ทัวร์นอร์เวย์ปีใหม่ 27ธ.ค.67-5ม.ค.68 บินTG โลโฟเทน เซนญ่า ล่าแสงเหนือ 10 วัน 7คืน ธันวาคม 2567: NORWAY LOFOTEN SENJA
รหัสสินค้า : CJN-W001-TG0610L-LOFOTEN
ราคา |
229,900.00 ฿ |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม | 229,900.00 ฿ |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
NORWAY • LOFOTEN• SENJA
**พิเศษ!!ล่าแสงเหนือ 2 รอบ**
ราคา:229,900.-บาท
โดยสายการบิน : Thai Airways (TG)
เหิรฟ้าสู่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ •ขับสโนว์ โมบิล ตะลุยทุ่งหิมะ สู่จุดบรรจบสามประเทศ นอร์เวย์, ฟินแลนด์, สวีเดน(UNSEEN)•สนุกสนานกับการนั่งสุนัขฮัสกี้ลากเลื่อน•เรียนรู้วัฒนธรรมชาวซามิในฟาร์มกวางเรนเดียร์ •ชมเมืองทรอมโซยามค่ำคืน•ชมความงดงามของหมู่บ้านชาวประมงในเกาะโลโฟเทนอย่างจุใจ•เข้าชมพิพิธภัณฑ์น้ำแข็ง(Magic Ice Lofoten) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
**ที่พัก 4 ดาว , ราคารวมวีซ่าแล้ว
เดินทาง : **ปีใหม่ 27 ธันวาคม 2567-5มกราคม 2568
หมายเหตุ ; โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป็นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง
วันศุกร์ที่ 27 ธ.ค.67(1) :กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – ออสโล
22.30 สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 โดยมี เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวก
วันเสาร์ที่ 28 ธ.ค.67(2) : ออสโล(นอร์เวย์) – ชมเมือง – ทรอมโซ – ชมเมือง
00.20 เหิรฟ้าสู่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ Thai AirwaysQเที่ยวบินที่ TG954
06.50 เดินทางถึงสรามบินกรุงออสโล, ประเทศนอร์เวย์ นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง / นำท่านโดยสารรถโค้ชปรับอากาศ เข้าสู่ตัวเมืองออสโล นำท่านชม “กรุงออสโล”Oslo เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ในอดีต ครั้งสมัยที่นอร์เวย์อยู่ในอารักขาของอาณาจักรเดนมาร์คนั้น นอร์เวย์เคยย้ายเมืองหลวงถึงสองครั้งสองหนจากกรุงทรอนไฮม์เป็นกรุงเบอร์เก้นจนกระทั่งได้ย้ายมาเป็นกรุงออสโลในปัจจุบันที่โอ่อ่าในเวลานี้ อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ย้อนหลังถึง 900 ปี ในครั้งนั้นออสโลเป็นเมืองอาณานิคมใหญ่ของจักรวรรดิ์ไวกิ้งโบราณ ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชของพระเจ้าฮาโรลด์แฟร์แฮร์ ผ่านชมโบสถ์โดมคาทีดราลตึกรัฐสภา อุทยานแห่งชาติ เก็บภาพความงดงามของตัวเมืองจากบริเวณ “ลานสกีจั๊ม” Holmenkollenท่านจะประทับใจไปกับความงดงามของเมืองหลวงแห่งชาวเหนือ อย่างจุใจ
นำท่านชมภายใน “อุทยานฟรอกเนอร์”ท่านจะทึ่งผลงานของปฏิมากรเอกชาวนอร์เวย์ ชื่อกุสตาฟ วิกเกแลนด์ ที่ใช้เวลาถึง 40 ปี ในการแกะสลักหินแกรนิต และทองแดงให้ยุวชนได้เห็นวัฏจักรในหนึ่งชั่วชีวิตของมนุษย์ ตรงใจกลางของอุทยานเป็นที่ตั้งของรูปแกะสลักชื่อ โมโนลิท (สูง 17 เมตร) แกะสลักจากหินแกรนิตชนิดแข็ง และรูปปั้น หล่อสำริด เยอะแยะมากมายรวมทั้งสวนดอกไม้นานาพันธุ์ให้ท่านเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามอย่าเต็มที่ ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
15.05 ออกเดินทางสู่เมืองทรอมโซ โดยเที่ยวบินที่.....
