ทัวร์ KYUSHU X-mas & New Year-PREMIUM 6วัน 4คืน เดินทาง ธันวาคม 2567 | สายการบินไทย (TG)

KYUSHU X-mas & New Year

โปรแกรมการเดินทาง

วันแรก  กรุงเทพฯ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ                                                                  

20.00 น.  พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขาออก ประตู .. เคาน์เตอร์ ...

เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกด้านเอกสารท่านก่อนขึ้นเครื่อง

วันที่สองท่าอากาศยานฟุกุโอะกะ – ย่านเมืองเก่า ฮากาตะ – ประตูเซนเน็งมง + โจเทนจิ โดริ + วัดโจเทนจิ – วัดโทโชจิ – ศาลเจ้าคุชิดะ – ศาลเจ้าดาไซฟุเทนมันกุ – เฮ้าส์เทนบอส HUIS TEN BOSCH

01.00 น.  เดินทางสู่ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน Thai Airway เที่ยวบินที่ TG 648

08.10 น.  ถึง ท่าอากาศยานเมืองฟุกุโอะกะ ประเทศญี่ปุ่น หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และ ศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

นำท่านชมความงามของประตู ฮากาตะเซนเน็งมง (ประตูฮากาตะมิลเลนเนียม) ซึ่งเป็นประตูสี่ขา ทำด้วยไม้ขนาดใหญ่ หน้าแผงประตูทำจากไม้เก่าต้นการบูรอายุ 1,000 ปี ที่ได้รับบริจากจากศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมังกุ หลังคาประดับกระเบื้องแบบโบราณ สร้างเพื่อตอนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยีอนย่านเมืองเก่าฮากาตะ อีกทั้งยังเป็นประตูที่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองของเมืองฮากาตะตลอด 1,000 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นคำอธิษฐานเพื่อความเจริญรุ่งเรืองในอีก 1,000 ปีข้างหน้าสืบไป ประตูนี้เชื่อมกับ ถนน โจเทนจิ โดริ ซึ่งเป็นทางเดินเชื่อมที่ปรับปรุงให้สวยงามแบบญี่ปุ่น พร้อมๆการก่อสร้างประตูฮากาตะมิลเลนเนียม โดยใช้พื้นที่ของวัดโจเทนจิ (วัดจึงถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ถนนโจเทนจิ ตัดผ่านพื้นที่วัดเดิม) วัดโจเทนจิ เป็นวัดเก่าแก่มีอายุมากกว่า 750 ปี ภายในวัด มีสวยญี่ปุ่นและสวนหินแบบเซนที่จัดได้สวยงาม และยังมีของเก่าโบราณอีกมากมาย อีกทั้งยังมี อนุสาวรีย์ต้นกำเนิดของอุด้ง โซบะ และมันจู สร้างโดยท่าน โชอิจิ โคคุชิ มหาปุโรหิตแห่งสมัยคามาคุระ  มีผู้คนกล่าวไว้ว่า ซานุกิ นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องอุด้ง และ ชินชู ก็มีชื่อเสียงในเรื่องโซบะ แต่เมืองฮากาตะนั้นว่ากันว่าเป็นแหล่งกำเนิดของอุด้ง โซบะ และมันจู โดยครั้งเมื่อท่าน โชอิจิ โคคุชิ กลับมาจากการศึกษาที่ประเทศจีนในปี 1241 เขาได้นำเทคนิคการโม่แป้งสุดล้ำที่ไม่เคยมีในญี่ปุ่นมาก่อนกลับมา และได้ผลิตบะหมี่อุด้ง ที่ว่ากันว่าเป็นวัฒนธรรมการกิน แป้งบัควีทที่ยอดเยี่ยม จนกระจายไปทั่วประเทศญี่ปุ่นในเวลาต่อมา อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมสวน และไหว้พรขอพรกันตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ ย่านเมืองเก่าใจกลางเมืองฮากาตะ ให้ท่านแวะไหว้พระขอพร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดโทโชจิ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ดังเดิมมาแต่โบราณ ภายในมีเจดีย์ห้าชั้นสีแดงยอดประดับแผนทองสวยงาม และพระพุทธรูปปางสมาธิที่แกะสลักด้วยไม้องค์ใหญ่ สูงถึง 10.8 เมตร สบงขององค์พระพุทธรูปนั้นแกะลวดลายประดับทองงดงามยิ่งนัก อิสระให้ท่านได้ไหว้พระขอพรกันตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินท้าว เพื่อเยี่ยมชมและขอพรเทพเจ้า ณ ศาลเจ้าคุชิดะ ศาลเจ้าหลักแห่งเมืองฮากาตะ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประจำปีที่สำคัญ อาทิเช่น เทศกาลฮากาตะกิอองยามาคาสะ และ เทศกาลฮากาตะโอคุนจิ ภายในศาลเจ้านั้นเป็นทีสถิตของเทพเจ้า โอฮาตะ โนะมิโคโตะ ซึ่งเป็นเทพที่คุ้มครองและปกปักรักษาบ้านเมืองให้สงบสุข ด้านทางเข้าหลักเป็นประตูไม้โบราณขนาดใหญ่ประดับด้วยโคมแดงและป้ายอักษรญี่ปุ่นที่แปลว่าทักษะดูเด่นงามตา ตัวอาคารศาลเจ้านั้นงดงามเคร่งขรึม จึงมีผู้คนมากมายเข้ามากราบขอพร ทั้งชาวญี่ปุ่น และชาวต่างชาติ อิสระให้ท่านได้ไหว้พระขอพร กันตามอัธยาศัย

