ทัวร์ฝรั่งเศสใต้ 07-13,21-27 ก.ค.68 บิน EK 7วัน 5คืน เที่ยวเมืองคานส์ โมนาโก หมู่บ้านเซนต์พอลเดอวองซ์ กรกฎาคม 2568 :South France Monaco

รหัสสินค้า : CJN-B001-NCE01-EK-FRANCE

ราคา

138,888.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 138,888.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

ชมทุ่งลาเวนเดอร์ 1 ปีมีครั้งเดียว เที่ยวคานส์ เมืองเทศกาลภาพยนต์ระดับโลก

เปิดประสบการณ์ชิมไวน์ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล 

**ราคา:138,888-บาท

โปรแกรมพรีเมี่ยมพร้อมช่างภาพมืออาชีพ

โดยสายการบิน : Emirates (EK)

สนามบินดูไบ ( เปลี่ยนเครื่อง ) • สนามบินนีซ • คาสเซิลฮีลล์ • จัตุรัสมาเซน่า • ย่านเมืองเก่า • ริมชายฝั่ง Ponchettes •กราซ • พิพิธภัณฑ์น้ำหอมนานาชาติ • หมู่บ้านเซนต์พอลเดอวองซ์ • คานส์ • ปาเลเดเฟสติวาล • ย่านซูเกต์ • ย่าน Old port • โบสถ์นอเทรอดาม • ถนนโพรมานาดเดอลาครัวเซต • ถนน RUE D'ANTIBES • มาร์กเซย์ •อาร์ลส์ • สนามกีฬาโบราณ • โรงละครโรมันแห่งอาร์ล • โบสถ์เซนต์โทรฟิม • จัตุรัสฟอรัม • อาวีญง • ปงดูว์การ์ • Jardin du Rocher des Doms • Pont d'Avignon • พระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง •ลูเบอรอง • Château de Sannes • หมู่บ้านกอร์เดส์ • วาลองโซล • Valensole Plateau • เอ็กซองโพรวองซ์ •ทะเลสาบแซ็งต์ครัวซ์ • โมนาโก • ท่าเรือเฮอร์คิวลีส • คาสิโนเดอะมอนติคาโล • โรงโอเปร่าเดอะมอนติคาโล • ศูนย์การค้าเมโทโพล • นีซ •ห้างแกลเลอรี่ลาฟาแยตต์ • สนามบินนีซ โกต ดาซูร์ • สนามบินดูไบ ( เปลี่ยนเครื่อง )

**พัก 4 ดาว , **รวมค่าดำเนินการวีซ่า, ทิปไกด์ท้องถิ่นแล้ว 

เดินทาง 07-13,21-27 กรกฎาคม 2568

หมายเหตุ ; โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป็นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง

วันแรก : สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ • สนามบินดูไบ • สนามบินนีซ • คาสเซิลฮีลล์ • จัตุรัสมาเซน่า • ย่านเมืองเก่า • ริมชายฝั่ง Ponchettes