17.00 เดินทางถึงเมืองทรอมโซ // เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองทรอมโซ
นำท่านชมบรรยากาศท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับ ผ่านชมโบสถ์อาร์ติก ข้ามสะพานทรอมโซอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเมือง ข้ามฝั่งสู่เกาะทรอมโซญ่า อันเป็นที่ตั้งของเขตเมืองเก่าทรอมโซ
ทรอมโซ(Tromso) เป็นเสมือนประตูสู่ภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ และอยู่เหนือเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล (66° 33' 38" องศาเหนือ) จึงมีโอกาสเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือ(Aurora) ได้ในช่วงเดือง กันยายน-เมษายน ของทุกปีในวันที่อากาศดีท่านอาจมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือ(Northern Light) จากเมืองสโวลแวร์ได้เนื่องจากเมืองนี้อยู่ในบริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล เมืองทรอมโซ ตัวเมืองเก่าจะมีโบสถ์ทรอมโซตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ มีถนนคนเดินย่านช้อปปิ้งที่คึกคักตลอดทั้งวัน และยังเป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่เหนือสุดของโลกอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: SCANDIC HOTEL, CLARION HOTEL, RADISSON BLU / หรือระดับใกล้เคียง
ในวันที่อากาศดีท่านอาจมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือ(Northern Light) จากเมืองสโวลแวร์ได้เนื่องจากเมืองนี้อยู่ในบริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือ
วันอาทิตย์ที่ 29 ธ.ค.67(3) :ทรอมโซ – ขึ้นกระเช้า FJELLHEISEN สู่ ยอดเขาสโตรสไตเน่น-ชมโบสถ์อาร์ติค – ชมเมืองทรอมโซ – คิวพิสจาร์วี
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านขึ้นกระเช้าฟเจลไฮเซ่น (Fjellheisen) ไปยังภูเขา (Mt.Storsteinen)เพื่อชมทิวทัศน์ตัวเมือง แม่น้ำ และภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะในแบบพาโนรามา ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 420 เมตร ให้ท่านได้ชมทัศนียภาพทั่วเมืองทรุมโซ ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางฟยอร์ด มีเกาะใหญ่ๆ ล้อมรอบ
นำท่านเก็บภาพมหาวิหารอาร์กติก (Arctic Church) หรือที่รู้จักกันในชื่อโบสถ์ทรอมสดาเลนเป็นโบสถ์ในสไตล์โมเดิน สร้างขึ้นในปี 1965 โดยใช้แบบแปลนที่ร่างโดยสถาปนิก แจน อินเก โฮวิก โบสถ์หลังนี้สร้างด้วยคอนกรีตและโลหะเป็นหลัก และสามารถรองรับคนได้ประมาณ 600 คน สถาปนิก Jan Inge Hovig ได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกนี้ไว้ให้แก่ชาวทรอมโซ เนื่องจากปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้เสมือนเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สำคัญของเมือง สามารถมองเห็นได้จากตัวเมืองทรอมโซ, จากสะพานทรอมโซ และเมื่อลงเครื่องบินลงจอดในสนามบินทรอมโซ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
