ทัวร์เคนย่า แทนซาเนีย 11 วัน เดินทาง มีนาคม - สิงหาคม 2568 | สายการบิน Kenya Airways (KQ)
รหัสสินค้า : CJN_H002_ KQ-11D8N-KENYA-TANZANIA_MAR-AUG25
ราคา |
199,900.00 ฿ |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม | 199,900.00 ฿ |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
เคนย่า แทนซาเนีย | 11 วัน
สนุกสนานกับการตามหา Big 5 บนดินแดนแห่งฝูงสัตว์ป่านานาชนิด
#แอฟริกาใต้ #สัตว์ป่า #big5 #southafrica #เคนย่า #แทนซาเนีย #kenya #tanzania
ราคา: เริ่มต้น 199,900 บาท
โดยสายการบิน: Kenya Airways (KQ)
•ยอดเขาเมรู หรือ Mt. Meru •แหล่งสงวนพันธุ์สัตว์ป่าโกรงโกโร •อุทยานแห่งชาติเซเรงเกติ •ทะเลสาบมากาดิ •ชมฝูงฟลามิงโก •อุทยานแห่งชาติแมนยารา •ชมไร่กาแฟ (Coffee Plant) •หมู่บ้านศิลปะวัฒนธรรมของแทนซาเนีย •ทะเลสาบสีชมพู •ทะเลสาบนากูรู •กิจกรรมเกมไดร์ฟ •เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวมาไซมารา
***หัวใจของการท่องซาฟารี แห่งเคนย่า ชมสัตว์และสัมผัสบรรยากาศของอุทยานแห่งชาติมาไซมาราในช่วงเช้าตรู่ (Early Morning Game Drive)
***รถจิ๊ป 4 WD แบบตะลุยซาฟารี
เดินทาง: มีนาคม – สิงหาคม 2568
หมายเหตุ: กรุณาสอบถามที่นั่งว่างก่อนทำการจอง
เคนย่า แทนซาเนีย
โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก กรุงเทพมหานคร
22.00 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 สายการบินเคนย่า แอร์เวย์ส แถว W เคาน์เตอร์ที่ 14 - 15
วันที่สอง เคนย่า – ไนโรบี – คิลิมันจาโร – อรูชา – โกรงโกโร
01.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงไนโรบี ประเทศเคนย่า โดยสายการบินเคนย่า แอร์เวย์ส เที่ยวบิน KQ887 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ บริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบินสู่กรุงไนโรบี
06.05 น. เดินทางถึงสนามบินไนโรบี แวะเปลี่ยนเครื่องเที่ยวบิน
08.15 น. ออกเดินทางจากสนามบินไนโรบี สู่สนามบินคิลิมันจาโร โดยเที่ยวบิน KQ426
09.15 น. เดินทางถึงสนามบินคิลิมันจาโร (JRO) ปรเทศแทนซาเนีย
นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
จากนั้นนำท่านขึ้นรถจิ๊ป 4 WD แบบตะลุยซาฟารี สำหรับการท่องสู่ผืนป่าแห่งแทนซาเนีย สำหรับสนามบินคิลิมันจาโร เป็นสนามบินที่เรียกได้ว่าอยู่ใกล้กับบริเวณเทือกเขาคิลิมันจาโร หากอากาศดีท่านสามารถเห็นยอดเขาคิลิมันจาโร ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นภูเขาไฟยอดเดี่ยวที่สูงที่สุดในโลก และเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกาอีกด้วย มีความสูงกว่า 5,895 เมตร
ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองอรูชา (Arusha) (ระยะทาง 52 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) ซึ่งถือเป็นฐานบัญชาการในการท่องซาฟารีในเขตภาคเหนือของแทนซาเนีย และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศแทนซาเนียอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่สามารถเห็นยอดเขาเมรู หรือ Mt. Meru ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาคิลิมันจาโร ท่านสามารถเก็บภาพความสวยงามของยอดเขาเมรู ก่อนนำท่านเดินทางท่องสู่ผืนป่าซาฟารีใหญ่เซเรงเกติ (Serengeti) แห่งประเทศแทนซาเนีย นำท่านชมเมืองอรุชา เมืองที่เป็นแหล่งของพลอยแทนซาไนท์ อันเป็นที่มาของชื่อประเทศแทนซาเนีย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่แหล่งสงวนพันธุ์สัตว์ป่าโกรงโกโร (Ngorogoro Conservation Area) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแทนซาเนีย โกรงโกโร คือ ปล่องภูเขาไฟที่เป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์ ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันตก 180 กิโลเมตรจากเขตอรุชา (Arusha) เขตอนุรักษ์โกรงโกโรมีพื้นที่ทั้งหมด 6,480 ตารางกิโลเมตร อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,020 – 3,578 เมตร องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก - UNESCO) ยกย่องให้เขตอนุรักษ์โกรงโกโรเป็นมรดกโลก (World Heritage Site) ทางธรรมชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1979 ภายในเขตอนุรักษ์โกรงโกโรประกอบด้วยภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งที่ราบ ที่ราบสูง ทุ่งหญ้าสะวันนา และป่าไม้ ได้รับการจัดตั้งให้เป็นเขตอนุรักษ์เมื่อปี ค.