00.10 น.  พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 9 Row S โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเช็คอินให้แก่คณะ
03.40 น.  ออกเดินทางสู่เมืองประเทศฝรั่งเศส โดยสายการบินEMIRATES (EK) เที่ยวบินที่EK371(ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6.10 ชม.)
06.50 น.  เดินทางถึง สนามบินดูไบ (DXB)เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
08.40 น.  ออกเดินทางต่อสู่เมือง นีซ (NICE)โดยสายการบิน EMIRATES (EK)เที่ยวบินที่EK371 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6.50 ชม.)
13.30 น.  เดินทางถึง สนามบินนีซ โกต ดาซูร์ (NCE) ประเทศฝรั่งเศสหลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย (เวลาท้องถิ่นของประเทศอังกฤษช้ากว่าประเทศไทย 6 ชม. กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว
นำท่านเที่ยวชมคาสเซิลฮีลล์ (Castle hill) ฮิลล์ หรือColline du Chateau จุดชมวิวหลักของเมืองที่ทำให้เห็นตึกอาคารสีสันสดใสต่างๆ ตั้งอยู่ริมชายฝั่ง ท่าเรือ และน้ำทะเลสีสวยของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างชัดเจน ด้านบนยังคงมี ป้อมปราการเก่าแก่ตั้งแต่สมัยยุคกลางหลงเหลืออยู่เป็นบางส่วน รวมถึงยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง มีทั้งน้ำตก คาเฟ่ และส่วนของสนามเด็กเล่นที่รองรับนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวด้วย
นำท่านเที่ยวชม จัตุรัสมาเซน่า (Place Massena)ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและเป็นจุดศูนย์กลางเมื่อเวลามีงานเฉลิมฉลองต่างๆก็จะมีเป็นศูนย์รวมผู้คนให้มารวมตัวกันที่นี่ ถ่ายรูปกับ Fontaine du Soleil (The Sun Fountain)ซึ่งของจริงสวยมาก แม้อากาศจะหนาวแต่ทั้งสีและบรรยากาศโดยรอบจะทำให้เรารู้สึกอบอุ่น พร้อมเสียงดนตรีเบาๆทั่วจัตุรัส พร้อมเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Vieux Nice)เป็นเมืองเก่าที่มีบรรยากาศแสนคึกคัก ภายในเมืองเต็มไปด้วยถนนเล็กๆ ที่ปูด้วยหินและอาคารสีพาสเทลซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าที่ขายสบู่ Niçoise, ผ้าทอสไตล์ Provence รวมถึงเนื้อและชีส จากนั้นนำท่านเดินเล่นเที่ยวชมบรรยากาศยามเย็น ณ ริมชายฝั่ง Ponchettes Beach
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น (1)
คืนที่ 1 พักที่ CROWNE PLAZA NICE - GRAND ARENAS BY IHG หรือเทียบเท่า
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

วันที่สอง : กราซ • พิพิธภัณฑ์น้ำหอมนานาชาติ • หมู่บ้านเซนต์พอลเดอวองซ์ • คานส์ • ปาเลเดเฟสติวาล • ย่านซูเกต์ • ย่าน Old port • โบสถ์นอเทรอดาม • ถนนโพรมานาดเดอลาครัวเซต • ถนน RUE D'ANTIBES • มาร์กเซย์