มีเวลาให้ท่านเดินเล่นชมเมืองทรอมโซ่ เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลทางเหนือของนอร์เวย์ มีหิมะปกคลุมภูเขาลูกใหญ่ที่โอบล้อมเมืองเอาไว้ราวกับป้อมปราการ มีสะพานทอดยาวระหว่างเกาะไปยังแผ่นดินใหญ่ ผสมผสานกับความคลาสสิคของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่ชาวทรอมโซ่ยังอนุรักษ์ไว้ ทั้งโบสถ์ไม้ โบสถ์ไม้เก่าแก่ชื่อ Tromso Cathedral ที่สร้างขึ้นในปี 1861 มีความขลังและงดงามไม่เคยเสื่อมคลาย / ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่ที่พักในเมืองคิวพิสจาร์วี (Kilpisjärvi) ดินแดนสามเหลี่ยมทองคำของประเทศฟินแลนด์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
ที่พัก: Santa Aurora Hotel / หรือระดับใกล้เคียง
ในวันที่อากาศดีท่านอาจมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือ(Northern Light) จากเมืองสโวลแวร์ได้เนื่องจากเมืองนี้อยู่ในบริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือ
วันจันทร์ที่ 30 ธ.ค.67(4) คิวพิสจาร์วี – ขับสโนว์โมบิล “พิชิตชายแดนสามประเทศ”(Unseen)- ฟาร์มกวางเรนเดียร์ – เกาะเซนญ่า
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านร่วมกิจกรรมสโนโมบิลสุดมันส์ ให้ท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ ด้วยการ ขับ “สโนว์โมบิล” (Snowmobile Safari) (ขับคันล่ะสองท่าน***หากท่านใดต้องการขับคนเดียวโปรดสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย) หรือเจ้าตีนตะขาบติดสกี ไปตามแนวป่าและบนทุ่งหิมะโลดแล่นไปตามทุ่งหิมะลัดเลาะป่าน้ำแข็ง ชมทัศนียภาพของหิมะกว้างไกลสุดสายตาบริษัทฯได้จัดชุดกันหนาวแบบพิเศษให้กับ ทุกท่านซึ่งประกอบด้วย ชุดเทอร์มอล รองเท้าบู๊ต ถุงมือ และหมวกกันน็อก
*** พิเศษท่านจะได้ตะลุยหิมะไปกับเส้นทางอันซีน(Unseen) ที่ท่านจะได้เก็บภาพกับจุดบรรจบของสามประเทศนอร์เวย์, ฟินแลนด์, สวีเดน ที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “Three-Country Cairn” พรมแดนระหว่างนอร์เวย์และสวีเดนรวมถึงฟินแลนด์ได้รับการตัดสินในสนธิสัญญาสตรอมสตัดเมื่อปี 1751
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ฟาร์มกวางเรนเดียร์ (ARCTIC REINDEER)จิบชาเบอร์รี่อุ่นๆ ชาขึ้นชื่อของดินแดนแถบนี้ โดยเฉพาะชาวแลปป์ ชนพื้นเมืองที่มักเลี้ยงไว้ใช้งาน และเป็นอาหารในเขตหนาว ชมความ น่ารักของกวางแสนรู้ // สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่เกาะเซนญ่า เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศนอร์เวย์รองจากเกาะฮิโนญ่า
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
ที่พัก: HAMN I SENJA / หรือระดับใกล้เคียง
HAMN I SENJA RESORT รีสอร์ทที่น่ารักที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งริมทะเลด้านตะวันตกของเกาะเซนญ่าบนท่าเรือ “แฮมน์” ที่เก่าแก่หลายร้อยปี ในรีสอร์ทจะมีบริการซาวน์น่า และอ่างจากุชชี่กลางแจ้ง(สำหรับท่านที่ต้องการแช่อ่างจากุชชี่กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์) ในรีสอร์ท Hamn I Senja จะมีจุดสังเกตการณ์แสงเหนือที่อบอุ่น(มีฮีธเตอร์) ในวันที่อากาศดีท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจน *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น
วันอังคารที่ 31 ธ.ค.67(5) : เซนญ่า – ชมเกาะเซนญ่า – ตุงเกนเนสส์เซท – เบิร์กโบทน์ -ฟาร์มสุนัขฮัสกี้ (นั่งเลื่อนสุนัขฮัสกี้) – เกาะเซนญ่า – ชมแสงเหนือ