นำท่ากราบขอพร ณ ศาลเจ้าดาไซฟุ เทมมังกุ ซึ่งเป็นศาลเจ้าหลักชินโต ที่สำคัญแห่งภูมิภาคคิวชูและประเทศญี่ปุ่น ในแต่ละปีมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาสักการะขอพร มากถึง 10 ล้านคน สร้างขึ้นในปี 919 และได้รับการบูรณะใหม่ในปี 1591 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่นักปราชญ์ และ กวีเอก ซูงาวาระ มิจิซาเนะ ผู้ถูกเนรเทศจากราชสำนักโตเกียว มายังคิวชู ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่าเมื่อท่าน มิชิซาเนะ เสียชีวิตลงร่างของเขาถูกวัวตัวหนึ่งหามนำมาอยู่ใกล้วัดพุทธ และไม่สามารถขยับร่างย้ายไปจุดอื่นได้ ผู้ติดตามของเขาจึงสร้างศาลเจ้าขึ้น และต่อมาท่าน มิชิชาเนะ ได้รับการบูชา ในฐานะเท็มมัง เทพแห่งวรรณกรรมและวัฒนธรรม ปัจจุบันนักเรียนทุกระดับชั้นต่างพากันมุ่งหน้ามายังสะพานโค้งของศาลเจ้าเพื่อบนบานขอให้สอบผ่าน และถ่ายภาพคู่กับรูปปั้นวัว หล่อสำริต ที่ตั้งอยู่ในบริเวณภายในวัด เพื่อเป็นสิริมงคล อิสระให้ท่านได้กราบขอพร และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก             

กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำทานเดินทางสู่ เฮ้าส์เทนบอส Huis Ten Bosch สวนสนุกในแบบฉบับฮอลแลนด์แห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสวยงามของดอกไม้และมีเสน่ห์น่าหลงใหล กับบรรยากาศแบบในยุโรป อิสระให้ท่านเพลิดเพลินไปกับการเที่ยวชมสวนดอกไม้นานาพันธ์ที่สลับสับเปลี่ยน อวดโฉมสวยงามหลากสีกันไปตามฤดูกาลตลอดทั้งปี สนุกสนานกับการเก็บภาพเป็นที่ระลึกกับสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่สง่างามตามแบบฉบับยุโรป ภายในแต่ละโซนล้วนแล้วแต่เป็นศิลปะดั้งเดิมของฮอลแลนด์ สร้างโดยนำวัสดุก่อสร้างนำเข้าจากฮอลแลนด์และยุโรป ให้ท่านได้สนุกไปกับเครื่องเล่น และกิจกรรมมากมายถึง 40 ชนิด อาทิเช่น Teddy Bear Kingdom, White Ferris Wheel, Crazy Hammer King, Carriage Tour, Fishing Adventure Game, หรือ ชมวิวจากท็อปวิวของยอดตึก Domtoren รวมถึงนั่งเรือ Gondola เพื่อชมโซนอันสวยงามต่างๆ อย่างประทับใจ และพลาดไม่ได้กับการชมแสงสีแห่ง Kingdom of Lights ยามค่ำคืนใน บรรยากาศสุดโรแมนติก พร้อมชมการแสดงสุดอลังการตา ภายใต้ค่ำคืนอันแสนโรแมนติก

เย็น  รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

ที่พัก  HOTEL NIKKO HUIS TEN BOSCH หรือ เทียบเท่า

วันที่สาม  สวนสันติภาพนางาซากิ – พิพิธภัณฑ์ปรมาณู – สะพานหินแว่นตา + ชมหัวใจหิน – สวนโกลเวอร์ – นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ – อินาสะยามะ สโลปคาร์ + จุดชมวิวยอดเขาอินาสะยามะ + นางาซากิโรปเวย์

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ สวนสันติภาพนางาซากิ เยี่ยมชมอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญของโลก เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง ได้ทิ้งระเบิดปรมาณู ณ เมืองนางาซากิ ในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ทำให้มีการสูญเสียเป็นจำนวนมาก ให้ท่านได้เยี่ยมชมรูปปั้นสันติภาพ อันยิ่งใหญ่และสง่างาม ซี่งออกแบบโดย เซโบะ คิตามูระ ศิลปินชาวญี่ปุ่น เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น แขนที่ยึดเหยียด เตือนให้เราถึงอันตรายของอาวุธนิวเคลียร์ นอกจากนี้รูปปั้นนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจส่งกลับไปยังผู้คนทั่วโลก เพื่อให้เป็นสักขีพยานถึงอนาคตอันสงบสุขยิ่งขึ้น ภายในสวนสันติถาพนางาซากิ ยังมีระฆังเพื่อสันติภาพและน้ำพุแห่งสันติภาพ อีกด้วย อิสระให้ท่านได้ชมสวนอันเงียบสงบและ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ปรมาณูนางาซากิ สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงและให้ความเคารพแด่ผู้เคราะห์ร้ายและผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณู และยังรวบรวมข้อมูลเหตุการสำคัญ และผลกระทบการทิ้งระเบิดปรมาณู แฟตแมน ลงสู่เมืองนางาซากิ ซึ่งเป็นข้อมูลความจริงที่เศร้า และเป็นเครื่องเตือนความทรงจำถึงความน่ากลัวของสงครามอันเศร้าหมองและเจ็บปวดในครั้งนั้น รวมถึงสิ่งของต่างๆที่บอกเล่าประวัติศาลตร์ของเมืองนางาซากิทั้งก่อนและหลังการทิ้งระเบิด อิสระให้ท่านได้ชมเรื่องราวต่างๆในพิพิธภัณฑ์กันตามอัธยาศัย

กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านชมความงดงามของ สะพานหินแว่นตา (หรือสะพานเมกะเนะ) ต้นฉบันสะพานหินโค้งในยุคแรกๆ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคับในปี 1960 กล่าวกันว่าท่านโมคุสุ เนียวโจ แห่งวัดโคฟุคุจิ เป็นผู้สร้างราวปี 1634 ในยุคแห่งเมืองโคฟูคุจิรุ่งเรือง แต่เกิดเหตุการภัยพิบัติใหญ่ และน้ำท่วมใหญ่ในปี 1647 ตัวสะพานได้เสียหายและได้รับการซ่อมแซมในปีถัดมา ต่อมาสะพานนี้ได้รับความสนในจากทั่วประเทศในฐานะมาตรฐานสำหรับเทคโนโลยีในการสร้างสะพานหิน นอกจากนี้บริเวณสะพานยังมีน้ำที่ใสสะอาจ และเป็นที่อยู่ของปลาหลากหลายชนิดเช่นปลาคราฟญี่ปุ่นอีกด้วย อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ย้อยยุคสู่สมัยเมจิเยี่ยมชม สวนโกลเวอร์ และอาคารทรงยุโรปเก่าแก่อายุมากกว่า 150 ปี บนเนิ่นเขาอันงดงาม ที่สามารถชมวิวท่าเรือนางาซากิและภูเขาอินาซะได้อย่างลงตัว ซึ่งในสมัยก่อนเป็นถิ่นอาศัยของชาวต่างชาติในช่วงปี 1641 หลังนางาซากิทำสนธิสัญญาเปิดเมื่องท่าเรือค้าขายกับยุโรปและอเมริกา อาคารสไตล์ตะวันตกเริ่มขยายตัวตั้งเรียงรายบนเนินเขา ถนนและบันไดหินได้ขยายกระจายรอบบริเวณสวนโกลเวอร์ รวมทั้งบ้านของพ่อค้านักผจญภัย โทมัส โกลเวอร์ ปัจจุบันอาคารเหล่านี้ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติญี่ปุ่น อีกทั้ง โกลเวอร์เฮ้าส์ ยังได้รับการจดทะเบียนให้เป็นส่วนหนึ่งของ สถานที่แห่งการปฎิวัติอุตสาหกรรมเมจิของญี่ปุ่นอีกด้วย อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินชมความงามชองสวนโกลเวอร์ และวิวอันงดงามของเมืองนางาซากิ ตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ แหล่งร้านค้าและร้านอาหารชาวจีนชื่อดังแห่งเกาะใต้คิวชู ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะในช่วงยุคการค้าขายกับชาวจีนเฟื่องฟู นำท่านเดินผ่านประตู ชูกะมง 1 ใน 4 ทิศของประตูเทพเจ้าแห่งไชน่าทาว์นางาซากิ ซึ่งวัสดุในการก่อสร้างประตูทั้งหมดนั้นได้ถูกนำเข้ามาจากเมืองฝูโจว ประเทศจีน โดยสมาคมส่งเสริมย่านช้อปปิ้งชินจิไชน่าทาวน์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทัดเทียมกับไชน่าทาวน์ โกเบ และ โยโกฮาม่า ผังเมืองบริเวณ ชินจิ ไซน่าทาวน์ นั้นประตูทางเข้าออกหลักทั้งสามทิศ ได้จัดตั้งตามตำราฮวงจุ้ยจีนโบราณ โดยประตูทิศเหนือ หันไปทางแม่น้ำโดซะ จึงหมายถึงธาตุน้ำ ประตูทางใต้ เปิดสู่สวนสาธารณะมินาโตะ จึงเปรียบเสมือนธาตุไฟ ประตูทางตะวันออกเฉียงเหนือ หันออกไปสู่วัดโซฟุคุจิ วัดพุทธจีนโพ้นทะเลที่คอยปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย ส่วนทิศตะวันตกเป็นพลังธาตุต่ำ จึงไม่สร้างหลังคาแบบจีนไว้ มีเพียงแค่ป้ายและเสาเท่านั้น ภายในไชน่าทาวน์มีทั้งร้านอาหาร ร้านขนมอร่อยๆ มากมาย รวมถึงสถาปัตยกรรมอาคารจีนที่สวยงาม อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาเดินเที่ยว ชิมของอร่อยๆ อาทิเช่น ซาลาเปาหมูตุ๋น, ฮาโตชิกุ้งทอง, หรือของขึ้นชื่ออย่างชานโป้ง (บะหมี่แบบจีน) และถ่ายรูปสวยๆกันตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวบนยอดเขาอินาสะยามะ ยอดเขาที่สามารถมองเห็นอ่าวนางาซากิและวิวเมืองอันสวยงาม ให้ท่านเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งรถสโลปคาร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ของเมืองนางาซากิ ที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง แต่ละรอบโดยสารสามารถ นำพาผู้โดยสารได้ถึง 80 ท่านต่อขบวน (มี 2 ตู้โดยสาร ต่อขบวน) เมื่อถึงสถานีด้านบน (สถานีซันโช) อิสระให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนราม่า ที่ท่านจะสามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองและอ่าวนางาซากิ ได้อย่างลงตัว จากนั้นได้เวลาอันสมควร นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งกระเช้านางาซากิโรปเวย์ (ขาลงเขา) ให้ท่านได้ชมวิวอันงดงามจากภายในกระเช้าที่จะค่อยๆปรับภาพทิวทัศน์ยามราตรี ที่มีแสงไฟส่องสว่าง ราวกับดวงดาวหลายล้านดวงขยับเข้ามาใกล้ตัวท่าน ทำให้รู้สึกถึงช่วงเวลาที่สุดแสนโรแมนติกยิ่งนัก