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรม (2)
นำท่านเดินทางสู่เมือง กราซ (Grasse)เป็นที่รู้จักในฐานะ เมืองหลวงแห่งน้ำหอม (Capital of Perfume) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส รวมถึงเป็นแหล่งผลิตของน้ำแบรนด์ดังระดับโลกที่หลายๆ คนคงรู้จักกันดี อย่าง ฟราโกนาร์ (Fragonard) กาลิมาร์ (Galimard) โมลินาร์ (Molinard) ดิออร์ (Dior) และ ชาแนล (Chanel) เป็นต้น ที่นี่มีทุ่งดอกไม้นานาชนิด และเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส ที่สำคัญยังมีบ้านเมืองที่สวยงามที่มาพร้อมกับบรรยากาศแสนโรแมนติกอีกด้วย
นำท่านเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์น้ำหอมนานาชาติ (Musée International de la Parfumerie)พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงและบอกเล่าประวัติความเป็นมาและความรู้เกี่ยวกับน้ำหอมในแต่ละยุคสมัย การผลิตน้ำหอม ชนิดต่างๆ ของน้ำหอม ภายในพิพิธภัณฑ์มี เรือนกระจก สถานที่เพาะปลูกดอกไม้ที่นำมาผลิตน้ำหอม รวมถึงเวิร์คช็อปทำเครื่องหอมสำหรับเด็กๆ ให้ได้ลองสร้างสรรค์เครื่องหอมด้วยตนเอง
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเซนต์พอลเดอวองซ์ (St. Paul de Vence)เป็นหมู่บ้านแห่งศิลปะ ในอดีตคือหมู่บ้านที่จิตรกรชื่อดังแห่งฝรั่งเศส มาร์ก ชากัล Marc  Chagall ได้มาพำนักช่วง 20 ปีหลังของชีวิต สร้างสรรค์ผลงานออกแสดงจนทำให้ เซนต์ พอล เดอ วองซ์โด่งดัง ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ศิลปินแขนงต่างๆที่มีชื่อเสียงมาอาศัยเปิดร้านนำเสนอผลงานออกจำหน่ายภายในหมู่บ้าน ชาวฝรั่งเศสหรือนักสะสมงานศิลปะจะรู้จักชื่อเสียงหมู่บ้านดีหากต้องการหางาน ศิลปะ สไตล์ Mark Chagall ต้องมาที่นี่ ให้ท่านได้เดินเล่นสัมผัสบรรยากาศชิลๆกับเมืองเล็กๆน่ารัก
**อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การท่องเที่ยว
นำท่านเดินทางสู่เมือง คานส์ (Cannes)สมัยก่อนเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ กระทั่งยุคศตวรรษที่ 19 เมืองเริ่มเจริญขึ้น มีการสร้างสถานที่พักตากอากาศสำหรับชนชั้นสูง ประกอบกับสภาพอากาศของที่นี่อบอุ่นตลอดทั้งปี ไม่เคยมีฤดูหนาว (แต่สำหรับคนไทยก็ว่าหนาวอยู่ดี) ชายหาดก็สวยกว่าเมืองอื่นๆ ในยุโรป ทำให้ที่คานส์กลายมาเป็นเมืองตากอากาศขึ้นชื่อ สำหรับแวะเวียนมาพักผ่อนในช่วงฤดูหนาวนั่นเอง
นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า ปาเลเดเฟสติวาล (Palais des Festivals)เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์นั่นเอง ที่นี่เป็นหอประชุมขนาดใหญ่ที่เราเห็นเหล่าดารา เซเลบคนดังมาเดินเฉิดฉายบนพรมแดงกันตรงนี้ บนตึกก็จะมีการจารึกชื่อและรอยนิ้วมือของดารานักแสดงชื่อดังชาวฝรั่งเศส ซึ่งปกติที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมตลอดทั้งปี ไม่เว้นแม้แต่ช่วงที่มีเทศกาลภาพยนตร์ ใครที่ไป เที่ยวฝรั่งเศส แล้วอยากสัมผัสบรรยากาศของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
นำท่านเดินเล่น ย่านซูเกต์ (Le Suquet)หรือเรียกอีกชื่อว่า ย่าน Old Portเป็นย่านเมืองเก่าของคานส์เราจะได้เห็นบรรยากาศมาชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมืองนี้ บรรยากาศโดยรอบเราจะได้เห็นตึกแนวเก่าๆ สถาปัตยกรรมโบราณของชุมชนแถบนี้ต่างๆ ที่ยังคงความงามและเป็นเอกลักษณ์ พร้อมมุมถ่ายภาพสวยๆ เราจะพบเห็นจิตกรรม ภาพวาด ตามผาหนัง หรือตามอาคารบ้านเรือนต่างๆ มากมาย และบรรยากาศก็จะมีความชิวๆ สบายๆ ถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของย่านนี้
นำท่านเที่ยวชม โบสถ์นอเทรอดาม (Notre-Dame-de-l'Esperance)โบสถ์นิกายโรมันคาธอลิกที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองคานส์ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นและได้รับการจัดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2480 ปัจจุบันได้รวมเข้ากับพิพิธภัณฑ์ Musée de la Castreและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่เลอซูเกต์ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองคานส์ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้เมื่อมาที่นี่ จากนั้นเดินชิลกันต่อ ณ ถนนโพรมานาดเดอลาครัวเซต (Promenade de la Croisette)ถนนที่ทอดยาวไปตามชายหาดของเมืองคานส์ มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร เต็มไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และแบรนด์เนมชั้นนำเพียบ!! ใครจะเดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ นั่งจิบเครื่องดื่มชมทะเลชิลล์ๆ หรือจะช้อปปิ้งอย่างจุใจ ถนนสายนี้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแน่นอน
อิสระช้อปปิ้ง ณ ถนน RUE D'ANTIBESเป็นถนนสายชอปปิ้ง ที่มีทั้งสินค้าแบรนด์เนมราคาแพง และสินค้าที่ราคาย่อมเยาว์ลงมา มีทั้งเครื่องสำอางและเสื้อผ้าให้เลือกมากมาย นอกจากร้านค้าต่างๆแล้ว โครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของอาคารบนถนนสายนี้ก็สวยงาม และน่าชื่นชมมากเช่นกัน อาคารต่างๆเหล่านี้จะเป็นการก่อสร้างตามสไตล์ของศตวรรษที่ 19
นำท่านเดินทางสู่เมือง มาร์กเซย์ (Marseille)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. เมืองสุดโรแมนติกริมทะเล หนึ่งในเมืองหลักแนวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส มาร์กเซย์ เป็นเมืองท่าสำคัญ และเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองในฝรั่งเศสรองจากปารีส โดยมีบทบาทสำคัญในการค้า และเป็นศูนย์กลางการขนส่ง ซึ่งเป็นตัวแปรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น(3)
คืนที่ 2 พักที่ Mercure Marseille Centre Bompard La Corniche หรือเทียบเท่า
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