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเช้านำท่าน ชมเกาะเซนญ่า เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของนอร์เวย์ที่ตั้งอยู่เหนือเส้น Arctic Circle ที่แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามน่าทึ่งของทะเลภูเขาชายหาดหมู่บ้านชาวประมง เดินทางสู่หมู่บ้าน Mefjordvær เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ด้านเหนือสุดของเกาะเซนญ่า บนเส้นทาง Senja Route Scenic ของนอร์เวย์ จากนั้นเข้าเดินทางสู่ จุดชมวิวเมดฟยอร์ดโบทน์ (Medfjordbotn) เดินทางสู่ ตุงเกนเนสเซท (Tungeneset) ตั้งอยู่ปลายแหลมซึ่งแยก Steinfjord และ Ersfjord จุดชมวิวริมทะเลเหนือที่มีเทือกเขาโอคชอร์นัน (Okshornan) ตั้งโดดเด่นเป็นฉากอันสวยงาม จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้านเบิร์กโบทน์ (Bergsbotn) เดินบนสะพานไม้ที่ยาวถึง 44 เมตร เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของแนวฟยอร์ดและทิวเขา
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ให้ท่านได้สนุกสนานการนั่งสเล็ดสุนัขฮัสกี้ ลากเลื่อน (Husky Safari) ฮัสกี้เป็นสุนัขเขตหนาวที่มีมายาว นานกว่า 3,000 ปีแล้ว ถูกเลี้ยงเพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของหรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
ที่พัก: HAMN I SENJA / หรือระดับใกล้เคียง
HAMN I SENJA RESORT รีสอร์ทที่น่ารักที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งริมทะเลด้านตะวันตกของเกาะเซนญ่าบนท่าเรือ “แฮมน์” ที่เก่าแก่หลายร้อยปี ในรีสอร์ทจะมีบริการซาวน์น่า และอ่างจากุชชี่กลางแจ้ง(สำหรับท่านที่ต้องการแช่อ่างจากุชชี่กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์) ในรีสอร์ท Hamn I Senja จะมีจุดสังเกตการณ์แสงเหนือที่อบอุ่น(มีฮีธเตอร์) ในวันที่อากาศดีท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจน *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น
วันพุธที่ 1 ม.ค.68(6): เกาะเซนญ่า – หมู่เกาะโลโฟเทน – ชมเมืองสโวลแวร์ – เมจิก ไอซ์บาร์ สโววาร์ – ล่าแสงเหนือ
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่ หมู่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของนอร์เวย์ ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายหลายเกาะ เชื่อมต่อกันด้วยถนนสาย E10 ภูมิประเทศเป็น ภูเขา หินแกรนิตสูงตระหง่านสลับเรียงรายริมทะเล มีผืนน้ำสีฟ้าคราม แซมด้วยบ้านชาวประมงสีแดงโดดเด่นอยู่กลางทะเลนอร์วีเจียนทำให้เกิดทัศนียภาพงดงามราวกับเมืองในเทพนิยาย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านเฮนนิ่งสวาร์ (Henningsvær)ตัวเมืองตั้งอยู่ปลายแหลมด้านตะวันออกของเกาะโลโฟเทน เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีความน่ารักและมีประวัติการตั้งถิ่นฐานมายาวนาน นำท่านชมสนามฟุตบอลกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลโฟเทน ที่ใช้ในการโปรโมทการท่องเที่ยวโลโฟเทน (ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมของชาวนอร์เวย์แม้แต่ในเกาะแห่งนี้ก็ยังมีสนามฟุตบอล
