Cruise : MSC WORLD EUROPA ก.ค.-ต.ค.67 แพคเกจล่องเรือสำราญ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 7คืน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม 2567 : MSC CRUISES MEDITERRANEAN

-ท่านควรมาถึงท่าเรือเพื่อเช็คอินเข้าเรือก่อนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง(กรุณาตรวจสอบท่าเรือในตั๋วเรืออีกครั้ง )
ท่าเรือบาร์เซโลน่า (Barcelona Port Terminal)อยู่ห่างจากสนามบินบาร์เซโลน่า ประมาณ 40 นาที โดย Taxi และ 30 นาทีจากตัวเมือง ระยะเวลาอาจเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับการจราจร
-เตรียมเอกสารลงทะเบียนที่ท่าเรือ พาสปอร์ต บัตรเครดิต ดาวน์ โหลดแอปพลิเคชั่น MSC for Me ไว้ในมือถือและเปิดใช้งานและลงทะเบียน
-เข้าร่วมกิจกรรมซ้อมการเตรียมพร้อมในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินโดยจะมีแจ้งจุดและเวลาอีกครั้งหลังจากขึ้นเรือ
ขณะที่อยู่บนเรือ: ในทุกมื้อท่านสามารถรับประทานอาหาร ที่ทางเรือจัดไว้ให้ และเลือกรวมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้ง ช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือ กิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศกิจกรรมของทางเรือสำราญ เช่น
-Food & Drink: Bar & Lounges ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ Public area ของเรือ
-Entertainment: Disco, Card Room, ห้องสมุด, คาสิโน และ Theater ที่จัดการแสดงพิเศษในทุกคืน -Fitness: สระว่ายน้ำ, สปา และ ฟิตเนส
-Activities: กิจกรรม การแสดงและเกมส์ต่างๆ ที่จัดทั่วบริเวณของ Public area
ขณะที่เรือจอดชายฝั่งเมืองต่างๆ  ท่านสามารถเลือกท่องเที่ยวอิสระได้ด้วยตัวเอง หรือซื้อทัวร์เสริมบนฝั่งกับทางเรือล่วงหน้า เจ้าหน้าที่แจ้งสถานที่นัดพบและเวลาลงเรือ  หรือ สนุกกับกิจกรรมบนเรือ
หมายเหตุ : หากท่านเที่ยวเองอิสระ กรุณากลับขึ้นเรือก่อนเรือออกอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
#เมือง ‘มาร์เซย์’ (Marseille) : เมืองท่าที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองชายหาดริเวียร่าที่งดงาม ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประตูเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศส มาร์เซย์เป็นที่รู้จักในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างแอฟริกาเหนือและยุโรป เป็นเมืองที่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์ด้วยน้ำทะเลสีฟ้าสวยงามและเมืองเก่าที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ชมย่าน ท่าเรือ Vieux ที่มีชีวิตชีวา ล้อมรอบไปด้วยอาคารเก่าแก่และเต็มไปด้วยเรือประมง ให้ความรู้สึกราวกับว่าหยุดนิ่งอยู่ในกาลเวลา และควรเป็น Old Port of Marseille มีอายุย้อนไปถึง 600 ปีก่อนคริสตกาล ที่มีป้อมปราการเก่าแก่ตั้งตระหง่านที่ริมน้ำ และมหาวิหารบนยอดเขา และคาเฟ่เรียบๆ ที่เรียงรายอยู่ตามถนน
#เมือง ‘เจนัว ‘ (Genoa): เป็นเมืองหลวงของแคว้นลิกูเรียและเป็นเมืองใหญ่อันดับหกของอิตาลี เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดใน  อิตาลีและเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ของยุโรปบนทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในปี 2006 ยูเนสโกได้ระบุส่วนหนึ่งของเมืองเก่าของเจนัวในรายการมรดกโลก
โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวไฮลท์ **ชิงเกว่ แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ทั้งห้า ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งริเวียร่า ของอิตาลี ประกอบด้วย หมู่บ้านห้าแห่ง ได้แก่  ริโอมัจจอเร, มานาโรลา, คอร์นิเกลีย,  แวร์นาซซา และ มอนเตรอสโซ อัล มาเร**หมู่บ้าน ริโอแมกจิโอเร (RIOMAGGIORE) หมู่บ้านที่มีเสน่ห์ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีขั้นบันไดสูงเหนือชายฝั่งลิกูเรียน เป็นที่รู้จักจากบ้านหินสีสันสดใสที่เรียงซ้อนกัน และท่าเรือที่เต็มไปด้วยเรือประมงแบบดั้งเดิม
