Midnight Sun ทัวร์สแกนดิเนเวีย มิ.ย.-ส.ค.67 บินTG ช่วงที่ดีที่สุดในการชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน : EURIPE PREMIUM SCANDINAVIA

รหัสสินค้า : CJN-W001-WPTG0613M-MIDNIGHT SUN

ราคา

239,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 239,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ สวีเดน 13วัน 10คืน

บินตรงสายการบินไทย พร้อมบินภายในถึง สามเที่ยวบิน สบายๆ ไม่เหนื่อย 

ราคา:เริ่มต้น239,900-บาท

โดยสายการบิน : Thai Airways (TG) 

โคเปนเฮเกน•ชมเมือง •เรือสำราญ DFDS •ออสโล•กอล •ฟลัม •นั่งรถไฟสายโรแมนติก  (FLAMBANA)•ล่องเรือชม ฟจอร์ด •เบอร์เกน •ชมเมือง เบอร์เกน •ออสโล •อุทยานฟรอกเนอร์•ช้อปปิ้งย่านถนน “คาร์ล โจฮัน”•อัลต้า •ฮอนนิ่งสแวค •ฟาร์มปูยักษ์ Red King Crab •นอร์ทเคป “ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนพร้อมจิบแชมเปญ และรับใบประกาศนียบัตร” •ฮอนนิ่งสแวค (นอร์ธเคป) •ทะเลสาบอินารี •อิวาโร •พิพิธภัณฑ์ซามิ (Siida Museum)•อิวาโร •โรวาเนียมิ •หมู่บ้านซานตา คลอส •เกาะโคติซารี•โรวาเนียมี • เคมิ •The Experience 365• เฮลซิงกิ •ชมเมือง•เรือซิลเรียไลน์ •สต๊อกโฮล์ม •พิพิธภัณฑ์เรือวาซา •ศาลาว่าการเมือง•ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่ห้าง NK•สต๊อกโฮล์ม•ซิกทูน่า

**ประสบการณ์ใหม่...รับประทานอาหารกลางวันในภัตตาคารน้ำแข็ง // ชมหมู่บ้านซานตา คลอส

**อาหารพิเศษคุณภาพดีเยี่ยม...พร้อมเมนูพิเศษ “กุ้งมังกรและขาปูยักษ์” (Red King Crab)

**พักในเรือสำราญห้องพัก Sea View (วิวทะเล) 

**พักในเมืองฮอนนิ่งสแวก 100% (เมืองที่ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน)

เดินทาง มิถุนายน - สิงหาคม 2567

หมายเหตุ ; โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป็นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง

วันแรกของการเดินทาง (1):กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) – โคเปนเฮเกน

22.30  สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 เคาท์เตอร์สายการบินไทยโดยมี เจ้าหน้าที่ของบริษัท...คอยอำนวยความสะดวก