วันที่สาม : อาร์ลส์ • สนามกีฬาโบราณ • โรงละครโรมันแห่งอาร์ล • โบสถ์เซนต์โทรฟิม • จัตุรัสฟอรัม • อาวีญง • ปงดูว์การ์ • Jardin du Rocher des Doms • Pont d'Avignon • พระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรม (4)
นำท่านเดินทางสู่เมือง อาร์ลส์ (Arles)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ที่นี่เป็นเมืองในแคว้นโพรวองซ์ อยู่ใกล้กับมาร์เซยย์ (Marseille) และอาวิญง (Avignon) ซึ่งเป็นเมืองที่จิตรกรเอกของโลกอย่างแวน โก๊ะ (Van Gogh) เคยมาใช้ชีวิตอยู่ และก็เป็นช่วงชีวิตที่เขาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเอาไว้เยอะที่สุดด้วย
เมื่อเดินทางถึง นำท่านถ่ายรูปด้านหน้ากับสถานที่ๆได้รับมรกดกโลกจาก UNESCO อาทิ สนามกีฬาโบราณ (Amphithéâtre d'Arles)สร้างในสมัยโรมัน เช่นเดียวกับโรงละครด้านบน มีความจุ 25,000 คน ปัจจุบันที่นี่ยังถูกใช้จัดงานแสดงสู้วัวกระทิงประจำปีของเมือง Arles อีกด้วย และใกล้เคียงกันนั้นยังมี โรงละครโรมันแห่งอาร์ล (Roman Theatre of Arles) เป็นโรงละครโรมันในศตวรรษที่ 1 สร้างขึ้นในรัชสมัยของซีซาร์ออกัสตัส เป็นส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานอาร์ลโรมันและโรมาเนสก์เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันประวัติศาสตร์โบราณของเมืองในสมัยโรมัน และยังมี โบสถ์เซนต์โทรฟิม (Cathédrale Saint-Trophime d'Arles) เป็นโบสถ์โรมันคาธอลิกและอดีตอาสนวิหารตั้งอยู่ในเมืองอาร์ลส์ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 12 ถึงศตวรรษที่ 15 และเป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ประติมากรรมเหนือประตูโบสถ์ โดยเฉพาะภาพวันพิพากษาครั้งสุดท้าย และเสาในบริเวณอารามที่อยู่ติดกัน ถือเป็นตัวอย่างประติมากรรมโรมาเนสก์ที่งดงามที่สุดชิ้นหนึ่ง
อิสระเดินเล่น ณ จัตุรัสฟอรัม (Place du Forum) เป็นที่รู้จักมากที่สุดจากคาเฟ่สีเหลืองสดใสที่ปรากฏอยู่ในภาพวาดของแวนโก๊ะ ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของจัตุรัสหลักที่อยู่ตรงกลาง คุณจะพบกับร้านอาหารต่างๆมากมาย สถานที่แห่งนี้จะอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของทุกสิ่งทางการเมืองและสังคม นั่นคือ ฟอรัมโรมัน จัตุรัสแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรม Nord-Pinus Grand Hotel อันหรูหรา ซึ่งเป็นจุดแวะพักที่นักเขียนและศิลปินหลายคนชื่นชอบมาหลายปีแล้วปัจจุบัน ทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างมาพบกันที่นี่เพื่อดื่มกาแฟหรือรับประทานอาหารในคาเฟ่และร้านอาหาร
***กลางวันอิสระรับประทานอาหารตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การท่องเที่ยว
นำท่านเดินทางสู่เมือง อาวีญง (Avignon)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งโรมันคาทอลิก เมืองอาวีญงปัจจุบันนี้ เป็นที่รู้จักกันในฐานะเมืองแห่งเทศกาลศิลปะที่จัดขึ้นทุกปี เป็นเทศกาลศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว เทศกาลนี้เทศกาลเดียวดึงดูดเอานักท่องเที่ยวหลายพันคนให้เดินทางมาที่เมืองนี้ในช่วงเดือนกรกฎาคม ในช่วงที่ไม่มีเทศกาล เมืองนี้ก็เป็นเมืองน่ารักๆเมืองหนึ่งที่เต็มไปด้วยสถานที่มากมายให้สำรวจ ทั้งถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายเสื้อผ้า และร้านอาหารอร่อยๆ อีกทั้งมีกำแพงเมืองจากยุคกลางที่ยังหลงเหลือ ล้อมรอบตัวเมือง
นำท่านถ่ายรูปกับ ปงดูว์การ์ (Pont du Gard)สะพานส่งน้ำอายุกว่า 2,000 ปี สร้างขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 1 เป็นสะพานที่พาดผ่านแม่น้ำการ์ดง (Gardon) เพื่อส่งน้ำระหว่างเมืองอูว์แซ็สและเมืองนีมส์ มีความยาวทั้งหมด 50 กิโลเมตร มีความสูงถึง 50 เมตร ส่วนตัวสะพานแบ่งเป็นสามชั้นเพื่อลำเลียงน้ำให้ผู้คนในเมืองได้ใช้สอย ทั้งไว้ใช้ทั่วไปในครัวเรือน โรงอาบน้ำสาธารณะ รวมไปถึงน้ำพุของเมืองอีกด้วย
นำท่านเดินเล่นเที่ยวชม Jardin du Rocher des Domsเป็นสวนสไตล์อังกฤษที่สวยงามบนยอด Rocher des เป็นสถานที่ยอดนิยมในหมู่คนในท้องถิ่นในการเดินเล่นและเดินเล่นกลางแจ้ง มีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และใกล้กันนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ Pont d'Avignonหนึ่งในจุดสังเกตที่โดดเด่นมากที่สุดในอาวีญงก็คือสะพาน แม้สะพานนี้จะไม่ได้พาผู้เดินทางไปยังจุดหมายใด แต่ก็ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาชมได้เสมอ สะพาน Saint-Benezetหรือสะพาน d'Avignon ซึ่งเป็นชื่อที่คนรู้จักมากกว่า เคยเป็นสะพานแห่งนิรันดร์ในบทเพลงสำหรับเด็กที่ชื่อ Sur le Pont d'Avignon หรือ On the Bridge of Avignon สะพานหินโบราณนี้เป็นเวอร์ชั่นย่อส่วนของสะพานนี้เองซึ่งสร้างขึ้นก่อนหน้า โครงสร้างของสะพานนี้สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 12 และมีความยาว 2,952 ฟุต (900 เมตร) ทอดยาวข้ามแม่น้ำ Rhône ปัจจุบันนี้ เส้นทางสะพานได้หยุดสิ้นก่อนจะไปเชื่อมต่ออีกฝั่ง แต่ก็ยังมีความเชื่อมโยงสำคัญกับช่วงเวลาในอดีตของอาวีญง
นำท่านเข้าชม พระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง (Palais des Papes)ปาแลเดปัปดาวีญง เป็นพระราชวังพระสันตะปาปาที่ตั้งอยู่ที่อาวีญงในประเทศฝรั่งเศส เป็นสิ่งก่อสร้างของสถาปัตยกรรมกอทิกที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ปาแลเดปัปได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี ค.ศ. 1995
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น(5)
คืนที่ 3 พักที่ Mercure Avignon Gare TGV หรือเทียบเท่า
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