เย็น  รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

ที่พัก  INASAYAMA KANKO HOTEL หรือ เทียบเท่า

ให้ท่านได้สัมผัสกับการอาบน้ำแร่ หรือ ออนเซ็น (ONSEN) น้ำแร่ธรรมชาติแท้ๆ จากบ่อน้ำพุร้อน ทำให้ท่านผ่อนคลายความเมื่อยล้า เลือดลมดี, ผิวพรรณสดใส, สุขภาพดีแบบญี่ปุ่นๆ, และเป็นวิถึการผ่อนคลายความเครียดที่คนญี่ปุ่นนิยมอีกด้วย

วันที่สี่  ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ + ยูโทคุมองเซน โซเทนไค – ปราสาทคุมาโมโต้ + ซากุระโนะบาบะ โจไซเอ็น – ช้อปปิ้งถนน ชิโมโทริ & คามิโทริ

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ ตั้งอยู่ในเขตเมืองคาชิมะ จังหวัดซากะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าอินาริ 1 ใน 3 ที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ตัวอาคารมีสีแดงสดสร้างอยู่บนไหล่เขา ด้านหน้าวัดมีแม่น้ำฮานะ ตัวศาลเจ้าสร้างในปี 1687 โดยท่านหญิง คาซานิน มันโคฮิเมะ ภรรยาของ นาเบชิมะ นาโอโตโมะ ผู้ปกครองแคว้นคาชิมะ ท่านหญิงได้เชิญจิตวิญญาณของเทพ อินาริโอคามิ จากศาลเจ้าหลักของทางราชสำนัก มาบูชา ณ ที่แห่งนี้ จากนั้นก็มีผู้มากราบไหว้ต่อเนื่องมายาวนานจนถึงปัจจุบัน (มีผู้จนแวะมากราบไหว้ปีละหลายล้านคน) อิสระให้ท่านได้ ขอพรจากเทพเจ้า เลือกหาเครื่องรางวัตถุมงคล และเดินเล่นชมสวนกันตามอัธยาศัย

จากนั้นให้เวลาท่านเดินเล่นหาซื้อขนมของฝาก ณ ถนนหน้าวัด ยูโทคุ มองเซน โชเทนไค ซึ่งเป็นถนนย่านการค้าเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ อีกทั้งยังมีต้นซากุระ สองข้างทางที่สวยงามที่จะผลิดออกเบ่งบานเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ และในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น ก็ยังมีการจัดเทศกาลฤดูใบไม้ผลิยูโทคุมอนเซ็น และบริเวณนี้ก็จะคึกคักไปด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมาย บางปีภายในงานยังมีการจัดแสดงรถย้อนยุคเป็น 100 คัน เรียงรายอยู่บนถนนช้อปปิ้งหน้าประตูทางเข้าศาลเจ้าแห่งนี้ซึ่งเป็นภาพที่งดงามตระการตายิ่งนัก อิสระให้ท่านได้เดินเล่น ซื้อขนม ของที่ระลึกกันตามอัธยาศัย

กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

จากนั้นเดินทางสู่ ปราสาทคุมาโมโต้ ตั้งอยู่บนเนินเขาจูโอคุ สร้างขึ้นในปี 1607 โดยท่าน คะโต คิโยมาสะ โดยมีหอคอยเทนชุคาคุ อยู่ชั้นในของตัวปราสาท หอคอยนี้สร้างด้วยเครื่องไม้ทั้งหมด ส่วนใหญ่ถูกเผาทำลายลงในปี 1877 ในช่วงเกิดสงคราม และได้บูรณะขึ้นใหม่ในปี 1960 จากนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพ กับตัวปราสาทและหอสังเกตุการณ์ คูน้ำ และกำแพงหิน ที่สวยงามและยังสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่อลังการของปราสาทหลังนี้

จากนั้นนำท่างเดินเล่น และชมสินค้า ณ ซากุระโนะบาบะ โจไซเอ็น พื้นที่ใกล้ตัวปราสาทคุมาโมโต้ ให้ท่านย้อยอดีตสู่ถนนย่านชุมชนรอบปราสาทในศตวรรษที่ 17 อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศโดยรอบ และ ชิมอาหารพื้นบ้าน กันตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านสู่ ย่านการค้า ชิโมโทริ & คามิโทริ สองถนนช้อปปิ้งชื่อดังและคึกคักที่สุดแห่งเมืองคุมาโมโต้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ถนนซันโรสโชเทงไค ถนนทั้งสองนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองคุมาโมโต้ โดยมีถนนทอดยาวที่มีหลังคาโค้งสูงคลุมกันลมแดดหิมะตอลดทั้งเส้นทาง ซึ่งให้ความรู้สึกกว้างขวางอย่างมาก โดยผู้ออกแบบนำสไตล์โค้งของหลังคาพิพิธภัณฑ์ออร์แซแห่งปารีสเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบและก่อสร้าง ซึ่งย่านฝั่งชิโมโทริ จะมากด้วยร้านค้าและร้านอาหาร และฝั่ง คามิโทริ จะมีร้านค้าทั้งเก่าใหม่มากมายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้ากันอย่างสนุกสนาน อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชม เลือกซื้อสินค้าและชิมอาหาร กันตามอัธยาศัย

เย็น  รับประทานอาหาร อิสระตามอัธยาศัย (ไม่รวมค่าใช้จ่าย)

ให้ท่านได้ใช้เวลาเต็มที่ในช่วงเย็น กับการช้อปปิ้ง เลือกชิมอาหารที่ถูกใจ ณ ย่านชิโมโทริ-คามิโทริ

ที่พัก  KKR HOTEL KUMAMOTO หรือ เทียบเท่า

วันที่ห้า  หมู่บ้านยูฟุอินฟลอร์รัล – ถนนคนเดิน ยูโนะสึโบะ – ทะเลสาบคินริน – เบปปุ – บ่อนรก จิโกกุ เมกุริ – ฟุกุโอะกะ – คาแนลซิตี้ มอลล์ – เทนจินชิกะไค ช้อปปิ้งสตรีทใต้ดิน – นาคาสึยะไต