วันที่สองของการเดินทาง (2) :โคเปนเฮเกน ชมเมือง เรือสำราญ DFDSออสโล

01.20  เหิรฟ้าสู่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG950
07.40ถึงกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ค นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองโคเปนเฮเกน ชมรูปปั้นนางเงือกแห่ง โคเปนเฮเกน “The Little Mermaid” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญแก่กรุงโคเปนเฮเกน เมื่อปี ค.ศ.1913 ชมน้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน “Gefion Springvandet” น้ำพุขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ด้านหน้าท่าเรือเมือง ชมจตุรัส “พระราชวังอามาเลียนบอร์ก”(Amalienborg Palace) พระราชวังฤดูหนาว สร้างในศตวรรษที่ 18 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 300 ปี ของราชวงศ์ไอด์เดนบวร์ก บริเวณตรงกลางเป็นจัตุรัส ที่ตั้งอนุสาวรีย์กษัตริย์เฟรดเดอริกที่ 5 แห่งเดนมาร์ก จตุรัสแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์เฟรดเดอริก “Frederiks Kirke” โบสถ์รูปโดมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสแกนดินีเวีย ให้ทุกท่านเดินเล่นย่านถนนสตอยเกต “Strøget”
เที่ยง บริการอาหารกลางวันที่ เมนูพิเศษ.!! สเต็กเนื้อ หรือ ซี่โครงหมูอบ
จากนั้นเก็บภาพความงดงามของย่าน เขตท่าเรือใหม่นูฮาวน์ ชื่อว่า “Nyhavn” ซึ่งเป็นเขตท่าเรืออันเก่าแก่ของโคเปนเฮเกน โดยพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 ทรงรับสั่งให้สร้างท่าเรือใกล้ๆ ตัวเมืองหลวง เพื่อให้สะดวกง่ายต่อการขนย้ายสินค้า ปัจจุบันปรับมาเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ผับ บาร์มากมาย รวมถึงที่มีอาคารบ้านเรือนตั้งแต่ยุคคริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นภาพที่งดงาม
15.00เดินทางสู่ท่าเรือเพื่อนำคณะลงเรือสำราญขนาดใหญ่ DFDS ซึ่งสะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกนานาชนิด เช่น ภัตตาคาร บาร์ ไนต์คลับ และเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี หรือเดินเล่นชมวิวบนดาดฟ้าเรือตามอัธยาศัย
ค่ำ   บริการอาหารมื้อค่ำ แบบบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลเมนูพิเศษ สแกนดิเนเวียนซีฟู๊ด Scandinavian Seafood พร้อมเครื่องดื่มท่านละ 1 แก้ว ณ ภัตตาคารภายในเรือ ประทับใจกับอาหารทะเลสดจากมหาสมุทรแอตแลนติก และจากทะเลเหนือ
ที่พัก: บนเรือ DFDS ด้วยห้องพักแบบ Outside Cabin เห็นวิวทะเล (พักห้องละ 2 ท่าน)
(*** หากท่านต้องการอัพเกรด ห้องพักเป็นห้องสวีท กรุณาแจ้งพนักงานขาย)

วันที่สามของการเดินทาง (3) :ออสโล กอล ฟลัม นั่งรถไฟสายโรแมนติก  (FLAMBANA)

เช้า บริการอาหารมื้อเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
09.30เรือเทียบท่า ณ กรุงออสโล จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองฟลัม (Flam) เมืองน่ารักริมชายฝั่งฟยอร์ด นำท่านผ่านชมแหล่งแนวฟจอร์ดอันงดงาม ชื่นชมกับธรรมชาติของน้ำตกที่ไหลรินจากภูผาอันสูงชันลงสู่เบื้องล่างเป็นภาพที่ติดตาตรึงใจไปอีกนานแสนนาน แวะเมืองเกลโลเพื่อรับประทานอาหาร เป็นเมืองสกีรีสอร์ท ที่มีชื่อเสียงของประเทศนอร์เวย์ (แวะทานอาหาร ณ เมืองเกลโล่/โกล)
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารเดินทางสู่เมืองฟลัม... นั่งรถไฟสายโรแมนติค “ฟลัมสบานา” (FLAMSBANA) หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สูงและสวยที่สุดในโลก ฟลัมบาน่าเป็นเส้นทางรถไฟสายเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1940 ระหว่างนั่งรถไฟ แวะจอดที่สถานีน้ำตกจอสฟอสเซ่น (Kjosfossen) ชมความสวยงามและสัมผัสความชุ่มฉ่ำจากละอองน้ำของน้ำตกที่มีความสูงถึง 225 เมตร ท่านจะประทับใจกับทัศนียภาพที่สวยงามตลอดเส้นทาง      
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: Stalheim Hotel, Freitheim Hotel, Park Hotel Vossevangenหรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สี่ของการเดินทาง (4) :ล่องเรือชม ฟจอร์ด เบอร์เกน ชมเมือง 