#เนเปิ้ล( Naples ):เมืองที่มีประวัติเก่าแก่ ยาวนาน เป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลีมาตลอด 2,800 ปี ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลี กึ่งกลางระหว่างพื้นที่ภูเขาไฟสองแห่ง คือ ภูเขาไฟวิสุเวียส และกัมปีเฟลเกรย์ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ  **เที่ยวชมย่านท่าเรือ เป็นที่ตั้งของปราสาทเดลโลโว สร้างในสมัยวิลเลียมที่ 1 แห่งอองจู และต่อเติมใหม่ในปีค.ศ.1532 **เมืองปอมเปอี เมืองโบราณ 2,000 ปีที่ถูกทำลายโดยลาวาของภูเขาไฟวิโซเวียส ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดเอาดินโคลนเถ้าถ่าน และหินละลายทับถมจมลงไปในดินในชั่วเวลาไม่กี่นาทีเมื่อ พ.ศ.662ปอมเปอี ก็ถูกลืมไปจากความทรงจำของชาวโลกต่อมาได้มีการฟื้นฟูศึกษาประวัติศาสตร์โบราณชื่อปอมเปอีจึงถูกค้นพบแต่ไม่มีใครทราบว่าอยู่ที่ไหน จนกระทั่ง พ.ศ.2291 ได้พบร่องรอยของซากเมือง เมื่อรื้อดินที่ทับถมออกมาหมดแล้วก็พบซากเมืองที่ใหญ่โต และสร้างด้วยหินอย่างแข็งแรง บางแห่งพบ “ ซากชาวปอมเปเอียน และสัตว์เลี้ยงของเขาที่ตายกลายเป็นหินยังคงสภาพเดิมทุกประการ ” แต่ทว่าภาพนั้นจะเห็นลักษณะของความหวาดกลัวต่อความตายได้เป็นอย่างดีบางคนนั่งเอามือปิดหน้าตายบางคนนั่งซบกับกำแพงบ้านตายก็มี ปอมเปอีจึงได้ชื่อว่า “ซากเมืองแห่งความตาย”
#เมสซิน่า (Messina )เกาะซิซิลี อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิตาลี่ ท่านสามารถชมวิวทะเลบนเกาะที่สวยงาม ร้านค้าท้องถิ่นที่ตั้งอยู่บนเขาที่มีทิวทัศน์สวยงาม ร้านอาหารทะเล คาเฟ่**สถานที่ท่องเที่ยวไฮลท์ ภูเขาไฟเอ็ดน่า (Mount Etna) ภู เขาไฟที่เพิ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2013 เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูงประมาณ 3,340 เมตร วัดฐานโดยรอบได้ 150 เมตร เป็นที่รู้จักกันในภาษาท้องถิ่นว่า “ปล่องไฟแห่งซิซิลี” ในหน้าหนาวท่านจะเห็นหิมะปกคลุมอยู่บนยอดเขา โดยสามารถขึ้นรถกระเช้า  Cable Car ขึ้นสู่ความสูงประมาณ 2,500 เมตร เพื่อไปสู่จุดชมวิว ที่ท่านจะสามารถเห็นทิวทัศน์และบันทึกภาพของภูเขาไฟเอ็ดน่าได้อย่างชัดเจน
#วัลเลตต้า (Valletta, Malta) : วัลเลตตา เป็นเมืองหลวงของประเทศมอลตา  อยู่ทางใต้ของประเทศ อิตาลี่ มีชื่อเสียงในเรื่องของการ ท่องเที่ยว สถาปัตยกรรม วัฒนธรรมต่างๆ ด้วยประวัติศาตร์อันยาวนานของเมืองจึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดก โลกจากยูเนสโก วัลเลตตามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
**สถานที่ท่องเที่ยวไฮลท์เที่ยวชมเมือง ที่ได้มีสร้างกำแพงป้อมปราการโอบล้อมโดยรอบ ถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ป้อมปราการโบราณ, โบสถ์ประจำเมือง, ศาลาว่าการเมือง และท่าเรือเมืองเก่า ชมเมืองหลวงของสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อของ Jean Parisot De La Valetta ผู้ซึ่งสามารถป้องกันการรุกรานเกาะมอลต้า จากอาณาจักรออตโตมานใน ปี ค.ศ.1565 เมืองวัลเลตตาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1980 ชมสวนบารัคคา (Barracca Garden)ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี 1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน เก็บภาพวิหารเ ซนต์จอห์น สร้างโดยอัศวิน เซนต์จอห์นเพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย  ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือการ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 ปราสาทโอเบอร์ (Auberge de Castille)อาคารที่มีความสง่างามและใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่ง ในเมืองวัลเลตตา ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของคาบสมุทรซึ่งถูกออกแบบให้เป็นสถานที่หรูหราที่สุด ปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรีของประเทศสาธารณรัฐมอลต้าคุณจะพบกับอาคารเก่าแก่ทุกหัวมุมถนน ร้านค้าเล็กๆ คาเฟ่ น่ารักๆ ถนนสายหลักเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ชั้นนำมากมาย          

วันสุดท้ายก่อนเรือเทียบท่าในคืนสุดท้ายก่อนเรือกลับเทียบท่าใน เช้าวันถัดไป ท่านจะต้องดำเนินการเตรียมตัวเพื่อเช็คเอาท์ออกจากเรือดังนี้
1.จัดกระเป๋า Overnight bag สำหรับเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวจำเป็นที่ต้องใช้ในช่วงกลางคืนและเช้าวันถัดไป
2.จัดกระเป๋าใบใหญ่และวางไว้หน้าห้อง พร้อมผูกป้ายกระเป๋าสีต่างๆ ตามที่เรือกำหนด เจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไปในช่วงกลางดึก (ป้ายกระเป๋าสีต่างๆ นี้จะเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ)
3.ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายจะส่งให้ตรวจเช็คความถูกต้องก่อน (ชาร์จผ่านบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้ตอนเช็คอินในวันแรกของการขึ้นเรือโดยอัตโนมัติ)