing Lake (Deluxe Room) 5*

วันที่สอง : 19 ต.ค. 67 : ดัมบุลลา - มหินตะเล - อนุราธปุระ

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังรับประทานอาหารเช้าพาท่านเดินทางไปยัง เมืองดัมบุลลา เพื่อเข้าชมวัดถ้ำดัมบุลลา ตั้งอยู่บนภูเขาหินสูงประมาณ 1,118 ฟุต ทั้งยังเป็นตำแหน่งที่เกือบจะอยู่กึ่งกลางของเกาะและอยู่ตรงกลางเมืองหลวงเก่าสามแห่ง คือ เมืองอนุราธปุระ เมืองโปลนนารุวะและเมืองแคนดี้ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล โดยกษัตริย์วาฏิกัสสินะ (Vatatissa I) กษัตริย์องค์ที่ 1 แห่งราชวงศ์อนุราธปุระ พระองค์ทรงสร้างถ้ำ 5 บนภูเขาแห่งนี้เพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สำคัญต่างๆ ภายในถ้ำดัมบุลลา มีพระพุทธรูปแกะสลักจากหินอ่อนและหินทรายเป็นจำนวนมาก ยังมีจิตรกรรมฝาผนังโบราณจำนวนมาก จิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้มีอายุกว่า 2,000 ปี แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวทางพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์ของศรีลังกา วัดดัมบุลลาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534
จากนั้นพาท่านเดินทางไปยังอนุราธปุระเพื่อเที่ยวชม วัดมหินตะเล วัดที่เป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธศาสนาในศรีลังกาเป็นสถานที่ ที่พระมหินทเถระ บุตรของพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งอินเดีย ได้เผยแพร่พระธรรมครั้งแรกให้กับพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ เมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้ว โดยคำว่า มหินตะเลนั้นมาจากคำว่า “มหิน+ตะเล” เป็นชื่อของพระมหินทเถระกับตาเลที่แปลว่าดอยหรือภูเขาในภาษาพื้นเมือง วัดแห่งนี้สามารถเดินขึ้นถึงยอดเขาผ่านบันไดหินโบราณกว้าง 1,840 ขั้นมีต้นลีลาวดีเรียงรายอยู่สองข้างทาง ตลอดเส้นทางขึ้นจะมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากเช่น วิงหาร โรงพยาบาล หมู่กฏิสงฆ์
สุดทางขึ้นเป็นลาดวัดที่มีอัมพัตถลเจดีย์ตั้งอยู่เดิมนั้นเป็นสถานที่พระมหินทเถระและพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะได้พบกันครั้งแรก ภายในบรรจุพระอัฐิธาตุของพระมหินทเถระเอาไว้
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ  ห้องอาหารของโรงแรม Margosa Lake Resort Hotel Restaurant
บ่าย   นำท่านเดินทางไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์อนุราธปุระเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก  ชมอารามหลวงและวัดโบราณของอดีตเมืองหลวงของภาคกลางตอนเหนือ อนุราธปุระเป็นหนึ่งในเมือง หลวงเก่าแก่ของศรีลังกามีชื่อเสียงในด้านอารยธรรมศรีลังกา โบราณสถานได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ปัจจุบันเป็นมรดกโลกเคยเป็น ศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายเถรวาทมานานหลายศตวรรษ
เมืองนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงปัจจุบันไปทางเหนือ 205 กม. (127 ไมล์) ใน North Central ริมฝั่งแม่น้ำ Malvathu เป็นหนึ่งในเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในแปดแหล่งมรดกโลกของศรีลังกาหนึ่งในเมืองมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกค้นพบซากปรักหักพังอารามและวัดโบราณ
จากนั้นนำท่านสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ซึ่งประดิษฐานมากกว่า 2400 ปี ปลูกจากกิ่งโพธิ์ที่มาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นแรกที่พระพุทธองค์ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นกิ่งที่พระนางสังฆมิตตา ธิดาของพระเจ้าอโศกมหาราชนำมา เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มั่นคงในศรีลังกา ดังนั้นจึงถือเป็นต้น พระศรีมหาโพธิ์ที่เก่าแก่มีประวัติศาสตร์และมีอายุยืนนานที่สุดในโลก
จากนั้นนำท่านนมัสการ เจดีย์รุวันเวลิ หรือ สุวรรณมาลิกเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่กว้างใหญ่อลังการมาก ขนาดความ กว้าง 100 เมตร สูง 100 เมตร เจดีย์ถูปาราม เป็นเจดีย์ ทางพุทธศาสนาองค์แรกที่สร้างขึ้นในเกาะลังกา โดยพระ เจ้าเทวานัมปิยะติสสะ ทรงสร้างขึ้นในราว พ.ศ.300 และเป็นที่ประดิษฐานพระรากขวัญเบื้องขวา(กระดูกไหปลาร้า) ซึ่งมีอยู่แห่งเดียวในโลกทั้งองค์ สร้างในสมัยพระเจ้ามหาเสนะครองราช พ.ศ.819 –846 มีความสูง 122เมตรและชมเจดีย์อภัยคีรีเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่และมีความสำคัญมาก ตั้งอยู่ในวัดอภัยคีรีวิหาร สร้างโดยพระเจ้าวัฏคามณีอภัย เมื่อราว 2,100 ปีมาแล้วสูง 113 เมตร เส้นผ่าน ศูนย์กลาง 110 เมตร
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก Jetwing Lake (Deluxe Room) 5*