วันที่สี่ : ลูเบอรอง • Château de Sannes • หมู่บ้านกอร์เดส์ • วาลองโซล • Valensole Plateau • เอ็กซองโพรวองซ์

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรม (6)
นำท่านเดินทางสู่เขตเทือกเขา ลูเบอรอง (LUBERON) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.35 ชม. อุทยานแห่งชาติของฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่ใจกลางของรัฐโพรวองซ์ (Provence) พื้นที่ในหุบเขาทางเหนือและทางใต้ มีเมืองเล็กเมืองน้อย แต่ละเมืองจะอยู่บนหน้าผา เป็นเมืองเก่าแก่ และเต็มไปด้วยลาเวนเดอร์สีม่วง กลิ่นกระจรกระจาย
เที่ยวชมChâteau de Sannes ตั้งอยู่ในอุทยานธรรมชาติลูเบอรอง ล้อมรอบด้วยลาเวนเดอร์ ต้นมะกอก และไร่องุ่น ทัวร์นี้จะพาคุณเดินชมไร่องุ่น เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกองุ่นและการทำงานที่รักษาสิ่งแวดล้อม คุณจะได้เห็นดินและพันธุ์องุ่นต่างๆ และเข้าใจการทำงานของผู้ปลูกองุ่นตลอดปี พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์และหมู่บ้านสวยๆ อย่าง Ansouis ที่ติดอันดับหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส ต่อด้วยการเยี่ยมชมห้องเก็บไวน์และเรียนรู้เทคนิคการผลิตไวน์ จากนั้นให้ท่านได้ ชิมไวน์จาก Château de Sannes ที่จะทำให้คุณได้รู้จักไวน์จากภูมิภาคนี้
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น (7)
เที่ยวชมหมู่บ้านกอร์เดส์ (Gordes) เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ด้วยอาคารบ้านเรือนที่เป็นหินสีขาวปลูกอยู่บนหน้าผาสูง ไล่เรียงกันไปบนเนิน อาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นใหม่ในหมู่บ้านจะต้องสร้างด้วยหินและมุงหลังคาด้วยกระเบื้องให้เหมือนอาคารเก่า ๆ ที่มีอยู่ ห้ามมิให้มีการล้อมรั้วหรือกำแพง บริเวณด้านล่างของเชิงเขารอบนอกของหมู่บ้านจะเป็นพื้นที่ทำการเกษตร เช่น ปลูกต้นมะกอก เพื่อทำน้ำมันมะกอก, ไร่องุ่นเพื่อผลิตไวน์ และทุ่งลาเวนเดอร์
นำท่านเดินทางสู่วาลองโซล (Valenzole) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. เมืองพักตากอากาศที่มีชื่อเสียงของ แคว้นโพรวองซ์ (Provence) ประเทศฝรั่งเศส สัมผัสเสน่ห์ของบ้านเมืองสุดคลาสสิกที่ตั้งอยู่บนเนินเขา อาบแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา สมชื่อ "วาลองโซล" ที่แปลว่า "หุบเขาแห่งดวงอาทิตย์" ภายในเมืองมีตึกอาคารเก่าแก่ทาด้วยสีพาสเทล ดูสดใสน่ารัก โดยมี จัตุรัส Place Thiers เป็นศูนย์รวมของ น้ำพุ ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่บรรยากาศดีๆ มากมาย อิสระให้ท่านเที่ยวชม Valensole Plateauเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของแคว้นโพรวองซ์ ด้วยลักษณะพื้นที่ราบสูงกว้างใหญ่สุดสายตากว่า 800 ตารางกิโลเมตร ปกคลุมไปด้วยทุ่งลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่ที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของฟาร์มลาเวนเดอร์หลายแห่ง
นำท่านเดินทางสู่เมือง เอ็กซองโพรวองซ์ (Aix-en-Provence)เมืองเก่าที่นิยามเสน่ห์แห่งโพรวองซ์ได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเก่า ชอบประวัติศาสตร์และศิลปะ รวมถึงธรรมชาติที่สงบเงียบ ตั้งอยู่ใกล้กับมาร์เซยย์ เป็นที่รู้จักว่าเป็นเมืองบ้านเกิดของศิลปินดังอย่าง ปอล เซซานน์ (Paul Cézanne) และมีทุ่งลาเวนเดอร์มากมาย
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น(8)
คืนที่ 4 พักที่ Mercure Aix en Provence Beaumanoir หรือเทียบเท่า
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