เช้ารับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก 

หลังรับประทานอาหารเช้า นำท่านเดินทางสู่จังหวัดโออิตะ

นำท่านเยี่ยมชม หมู่บ้านยูฟุอิน หมู่บ้านน่ารักขนาดเล็กที่มีจุดเด่นด้านการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อีกทั้งมีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน OTOP และ มีร้านค้าขนมแสนอร่อย คาเฟ่น่ารักๆ รวมถึง ถนนคนเดิน ยูโนะสึโบะ ที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟยูฟุอิน และทะเลสาบคินริน สองข้างทางถนนนั้นมากด้วยร้านค้าที่มีสินค้าแตกต่างกันไปกว่า 70 ร้านค้า มีทั้งของที่ระลึก งานฝีมือและของฝาก รวมทั้งขนมอร่อยมากมายให้เลือกชิม เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านเป็นของฝากกัน อิสระให้ท่านได้ใช้เวลา เลือกซื้อผลิตภัณฑ์งานฝีมือคุณภาพหลากหลาย ได้ตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินชม หมู่บ้านยูฟุอินฟลอร์รัล ซึ่งเป็นจุดเช็คอินยอดนิยมอีกจุดของยูฟุอินเลยทีเดียว ซึ่งท่านสามารถเดินเล่น ถ่ายรูปกับร้านค้าเก๋ๆ แบบยุโรปโบราณ อีกทั้งมีร้านค้าน่ารัก ตามซอยทางเดินเล็กๆ ที่มีของที่ระลึก มากมายให้เลือกซื้อเลือกชมกัน อย่างสนุกสนาน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายรูป ช้อปปิ้งกันเบาๆ แล้ว จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ทะเลสาบคินริน ที่ตั้งอยู่ปลายเขตของหมู่บ้านยูฟุอิน ชื่อของทะสาบนี้ มีความหมายว่า เกล็ดทองคำ ว่ากันว่าหลังจากที่ท่าน คุโซะโมริ ได้เห็นปลาที่มีเกล็ดดังทองคำแวววามที่แหวกว่ายไปมา ในทะเลสาบ ท่ามกลางแสงตะวันที่กำลังจะลับฟ้า ได้สะท้อนภาพอันงดงามยิ่งนักในจิตใจ  จึงได้ให้ชื่อทะเลสาบนี้ว่าทะเลสาบคินริน ในปี 1884 อีกทั้งบริเวณทะเลสาบยังมีร้านอาหารอร่อย และ คาเฟ่ น่ารักๆให้ท่านได้แวะเยือนเยี่ยมชม ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอีกด้วย

กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

จากนั้นเดินทางสู่ เบปปุ เมืองแห่งพลังงานใต้พิภพ ในจังหวัดโออิตะ นำท่านเยี่ยมชม บ่อนรก หรือเรียกว่า จิโกกุ เมงุริ บ่อนรกตั้งอยู่บนเขตพื้นที่คันนะวะ และ คะเมะกะวะ แห่งนี้มานานกว่าพันปี สาเหตุที่ได้ชื่อว่าบ่อนรกนั้น เนื่องจากมีพลังงานความร้อนใต้ดิน และก๊าซ ผุดขึ้นมาตลอดเวลา จนทำให้น้ำและโคลนในบ่อนั้นมีอุณหภูมิสูงถึงเกือบ 100 องศา แต่ละบ่อนั้นจะมีแร่ธรรมชาติกันไป สีของบ่อจึงขึ้นอยู่กับมวลสารของแร่ธาตุของบ่อนั้นๆ จึงทำให้บ่อนรกแห่งเมืองเปบปุ นี้มีอยู่หลายบ่อ (ทั้งหมด 7 บ่อ) มีทั้งบ่อเลือดที่เดือดปุดๆ ขึ้นมาเป็นสีแดงเข้ม บ่อทะเลที่มีสีฟ้าราวกับน้ำทะเล บ่อโคลนเดือดที่อัดแน่นด้วยแร่ธาตุเข้มข้น ฯลฯ โดยแต่ละบ่อนั้น ลึกกว่า 120 เมตร เลยทีเดียว เมื่อท่านได้เข้ามายังบริเวณ จิโคกุเมงุริ ท่านจะได้สัมผัสกลิ่นไอกำมะถัน อบอวลทั่วทั้งหุบเขา และยังมีควันพวยพุ่งออกมาจากรอยแยกของหิน ซึ่งเป็นไปโดยธรรมชาติ ที่ท่านจะหาชมได้ที่นี่ที่เดียว (นำท่านชม 2 บ่อ / บ่อทะเล และบ่อเลือด) อิสระให้ท่านได้เที่ยวชมและแช่เท้าในบ่อน้ำอุ่นกำลังดี และเก็บภาพประทับใจเป็นที่ระลึกกันตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินสู่ เมืองฟูกุโอกะ ให้ท่านช้อปปิ้ง เดินเล่นกัน ณ  คาแนลซิตี้ มอลล์ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่ถูกออกแบบขึ้นมา โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส โดยมีรูปแบบอาคารที่ไม่เหมือนใคร และเป็นการออกแบบและสร้างตัวอาคารขึ้นมาได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คล้ายเป็นเมือง เมืองหนึ่งที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างมาไว้ ณ ที่แหล่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนต์ ห้างสรรพสินค้า สถานที่จัดแสดงนิทรรศการ ร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ รวมถึงสถานจัดแสดงแฟชั่น เป็นต้น อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่กับการช้อปปิ้ง ตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งกันต่อที่ เทนจินชิกะไค ช้อปปิ้งสตรีทใต้ดิน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะคิวชู มีพื้นที่ทั้งสิ้น 12 โซนมากกว่า 150 ร้านค้าและยังมีร้านป๊อบอัพ (ร้านชั่วคราว) ที่หมุนเวียนกันมาเปิดขายสินค้าและให้บริการใหม่ๆ จนได้รับความสนใจจากนักช้อปปิ้งอย่างมาก ภายในบริเวณแต่ละโซน ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยกระเบื้องสไตล์ยุโรป และ เพดานนั้นตกแต่งดีไซน์สไตล์ในแบบอาหรับ ให้ความโออ่าสะดวกสบายในการช้อปปิ้งเป็นอย่างยิ่ง อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการเลือกชมสินค้า และผลิตภัณฑ์ชั้นนำ นานาชนิดไม่ว่า จะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า ที่มีมากมาย ฯลฯ กันตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านแวะหาของกินแสนอร่อยรสชาติพื้นเมืองคิวชูแท้ๆบน ถนนนาคาสึยะไต ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับกลิ่นไอความหอมอร่อย แบบโต๊ะชนห้องครัว ด้วยอาหาญี่ปุ่นหลากหลาย บนรถเข็นแผงลอยในสไตล์ญี่ปุ่นสตรีทฟู๊ด ที่เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่า รถเข็นยะไต ด้วยบรรยากาศสนุกสนานเป็นกันเอง โดยแต่ละร้านค้าจะมีขนาดเล็กประมาณ 5-8 ที่นั่ง ติดโคมกระดาษสีแดงแขวนอยู่เป็นสัญลักษณ์ รอให้ท่านลูกค้าได้แวะเวียนไปชิมฝีมือการปรุงอันเลิสรส อิสระให้ท่านให้ใช้เวลาลิ้มลองรสชาติแห่งความอร่อย ในแบบฉบิบคิวชู กันตามอัธยาศัย

เย็น  รับประทานอาหาร อิสระตามอัธยาศัย (ไม่รวมค่าใช้จ่าย)

ให้ท่านได้ใช้เวลาเต็มที่ในช่วงเย็น กับการช้อปปิ้ง เลือกชิมอาหารที่ถูกใจ ณ เทนจิน

ที่พัก  HAKATA GREEN HOTEL หรือ เทียบเท่า

วันที่หก  สนามบินฟุกุโอะกะ – สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก 

หลังรับประทานอาหารเช้า เก็บสัมภาระ และเช็คเอาท์ ราว 09.00 น. (ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรม สู่สนามบินเพียง 15 นาที)

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบิน

11.40 น.  นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Thai Airway เที่ยวบินที่ TG 649 

15.40 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

*****Travel Around the World by Chic Journey*****

บริษัทฯอาจเปลี่ยนแปลงรายการเพื่อความเหมาะสม หากเกิดกรณีต่างๆ เช่น ภัยธรรมชาติ, สภาพอากาศเลวร้าย, ถนนพังเสียหายในเส้นทางที่เราจะเดินทาง, ประท้วง-การเมือง, ปัญหาที่เกิดจากสายการบิน, รวมถึงเหตุสุดวิสัย อันไม่คาดถึง ทั้งนี้ทางบริษัทจะดำเนินการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เหมาะสม และรักษาผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