เช้าบริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางเข้าสู่ท่าเรือฟลัมล่องชมความงดงามของซอจ์นฟยอร์ด’ (Sognefjord) ที่ได้รับสมญานามว่า “คิงฟยอร์ด” เนื่องจากมีความลึกและใหญ่ที่สุดในประเทศนอร์เวย์ และลึกเขามาจากชายฝั่งแอตแลนติกถึงสองร้อยกิโลเมตร ชมทัศนียภาพชวนฝันของฟจอร์ด ที่สวยที่สุดของโลก ผ่านภูผาหินสูงตระหง่านที่ธรรมชาติบรรจงสลักไว้ดูวิจิตรพิสดารบนเนินลาด ริมฝั่งมีบ้านพักฤดูร้อนของชาวนอร์เวย์ ที่สร้างจากไม้สน ระหว่างล่องเรือจะนกนางนวลบินตามลำเรือ สร้างความประทับใจให้แก่ทุกท่าน จากนั้นเดินทางสู่เมือง “เบอร์เกน”
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองเบอร์เก้น (Bergen) เมืองท่าโบราณ เเละมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของนอร์เวย์ โดยได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองเเห่งเจ็ดขุนเขาของนอร์เวย์ เพราะด้วยที่ตั้งที่รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงที่มีความงดงามนำท่าน...นั่งรถรางขึ้นสู่ยอดเขาฟลอเยน (Floyen) บนความสูง 320 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองอันเป็นภาพบรรยากาศที่งดงามและประทับใจ ได้เวลาสมควร นำท่านลงเขา เดินเล่นชมเมือง เริ่มจากเขตเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของตลาดปลา “Fish Market” ที่เป็นทั้งตลาดปลาอันเก่าแก่และศูนย์การคมนาคมทางทะเลและท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ชม “หมู่บ้านชาวประมงโบราณ Bryggen”  สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารไม้สีสันสวยงามที่มีอายุเกือบ 300 ปี เรียงรายตลอดแนว นับเป็นตัวอย่างการก่อสร้างที่โดดเด่นและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (Unesco) ในปี 1970 จากนั้นอิสระทุกท่านตามอัธยาศัย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก: Scandic Hotel, Thon Hotel, Clarion Hotel Bergenหรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ห้าของการเดินทาง (5):เบอร์เกน ออสโล อุทยานฟรอกเนอร์-ช้อปปิ้งย่านถนน คาร์ล โจฮัน

เช้า  บริการอาหารเช้า(Box Breakfast) 
07.40เดินทางสู่กรุงออสโล โดยสายการบิน Norwegian Airlines เที่ยวบินที่....
08.40ถึงกรุงออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ เมืองเก่าอายุกว่า 900 ปี ซึ่งในยุคนั้นออสโลถือเป็นในเมืองอาณานิคมใหญ่ของจักรวรรดิ์ไวกิ้งโบราณ ชม “อุทยานฟรอกเนอร์” ลานปฎิมากรรมกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากผลงานของ “กุสตาฟ วิคเกอร์แลนด์” ปฏิมากรชื่อดัง ซึ่งที่นี่มีปฎิมากรรมมากกว่า 200 ชิ้น โดยผลงานชิ้นเอกเป็นเสากลางอุทยานซึ่งมีควมสูงถึง 17 เมตร ชื่อ Monolitten รอบเสาแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ ลักษณะของเสาโมโนลิท เป็นรูปคนจำนวนมากมายปีนป่ายกันอยู่บนเสาใช้เวลาสร้างรวม 22 ปี
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย   หลังอาหารนำท่านเก็บปราสาทและปราการอาร์เคอร์ชูร์ (Akershus Fortress) จากบริเวณท่าเรือ ปราสาทและป้อมโบราณแห่งนี้ที่สร้างขึ้นในปี 1299 ในสมัยของกษัตริย์ฮากอนที่ 5 บนเดินเขาริมทะเล และในสมัยกษัตริย์คริสเตียนที่ 4 ทรงบูรณะซ่อมแซมป้อมปราการแห่งนี้ให้เป็นปราสาทในรูปแบบเรอเนสซองส์ และใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์มาตลอดในยุคของพระองค์ นำท่านผ่านชมบริเวณด้านหน้า พระราชวังหลวง “Royal Palace” แห่งกรุงออสโล พระราชวังแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกที่สวยงาม โดยมีรูปปั้นกษัตริย์เฟรเดอริกที่ 5 (Frederik V) ทรงม้าบริเวณด้านหน้าพระราชวัง และเมื่อมองลงไปจากเนินพระราชวังแล้วจะเห็นสวน Slottsparken และ “ถนนคาร์ล โจฮัน” ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้ามากมาย รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของ โรงละครแห่งชาติที่สร้างขึ้นในปี 1899, มหาวิทยาลัยออสโล มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของนอร์เวย์ สร้างขึ้นในปี 1852, และ อาคารรัฐสภา (Stortinget) ที่เปิดใช้มาตั้งแต่ปี 1866 จากนั้นอิสระกับการช้อปปิ้งย่านถนนคาร์ลโจฮันตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
21.00  เดินทางสู่เมืองอัลต้า โดยสายการบิน Norwegian Airlines เที่ยวบินที่...
22.00เดินทางถึงสนามบินอัลต้า // นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก: Scandic Alta Hotel, Thon Hotel Altaหรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่หกของการเดินทาง (6) :อัลต้า ฮอนนิ่งสแวค ฟาร์มปูยักษ์ Red King Crab -นอร์ทเคป ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนพร้อมจิบแชมเปญ และรับใบประกาศนียบัตร