นำท่านเดินชมตัวเมืองที่น่ารักและเป็นที่จอดพักเรือประมงรวมถึงเรือยอร์ช เดินทางสู่เมืองสโวลแวร์ (SVOLVAER)(20 กม.)เมืองสวยน่ารักที่ขนาดพื้นที่เพียงแค่ 2.3 ตารางกิโลเมตร ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะเอาสต์วอเกออี “Austvågøya” ที่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโลโฟเทน เกาะที่มีชื่อเสียงเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามของประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ นำท่านชมเมืองที่สวยงามเดินเล็นชมจัตุรัสกลางเมือง(Svolvaer) เก็บภาพความสวยงามของเมืองอย่างเต็มที่ จากบริเวณท่าเรือของสโวลแวร์ ท่านจะเห็นบ้านชาวประมงที่ดัดแปลงมาเป็นห้องพักรับนักท่องเที่ยว สีแดงสดสวยงามตัดกับสีท้องฟ้าและน้ำทะเลสีคราม ในบริเวณตัวเมืองจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านขายของสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกมากมาย มีเวลาให้ท่านเดินเล่นหรือผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่สวยงามของตัวเมือง
พิเศษ...นำท่านเข้าชม Magic Ice Bar Svolvær พบกับการผจญภัยที่น่าอัศจรรย์กับของเขตอาร์กติก โดยสิ่งของภายในจัดทำขึ้นจากน้ำแข็ง และการติดตั้งที่มีแสงไฟ LED ที่มีสีสันผสมผสานดนตรีสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์เฉพาะ เมจิกไอซ์เป็นดินแดนมหัศจรรย์ในฤดูหนาวที่ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันไม่ธรรมดาของดินแดนแห่งน้ำแข็งที่สมกับเป็น 'Winter Wonderland' อย่างแท้จริง
***หมายเหตุ...Magic Ice จะมีชุดคลุมกันหนาวและกันเปียกไว้บริการให้สำหรับทุกท่าน***
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่:THON HOTEL LOFOTEN, SVOLVAER หรือระดับใกล้เคียง
“นำท่านออกล่าแสงเหนือโดบรถโค้ชปรับอากาศและ “Driver Guide” ผู้ชำนาญ” นำท่านไปยังจุดที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือ ท่านอาจได้เห็นปรากฎการณ์แสงเหนือ (Northern Light Phenomenon) จากเมืองสโวลแวร์ได้เนื่องจากเมืองนี้อยู่เหนือบริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล และที่สำคัญ ในหมู่เกาะสโวแวร์นั้นมีภูเขาเป็นฉากหลังทำให้ทัศนียภาพในการชมแสงเหนือแตกต่างไปจากจุดอื่นๆของประเทศนอร์เวย์(สวยงามมาก)
*** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น ***
วันพฤหัสฯที่ 2 ม.ค.68(7):สโววาร์ – ชมหมู่เกาะโลโฟเทน – นัสฟยอร์ด– หมู่บ้านโอเรเนย์ – แฮมนอยด์ – พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง – สโววาร์
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่ หมู่บ้าน นัสฟยอร์ด (NUSFJORD) (91 กม.) หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่สุดทางชนบท สาย FV807 ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ Flakstadøya ตามแนว Vestfjorden ที่ได้ชื่อว่าเป็น หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งบนเกาะโลโฟเตน และมีทัศนียภาะที่สวยงามไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านโอ (Å) (49 กม.) ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของถนนหมายเลข 10 ของนอร์เวย์และยังเป็นจุดสิ้นสุดของถนนแห่งเกาะโลโฟเตน เดินเล่นชมหมู่บ้านโอ (Å) ที่มีกระท่อมเก่าแก่ อันเป็นประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นเหลืออยู่ และตั้งเรียงรายกันเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตของชุมชนแห่งนี้
จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้านเรเนย์ Reinehalsen (9.3 กม.)