วันที่ห้า : ทะเลสาบแซ็งต์ครัวซ์ • โมนาโก • ท่าเรือเฮอร์คิวลีส • คาสิโนเดอะมอนติคาโล • โรงโอเปร่าเดอะมอนติคาโล • ศูนย์การค้าเมโทโพล • นีซห้างแกลเลอรี่ลาฟาแยตต์ • สนามบินนีซ โกต ดาซูร์ • สนามบินดูไบ

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรม (9)
นำท่านเที่ยวชม ทะเลสาบแซ็งต์ครัวซ์ (Lake of Sainte-Croix)มีชื่อเสียงโด่งดังจากวิวที่สวยงามและยังมีกิจกรรมกลางแจ้งที่เป็นที่นิยมมากที่สุดเลยก็คือการพายเรือคายัค ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี เหล่านักพายเรือคายัค ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ต่างเพลิดเพลินกับการออกกำลังกายที่สนุกสนานนี้ภายใต้แดดอันแรงกล้าและน้ำที่เย็นสดชื่น*ไม่รวมค่ากิจกรรมทางน้ำ*
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น (10)
นำท่านเดินทางสู่ราชรัฐ โมนาโก (Monaco) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม. ประเทศในยุโรปตะวันตก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีขนาดเล็กมาก เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก นครวาติกัน ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าครองชีพแพงและประชากรร่ำรวยที่สุดในโลกนอกจากนั้นยังเป็นประเทศไร้การเก็บภาษี และยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน (F1) ที่มีชื่อเสียงระดับสากล เมื่อเดินทางถึงนำท่านเดินเล่นถ่ายรูปเช็คอิน ณ ท่าเรือเฮอร์คิวลีส (Port Hercule) ท่าจอดเรือเรือหรูหราที่เต็มไปด้วยเรือยอร์ชสุดอลังการ
นำท่านถ่ายรูปด้านหน้ากับหลายสถานที่สำคัญ อาทิ พระราชวังแห่งโมนาโค (Palais Princier) พระราชวังประจำราชวงศ์กริมัลดี ด้วยจุดเด่นคือการตกแต่งอย่างอลังการ ซึ่งถูกเนรมิตให้เป็นกึ่งพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกือบตลอดทั้งปี คาสิโนเดอะมอนติคาโล (Casino de Monte-Carlo) เป็นคาสิโนที่หรูหราอลังการและเก่าแก่ที่สุดในโลก ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Baroque และข้างกันนั้นยังมี โรงโอเปร่าเดอะมอนติคาโล (Opera de Monte-Carlo)เป็นโรงละครที่เป็นส่วนหนึ่งของคาสิโน ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานกาล่าดินเนอร์สุดอลังการ
นำท่านเดินเล่นช้อปปิ้ง ณ ศูนย์การค้าเมโทโพล (Metropole shopping center)ตั้งอยู่ในย่าน Carré d'Or (Golden Square) ของโมนาโก เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1988 มีบรรยากาศหรูหราและตกแต่งอย่างประณีตด้วยหินอ่อนจาก Carrara ในอิตาลี ภายในมีร้านค้าประมาณ 80 ร้าน รวมถึงร้านอาหาร 6 แห่ง สินค้าที่จำหน่ายมีตั้งแต่แฟชั่น เครื่องประดับ ไปจนถึงของตกแต่งบ้านและของสะสม
***  อิสระรับประทานอาหารตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การท่องเที่ยว
จากนั้น  นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองนีซ (Nice) เพื่อเข้าสู่ที่พัก
คืนที่ 5 พักที่ CROWNE PLAZA NICE - GRAND ARENAS BY IHG หรือเทียบเท่า
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