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า  ณ ห้องอาหารของที่พัก
หลังอาหารชม เมืองอัลตา (Alta) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฟินน์มาร์ค และได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งแสงเหนือและหอดูแสงเหนือแห่งแรกของโลกซึ่งสร้างขึ้นที่นี่บนเขาฮาลด์เดอในค.ศ.1899 ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ “วิหารแสงเหนือ”  Nordlyskatedralen อาคารศักดิ์สิทธิ์อันมีเอกลักษณ์นี้มีหอคอยสูง 47 เมตรเพื่อรำลึกถึงอัลตาในฐานะเมืองแห่งแสงเหนืออย่างเป็นทางการ หนึ่งในสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมทางตอนเหนือ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองฮอนนิ่งสแวค ผ่านหมู่บ้านชาวประมงที่น่ารัก ท่านจะเห็นวัฒนธรรมของชาวบ้านแถบนี้อย่างเต็มที่ ผ่านชมแนว พอร์เสนเจอร์ฟยอร์ด (Porsanger fjord) ที่สวยงาม ท่านจะเพลิดเพลินไปกับความงดงามของธรรมชาติ และวัฒนธรรมของชาวนอร์เวย์ เห็นนั่งร้านตากปลาระหว่างเส้นทางที่ วิธีการถนอมอาหารของชาวนอร์เวย์ที่ใช้กันมาเป็นพันปี แวะเก็บภาพและซื้อของที่ระลึกระหว่างเส้นทาง 
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
บ่าย เดินทางผ่านธรรมชาติอันงดงามตามแบบฉบับของเขตขั้วโลกเหนือ นำท่านลอดอุโมงค์ใต้ทะเล เข้าสู่เกาะมาเกอโรย่า (Magerøya Island) สู่เมืองฮอนนิ่งสแวค เมืองเอกประจำเกาะ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีชุมชนอยู่เหนือสุดของประเทศนอร์เวย์ จากนั้นนำท่าน “ร่วมกิจกรรมปูยักษ์...King Crab Express” ณ หมู่บ้านชาวประมงเมืองฮอนนิ่งสแวก ทำจะได้รับความรู้เกี่ยวกับปูยักษ์ (Red King Crab) ที่อยู่อาศัยอยู่ในบริเวณตอนเหนือของนอร์เวย์เท่านั้น ปูยักษ์เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศนอร์เวย์ แต่ล่ะตัวจะมีน้ำหนักประมาณ 10-13 กิโลกรัม ส่วนขา ที่ยาวที่สุดประมาณ 1.8 เมตร เลยที่เดียว ไกด์ท้องถิ่นจะแสดงกรรมวิธีการจับปูให้ทุกท่านดูและให้ทุกท่านได้ลองสัมผัสและเก็บภาพด้วยตัวเอง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูปูยักษ์ รสเลิศ (Red Crab Shack) / จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก
22.00 นำท่านเดินทางต่อสู่อาคารนอร์ธเคป (Nordkapp) จุดเหนือสุดของยุโรป ชมห้องนิทรรศการต่างๆ ที่จัดแสดง รวมถึงศาลาไทย ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการเสด็จประพาสนอร์ดเคปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) เมื่อปี ค.ศ.1907 และได้ทรงลงพระปรมาภิไธยย่อ จปรไว้บนศิลาภายในศาลาเป็นที่เก็บรวบรวมเรื่องราว ในการเสด็จประพาสของพระองค์ฯ นับเป็นพิพิธภัณฑ์ไทยที่อยู่เหนือสุดของโลก ชม  ปรากฏการณ์ธรรมชาติ พระอาทิตย์เที่ยงคืนริมฝั่งมหาสมุทรอาร์คติคแห่งขั้วโลกเหนือ พร้อมชื่นชมดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสุกสว่างยามราตรี *** พิเศษจิบแชมเปญแกล้มคาเวียร์ฉลองการมาเยือน และท่านจะได้ประกาศนียบัตรรับรอง การเดินทางมาชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนในครั้งนี้ ***  มีเวลาให้ท่านได้เก็บภาพบริเวณลูกโลก สัญลักษณ์ของบริเวณนอร์ดเคป 
พักที่: Scandic Nordnapp Hotel, Scandic Honningsvag หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่เจ็ดของการเดินทาง (7) :ฮอนนิ่งสแวค (นอร์ธเคป) – ทะเลสาบอินารี – อิวาโร –พิพิธภัณฑ์ซามิ (SiidaMuseum)

เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารเดินทางสู่ “ทะเลสาบอินารี” แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ และที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองชาวซามิ ที่เต็มไปด้วยต้นสนและต้นเบิร์ช ทะเลสาบทั้งเล็กใหญ่กระจายตัวอยู่มากมาย ประเทศฟินแลนด์ได้รับฉายาว่า ดินแดนแห่งทะเลสาบ เนื่องจากในประเทศมีทะเลสาบถึง 187,888 แห่ง ปัจจุบันมีชาวซามี ประมาณ 9,000 คนในฟินแลนด์กระจายอยู่ตามพรมแดนของประเทศ พวกเขาถือว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่เรียกว่า Sápmi หรือ Sámiland
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย  หลังอาหารเดินทางสู่เมือง “อิวาโร” (Ivalo) เป็นหมู่บ้านในเขตเทศบาลอินารี ของเขตแลปแลนด์ (Lapland) ประเทศฟินแลนด์ และยังเป็นศูนย์ประชากรที่ใหญ่ที่สุดด้วย ที่นี่จึงเป็นแหล่งบริการที่หลากหลายที่สุดในแลปแลนด์ตอนเหนือ นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Siida ซึ่งดั่งเป็นศูนย์วัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าหลงใหล สัมผัสกับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่ชาว Sámi มีกับธรรมชาติทางตอนเหนือ และรู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงของชาวซามิกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Siida จัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรม ตามเส้นทางที่ประกอบด้วยการจัดแสดงเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรม มรดกทางสถาปัตยกรรม และการดำรงชีวิตของสามวัฒนธรรมซามิของฟินแลนด์
ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก:Hotel Kultahippu, Holiday Club Saariselkäหรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่แปดของการเดินทาง (8): อิวาโร – โรวาเนียมิ - หมู่บ้านซานตา คลอส -เกาะโคติซารี(อาหารค่ำ สไตล์บาร์บีคิวรมควันบนเกาะโคติซารี)