เที่ยง บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารนำท่านสู่จุดถ่ายรูปที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศนอร์เวย์ โดยชาวประมงที่เรเนย์ จะออกหาปลาและนำปลามาผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยการตากแห้งเพื่อส่งขายและเก็บไว้ทานในฤดูหนาว ปลาส่วนใหญ่ที่จับได้ในเขตนี้คือปลาค็อด ซึ่งชาวประมงนำปลามาตากแห้งบนราวหรือชั้นไม้ทั่วหมู่บ้าน ซึ่งปลาแห้งถือเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่เก่าแก่ที่สุดของนอร์เวย์จากนั้นสู่หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) (5 กม.) หมู่บ้านชาวประมงเล็กมีบ้านเรือนอยู่ไม่กี่หลัง แต่เป็นหมู่บ้านที่มีฉากธรรมชาติงดงามมาก มีทิวเขาตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง ด้านหน้ามีเรือประมงจอดทอดสมออยู่มากมาย เก็บภาพบรรยากาศที่สวยงามตามอัธยาศัย
นำท่านแวะชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง(Viking Museum) ที่ตั้งอยู่บนฐานบ้านเรือนเก่าของชุมชนชาวไวกิ้งโบราณ ท่านจะได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความเป็นมาของชาวไวกิ้งมากขึ้น ภายในตัวอาคารจะมีของใช้และอุปกรณ์ในการดำรงชีวิตของชาวไวกิ้งที่ขุดค้นพบเจอในบริเวณนี้และมีเครื่องแต่งตัวให้ท่านได้ทดลองสวมใส่และเก็บภาพเป็นที่ระลึก สมควรแก่สมควรแก่เวลาเดินทางกลับสู่เมืองสโววาร์ (68 กม.)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่:THON HOTEL LOFOTEN, SVOLVAER หรือระดับใกล้เคียง
ในวันที่อากาศดีท่านอาจมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือ(Northern Light) จากเมืองสโวลแวร์ได้เนื่องจากเมืองนี้อยู่ในบริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือ
วันศุกร์ที่ 3 ม.ค.68(8):สโลเวอร์ – สนามบินฮาร์สตัด – ออสโล – ช้อปปิ้งย่าน ถนนคาร์ล โจฮัน
06.00 เดินทางสู่สนามบินเมืองนาร์วิก (164 กม.) บริการอาหารเช้า แบบกล่อง
11:05 เดินทางสู่กรุงออสโล โดยสายการบิน Norwegian Air Shuttle เที่ยวบินที่ DY365
12:50 ถึงกรุงออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ เมืองเก่าอายุกว่า 900 ปี ซึ่งในยุคนั้นออสโลถือเป็นในเมืองอาณานิคมใหญ่ของจักรวรรดิ์ไวกิ้งโบราณ
.......... บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร // หลังอาหารนำท่านชม...บริเวณด้านหน้า พระราชวังหลวง “Royal Palace” แห่งกรุงออสโล พระราชวังแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกที่สวยงาม โดยมีรูปปั้นกษัตริย์เฟรเดอริกที่ 5 ทรงม้าบริเวณด้านหน้าพระราชวัง และเมื่อมองลงไปจากเนินพระราชวังแล้วจะ เห็นสวน Slottsparken และ “ถนนคาร์ล โจฮัน” ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้ามากมาย รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของ “โรงละครแห่งชาติ” ที่สร้างขึ้นในปี 1899,“มหาวิทยาลัยออสโล” มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของนอร์เวย์ สร้างขึ้นในปี 1852, และ “อาคารรัฐสภา” “Stortinget” ที่เปิดใช้มาตั้งแต่ปี 1866 จากนั้นอิสระกับการเดินเล่นถ่ายภาพอาคารเก่าแก่โบราณตลอดเส้นทางเดินลงมาจากเนินด้านหน้าพระราชวัง หรือช้อปปิ้งย่านถนนคาร์ลโจฮันตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารมื้อพิเศษ “SEA FOOD PLATTER” ทะเลรวมสดๆจากทะเลเหนือ พร้อมเครื่องดื่ม (กุ้งมังกร Lobster, หอยแมลงภู่และกุ้ง)
ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL NYDALEN หรือระดับใกล้เคียง
วันเสาร์ที่ 4 ม.ค.68(9):ออสโล – กรุงเทพฯ
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินออสโล
13.30 ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG955
วันอาทิตย์ 5 ม.ค.68(10) :กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
06.20 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
อัตราค่าบริการ รวมค่าวีซ่า & ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋า & พนักงานขับรถ |
||||
กำหนดการเดินทาง
|
ผู้ใหญ่ |
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี |
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน |
พักเดี่ยว |
27 ธ.ค.67 – 05 ม.ค.68 |
229,900 |
229,900 |
229,900 |
45,900 |
* คณะออกเดินทางได้เมื่อมีจำนวนผู้เดินทางครบ 15 ท่าน * |