วันที่หก :สนามบินดูไบ • สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรม (11)
นำท่านช้อปปิ้ง ห้างแกลเลอรี่ลาฟาแยตต์นีซ (Galeries Lafayette Nice Masséna)ถือเป็นสาขาที่สองรองจากกรุงปารีสที่เน้นให้บริการลูกค้าต่างชาติ ตัวอาคารยังคงรักษาเอกลักษณ์สไตล์ Haussmann เอาไว้ แต่ได้รับการออกแบบใหม่ให้ทันสมัย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 13,000 ตารางเมตร มีทั้งหมด 5 ชั้น และรวมแบรนด์ดังระดับโลกไว้มากถึง 600 แบรนด์ภายในยังมีร้านอาหาร “Bella Bay” ซึ่งเป็นจุดพักผ่อนที่เหมาะสำหรับดื่มกาแฟหรือรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมชมวิวอันงดงามของจัตุรัส Place Massénaนอกจากนี้ ยังมีร้านบูติกสุดพิเศษอย่าง Balenciaga, Bottega Veneta, Chloé และ Gucci รวมถึงโซนความงามที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด รอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ไม่เหมือนใคร ณ Galeries Lafayette Place Masséna เมืองนีซ
***อิสระรับประทานอาหารตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การท่องเที่ยว
ได้เวลาอันสมควร  นำท่านเดินทางสู่สนามบินนีซ โกต ดาซูร์ (NCE) ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย กรุณาตรงต่อเวลานัดหมาย เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Tax Refund) ก่อนการเช็คอิน
15.50 น.  ออกเดินทางสู่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินEMIRATES (EK) เที่ยวบินที่EK78(ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6.10 ชม.)
23.59 น.  เดินทางถึง สนามบินดูไบ (DXB)เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

วันที่เจ็ด : สนามบินดูไบ • สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

02.50 น.  ออกเดินทางต่อสู่ กรุงเทพฯโดยสายการบิน EMIRATES (EK)เที่ยวบินที่EK384 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6.30 ชม.)
12.30 น.  เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ (BKK)โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

วันเดินทาง

จำนวน

รายละเอียดไฟลท์บิน

ผู้ใหญ่

เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
(ไม่มีเตียง)

พักเดี่ยวเพิ่ม

07 - 13ก.ค. 2568

15+1

EK371 BKKDXB 03.40 – 06.50

EK77 DXBNCE 08.40 – 13.30

EK78 NCEDXB 15.50 – 23.59

EK384 DXBBKK 02.50 – 12.30

138,888

137,888

21,888

21 - 27ก.ค. 2568

15+1

138,888

137,888

21,888

Visitors: 169,654