เช้าบริการอาหารมื้อเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารเดินทางต่อสู่เมืองโรวาเนียมี “Rovaniemi” เมืองหลวงของเขตแลปแลนด์ โดยเมืองนี้ตั้งอยู่บนเส้นอาร์กติก เซอร์เคิล (Arctic Circle) พอดีอันเส้นละติจูดที่ใช้แบ่งเขตขั้วโลกเหนือกับเขตภูมิอากาศแบบอบอุ่น และเป็นเขตแดนที่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ในช่วงฤดูร้อนและแสงเหนือในช่วงฤดูหนาว อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัยนำท่านเข้าชม “หมู่บ้านซานตา คลอส” Santa Claus Village”ซึ่งชาวฟินแลนด์ได้สร้างขึ้นเพื่อระลึก ถึงลุงซานตาคลอสผู้ใจดี ให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับลุงซานต้า และท่านจะได้มีโอกาสส่งโปสการ์ดให้เพื่อนๆ หรือคนที่ท่านรัก จากที่ทำการไปรษณีย์ของซานต้าคลอส หรือท่านจะเลือกซื้อของที่ระลึก เก็บ  ภาพความน่ารักตามอัธยาศัย
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย    หลังอาหารให้ท่านอิสระกับการเดินเล่นชมเมืองโรวาเนียมิ หรือเลือกช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายย่านใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สมควรแก่เวลานำท่าน นั่งเรือข้ามแม่น้ำเคมิโจกิ (Kemijoki) สู่เกาะโคติซารี (Kotisaari) เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในแม่น้ำ เป็นสถานที่ที่สวยงามและเงียบสงบ มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน เกาะนี้มีผู้คนอาศัยอยู่มากว่าพันปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งค้าขายที่สำคัญ ในอดีตก่อนหน้านี้เกาะนี้ถูกใช้โดยคนตัดไม้เพื่อขนส่งท่อนซุงไปตามแม่น้ำเคมิตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 1800 จนถึงสิ้นปี 1980 ปัจจุบันมีอาคารแบบฟินแลนด์ดั้งเดิมหลงเหลืออยู่บนเกาะและได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพดี
ค่ำ  บริการอาหารอาหารมื้อค่ำแบบฟินแลนด์ สไตล์บาร์บีคิวรมควันบนเกาะโคติซารี ที่ Savurafla อาคารโรงเรือเก่ามีเสน่ห์ในความเรียบง่าย โต๊ะไม้ยาวรวมผู้รับประทานอาหารเข้าด้วยกันเพื่อเพลิดเพลินกับบรรยากาศยามเย็น(ร้านอาหาร Savurafla บนเกาะโคติซารี เปิดให้บริการในฤดูร้อนประมาณ มิถุนายน-สิงหาคม ตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันเสาร์ * ในกรณีที่เดินทางไปไม่ตรงกับวันเปิดบริการ บริษัทฯ ขอเปลี่ยนไปทานอาหารที่หมู่บ้านซานตาครอสแทน)
พักที่: Santa Claus Hotel, Sokos VaakunaHotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่เก้าของการเดินทง (9): โรวาเนียมี เคมิ – The Experience 365-ภัตตาคารน้ำแข็ง เฮลซิงกิ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก // หลังอาหารนำท่าน...จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองเคมิ เมืองน่ารักริมชายฝั่งอ่าวบอธเนีย นำท่านเข้าสู่อาคาร Experience 365  ภายในจะมีประติมากรรมน้ำแข็งที่น่าทึ่ง ท่านเพลิดเพลินกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเมนู Snow & Ice Tastingโต๊ะอาหารน้ำแข็งที่ล้อมรอบด้วยรูปปั้นที่สวยงามที่ทำจากน้ำแข็ง แก้วน้ำแข็งที่ทำด้วยมือในอุณหภูมิ -5 องศาเซลเซียสแม้ในช่วงกลางฤดูร้อน” ด้วยสภาพแวดล้อมที่เยือกแข็งและอาหารรสเลิศ มีเวลาให้ท่านเก็บภาพภายในภัตตาคารน้ำแข็งอย่างเต็มที่ หรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินเมืองอูลู
17.30  เดินทางสู่กรุงเฮลซิงกิ โดยสายการบิน ภายในประเทศ สายการบินฟินแอร์เที่ยวบินที่ AY 442
18.45  ถึงกรุงเฮลซิงกิ จากนั้นนำท่านท่านเข้าสู่ตัวเมือง
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก 
พักที่:Sokos Presidentti Hotel, Radisson Blu Hotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง  