วันที่สาม : 20 ต.ค. 67  ดัมบุลลา - ทอดกฐิน - แคนดี้

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
ทำการเช็คเอาท์จากโรงแรม  เพื่อทุกท่านเดินทางไปยัง วัดSri Bodhirukkaramaya**ขอความร่วมมือทุกท่านแต่งชุดไทยสีสันสวยงาม เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีทอดกฐิน **พาเหรดองค์กฐินจะเริ่มในเวลาประมาณ 10.00 น. ท่านจะได้สัมผัสกับขบวนพาเหรดและการต้อนรับแสนอันอบอุ่นซึ่งแสดงออกมาจากจิตศรัทธาของชาวบ้านและท้องถิ่นใกล้เคียงเทศกาลทอดกฐินนี้ถือเป็นเทศกาลทางพุทธศาสนาที่จะมีขึ้นเพียงปีละครั้ง โดยมีช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือนหลังจากวันออกพรรษา ในทางจันทรคติจะนับเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันออกพรรษาและเป็นวันเริ่มเทศกาลทอดกฐิน และจะสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทงของไทย โดยพิธีทอดกฐินนี้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติกับชาวพุทธ เถรวาท ในประเทศ  บังคลาเทศ กัมพูชา ลาว พม่า ศรีลังกา อินเดีย และ ไทย
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Pinnalanada Restaurant
จากนั้นพาท่านเดินทางไปยัง เมืองแคนดี้
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก Earl's Regency  (Deluxe Room) 5*

วันที่สี่ : 21 ต.ค. 67  แคนดี้ – โคลัมโบ – นีกอมโบ

เช้า  นำท่าน สักการะองค์พระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดพระเขี้ยวแก้ว**ทุกท่านต้องสวมชุดสีขาว
สุภาพเท่านั้น เพื่อพิธีกรรมทางศาสนา**วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐาน พระทันตธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือที่รู้จักกันในนามพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์จริงขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเป็นเพียงองค์เดียวที่ปรากฏบนโลกมนุษย์พระเขี้ยวแก้วได้ประดิษฐานอยู่บนแผ่นดินแห่งนี้มาโดยตลอดมิเคยถูกนำออกไปไว้ ณ สถานที่อื่นเลยเดิมสร้างขึ้นโดยกษัตริย์แห่ง Kandyan ในปี 1595 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานและถวายพระเขี้ยวแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้า ดึงดูดกลุ่มผู้แสวงบุญที่นุ่งขาวห่มขาวถือดอกบัวเพื่อบูชา มาลิกาวามีการแกะสลักที่ประณีตมากมายซึ่งบ่งบอกถึงคุณค่าทาง สถาปัตยกรรมของแคนดี้ ปัจจุบันเมืองแคนดี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
**นำท่านกลับที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรมที่พัก
บ่าย พาท่านเดินเล่นชมเมืองและอิสระช็อปปิ้งในย่านตลาดท้องถิ่นของเมืองแคนดี้ เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวศรีลังกาอย่างแท้จริง ภายในตลาดมีร้านค้ามากมายที่จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล เสื้อผ้า เครื่องใช้ เครื่องประดับ และของที่ระลึก นอกจากนี้ ตลาดแคนดี้ยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของศรีลังกาได้อีกด้วย ร้านอาหารในตลาดมีมากมายที่ให้บริการอาหารพื้นเมืองหลากหลายเมนู เช่น แกงกะหรี่ ข้าวผัด โรตี และชาศรีลังกา
จากนั้นพาท่านเดินทางไปยังเมืองโคลัมโบ เที่ยวชมเมืองโคลัมโบและอิสระช็อปปิ้ง- โคลัมโบเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศศรีลังกา (SriLanka) ตั้งอยู่ทางตอนตะวันตกของประเทศ โคลัมโบเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและธุรกิจของประเทศ มีอาณาเขตเมืองที่พัฒนาและสวยงามและมีองค์กรสถานประกอบการชั้นนำและสถานที่ ท่องเที่ยวหลากหลาย พาท่านเยี่ยมชม บริเวณป้อมปราการดัตช์-โปรตุเกส สุเหร่า วัด โบสถ์จัตุรัสอิสรภาพและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
จากนั้นนำท่านชม มัสยิดญามิอุลอัลฟาร์ (Jami Ul-Alfar Mosque)หรือที่รู้จักในชื่อ "มัสยิดสีแดง"เป็นหนึ่งในมัสยิดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา มัสยิดนี้ตั้งอยู่ในเขตเปตตะห์ (Pettah) ซึ่งเป็นย่านการค้าเก่าแก่และคึกคักของเมือง มัสยิดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1908 ตัวอาคารทรงหกเหลี่ยม สูง 6 ลักษณะของมัสยิดแห่งนี้มีการผสมผสานศิลปะแบบอินโดมุสลิมและแบบโกธิคใช้สีแดงและสีขาวสลับกันเป็นลายขวางมองดูแล้วเหมือนกับลูกกวาด  หลังคาของอาคารมีโดมขนาดใหญ่ มัสยิดแห่งนี้มีประตูทางเข้า 4 ประตู แต่ละประตูตกแต่งด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินที่ได้รับความนิยมของกรุงโคลอมโบ ซึ่งชาวมุสลิมในศรีลังกายังคงใช้มัสยิดแห่งนี้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนามาจนถึงปัจจุบันนี้
**การเข้าชมด้านในนั้นต้องแต่งกายสุภาพมิดชิดและเข้าในเวลาที่ทางมัสยิดแจ้งไว้
ค่ำ นำท่านเดินทางไปยังโรงแรมJetwing Blue ในเมืองนีกอมโบ เพื่อรับประทานอาหารค่ำ
(บุฟเฟ่ต์ + OneJambo Sri lanka King Crab ต่อท่าน)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินโคลัมโบ

วันที่ห้า : 22 ต.ค. 67  โคลัมโบ – กรุงเทพฯ

01.15 น.  ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน SriLankanAirlines เที่ยวบินที่ UL402
06.20 น.ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

กำหนดการเดินทาง

ราคาทัวร์ / ท่าน
พักห้องคู่

ราคาห้องพักเดี่ยว

1822 ต.ค. 67

37,900

7,000

*** การันตี 30 ท่านออกเดินทางพร้อมหัวหน้าทัวร์คนไทย***

Visitors: 154,260