วันที่สิบของการเดินทาง (10) :เฮลซิงกิ ชมเมือง เรือซิลเรียไลน์

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารชมกรุงเฮลซิงกิเมืองหลวงของฟินแลนด์ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบ ผสมผสานระหว่างสวีดิชและรัสเซีย ชม อนุสาวรีย์ซีบีริอุส “Sibelius Monument” ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์เเก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชาวฟินเเลนด์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในระดับโลกอย่าง Jean Sibelius ซึ่งเขาคนนี้นี่เองที่เป็นผู้ประพันธ์เพลงปลุกใจชาวฟินเเลนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในชื่อเพลงฟินแลนเดีย ที่กล่าวถึงความรักชาติเเละอิสระเสรีภาพ เพื่อปลุกใจให้ชาวฟินน์ทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย จากนั้นเข้าชมภายใน “โบสถ์หินเทมเปอเลียวคิโอ” (Templiaukkio Church)หรือที่รู้จักกันในนาม "โบสถ์หิน" (Rock Church) โบสถ์แห่งนี้แต่เดิมเป็นภูหินแกรนิตใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมือง ถูกสร้างขึ้นโดยการระเบิดชั้นหินธรรมชาติ ซึ่งออกแบบโดย Timo และ Tuomo Suomalainen สองพี่น้องสถาปนิกชาวฟินแลนด์ “มหาวิหาร” Uspenski Cathedral วิหารออร์ธอดอกซ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1864 โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปี จากนั้นเข้าสู่ เซเนท สแควร์ (Senate Square) เป็นจตุรัสกลางเมือง โดยใจกลางจตุรัสมี อนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ที่ 2 ประดิษฐานอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า ชมมหาวิหารเฮลซิงกิ สร้างในรูปแบบนีโอคลาสสิค มาตั้งแต่ปีค.ศ.1830-1852 เพื่ออุทิศให้แก่นักบุญนิโคลัส ซึ่งในอดีตเรียกว่าโบสถ์นิโคลัส “Nicholas Church”
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย    จากนั้นเดินเล่นย่าน “ตลาดนัดริมทะเล” Market Square ที่มีชื่อเสียงนอกจากจะเป็นตลาดย่านใจกลางเมืองที่ขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว แหล่งขายปลานานาชนิด อาหารผลไม้ และดอกไม้อิสระช้อปปิ้งที่ห้างสต๊อคมานน์ (Stockmann) และบริเวณใกล้เคียงตามอัธยาศัย 
15.30  นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อเดินทางเปลี่ยนบรรยากาศโดยเรือสำราญขนาดมหึมา “ซิลเลียไลน์” Silja Line ซึ่งเป็นเรือสมุทร ขนาดใหญ่ที่สุดของสแกนดิเนเวีย ล่องผ่านทะเลบอลติก สู่กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เพลิดเพลินกับความสนุกสนานมากมายในเรือ อาทิ ภัตตาคาร, ร้านอาหาร, บาร์, ไนต์คลับ, ดิสโก้เธค, ศูนย์สันทนาการสำหรับครอบครัว, ร้านค้าปลอดภาษี และเสี่ยงโชคในคาสิโนมีระดับชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของหมู่เกาะแก่งหิน ท่าเรือ และบ้านไม้สมัยศตวรรษที่ 19  
ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ แบบบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลเมนูพิเศษ สแกนดิเนเวียนซีฟู๊ด ณ ภัตตาคารภายในเรือ ประทับใจอาหารจากทะเลเหนือและทะเลบอลติก ทดลองชิมไข่ปลาคาร์เวีย และปลาแซลมอนแบบต่างๆพร้อมทั้งชิมไวน์เลิศรส เพลิดเพลินกับความหรูหราที่ไม่ธรรมดาในคืนพิเศษนี้
ที่พัก: บนเรือสำราญซิลเลียไลน์: Silja Line (Out Side วิวทะเล) พักห้องละ 2 ท่าน
(*** หากท่านต้องการอัพเกรด ห้องพักเป็นห้องสวีท กรุณาแจ้งพนักงานขาย)

วันที่สิบเอ็ดของการเดินทาง (11) :สต๊อกโฮล์ม พิพิธภัณฑ์เรือวาซา – ศาลาว่าการเมือง-ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่ห้าง NK

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
09.30เรือเข้าเทียบฝั่งกรุงสต๊อกโฮล์ม นำ (Stockholm) เมืองหลวงของประเทศสวีเดนที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจนได้รับการขนานนามว่า “ความงามบน ผิวน้ำ” Beauty on Water หรือ “ราชินีแห่งทะเลบอลติค”
นำท่านขึ้นสู่จุดชมวิวพร้อมชมความสวยงาม ของกรุงสต๊อกโฮล์ และเมืองเก่า “แกมล่าสแตน จากบริเวณจุดชมวิว จากนั้นนำท่านเข้าชม “พิพิธภัณฑ์เรือวาซา” (VASA Ship Museum)ชมเรือรบวาซาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการทำสงครามกับเยอรมนี แต่หลังจากเรือรบวาซาร์ได้ถูกปล่อยลงน้ำได้เพียง 30 นาที เรือรบวาซาร์ก็ล่มและจมลงสู่ก้นทะเลอย่างรวดเร็ว และถูกทิ้งให้จมอยู่ใต้ทะเลบอลติคนานถึง 333 ปี จากนั้นเข้าชม “ซิตี้ ฮอลล์” City Hallหรือศาลาว่าการเมืองซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของสวีเดน คือ Ragnar Ostberg สร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8 ล้านก้อนและมุงหลังคาด้วยหินโมเสค สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1911 และทุกปีจะมีพิธีมอบรางวัล “โนเบล” Nobel Prize ที่ ซิตี้ ฮอลล์นี้
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน เมนูพิเศษ กุ้งล๊อบสเตอร์ พร้อมปลาหมึกทอด Calamari
บ่าย  จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ที่ห้างสรรพสินค้าเอ็นเค NK ซึ่งเป็น“ห้างที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ”  หรือย่าน Walking Street อันทันสมัย ที่เต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น Louis Vuitton, Chanel, NUDIE JEANS, Hermes, Burberry, Adidas, Nike ฯลฯ
ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าสู่ที่พักพักที่: Scandic Hotel, Radisson Blu Royal Park Hotelหรือที่พักระดับใกล้เคียง  

วันสิบสองของการเดินทาง (12) : สต๊อกโฮล์ม ซิกทูน่า เดินทางกลับ 

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้าแบบสแกนดิเนเวียน
หลังอาหารนำท่านชมเมือง “ซิกทูน่า” (Sigtuna) เมืองหลวงแห่งแรกของประวัติศาสตร์สวีเดน จนได้รับฉายาว่า City of Kings, Home of Vikings ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงสต็อค นึ่งในเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเมืองหนึ่งของสวีเดนมาตั้งแต่ ศตวรรตที่ 10 หรือกว่า 1,100 ปีมาแล้ว กษัตริย์สวีเดนเคยประทับอยู่ที่เมืองนี้ราวๆ 250 ปี // ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน

14.20  ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยการบินไทยเที่ยวบินที่ TG961

วันที่สิบสามของการเดินทาง (13) : กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

05.30เดินทางถึงกรุงเทพฯ...โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

อัตราค่าบริการ 2567 รวมค่าวีซ่าและทิปพนักงานขับรถ

กำหนดการเดินทาง

ผู้ใหญ่
พักห้องละ 2 ท่าน

เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน

เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
 พักกับผู้ใหญ่
2 ท่าน (เสริมเตียง)

พักเดี่ยว
เพิ่ม

 

18 – 30 มิ.ย.67

239,900

239,900

239,900

49,900

03 – 15 ก.ค.67

239,900

239,900

239,900

49,900

17 – 29 ก.ค.67

239,900

239,900

239,900

49,900

01 – 13 ส.ค.67

239,900

239,900

239,900

49,900

09 – 21 ส.ค.67

239,900

239,900

239,900

49,900

ต้องการเดินทางโดยชั้นธุรกิจ (Business Class) กรุณาสอบถามเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่บริษัทฯ

Visitors: 153,202