ศ. 1959 เพื่อให้เป็นเขตสำหรับการใช้ที่ดินอย่างเป็นระบบ และอยู่ในการดูแลควบคุมอย่างใกล้ชิด โดยมีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ มีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ และมีชนเผ่ามาไซ (Maasai) ได้รับอนุญาตเข้าไปทำเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ได้ ระหว่างทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันแปลกตา และหมู่มวลสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ช้าง ควายป่า ยีราฟ ม้าลาย หรือสัตว์นักล่าต่างๆ วันนี้เรียกได้ว่าเป็นวันแรกแห่งการเริ่มกิจกรรมกึ่งๆเกมส์ไดร์ฟ ระหว่างการเดินทางจากเขตอรุชาสู่ภูเขาไฟโกรงโกโร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Ngorongoro Serena Safari Lodge**** หรือเทียบเท่า
วันที่สาม ปล่องภูเขาไฟโกรงโกโร – เกมส์ไดร์ฟ – อุทยานแห่งชาติเซเรงเกติ (พักค้าง 2 คืน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางลงไปชมสัตว์ต่างๆในปากปล่องภูเขาไฟโกรงโกโร ซึ่งเรียกได้ว่าที่สุดของซาฟารีในประเทศแทนซาเนีย (Game drive) จากปากปล่องภูเขาไฟลงไปจนถึงก้นซึ่งเป็นที่ราบแบนๆนั้นค่อนข้างสูงมากทีเดียว เหมือนมองจากภูเขาสูงๆลงไปยังที่ราบเชิงเขา แต่พอถึงก้นปล่องแล้วจะไม่รู้สึกว่าทึบหรืออึดอัด เพราะที่นี่เป็นที่ราบในปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความกว้างถึง 18 กิโลเมตร เนื่องจากทางขึ้นที่สูงชันทำให้สัตว์ต่างๆในนี้จะออกไปข้างนอกไม่ได้ จึงทำให้มีสัตว์ต่างๆขยายพันธุ์และอาศัยอยู่มากมาย สำหรับภูเขาโกรงโกโร เป็นภูเขาไฟที่มีอายุหลายล้านปี มีปล่องที่พ่นลาวาออกมาใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง มีสัตว์ต่างๆอาศัยอยู่มากมาย เช่น ฝูงวิลเดอร์บีช ม้าลาย กวางต่างๆ รวมทั้งสัตว์นักล่าอย่างเช่น สิงโต เป็นต้น ในที่ราบกลางปล่องภูเขาไฟนี้ยังมีทะเลสาบหลายแห่ง ซึ่งเป็นที่อยู่ของฝูงนกฟลามิงโก้จำนวนมากด้วย ปล่องภูเขาไฟโกรงโกโร ซึ่งก่อนเกิดการระเบิดเมื่อหลายล้านปีก่อน เป็นภูเขาลูกโดดที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณพื้นราบในปล่องกว้างใหญ่จนไม่อาจเห็นอีกฟากหนึ่งได้ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆจำนวนมาก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพสัตว์ป่านานาชนิดได้ตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบปิคนิค
บ่าย นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเซเรงเกติ (Serengeti National Park) ซึ่งเป็นอุทยานที่กว้างใหญ่ที่สุดของแทนซาเนีย มีเนื้อที่ครอบคลุมถึง 14,763 ตารางกิโลเมตร ไม่เพียงกว้างใหญ่ที่สุดเท่านั้นแต่ยังเป็นอุทยานที่มีสัตว์มากที่สุดด้วย นำท่านออกชมสัตว์ต่างๆระหว่างทางสู่ที่พัก ท่านจะตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่ราบเซเรงเกติ เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ“โกรงโกโร” เมื่อหลายล้านปีมาแล้ว อุทยานแห่งชาติเซเรงเกติ (Serengeti National Park) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศแทนซาเนียในทวีปแอฟริกาในปี ค.ศ. 1981 คำว่า เซเรงเกติ มาจากคำว่า ไซรินกิตู (Siringitu) ในภาษามาไซ หมายถึง "สถานที่ซึ่งแผ่นดินเคลื่อนที่ตลอดกาล" ชื่อนี้ได้มาเนื่องจากความกว้างใหญ่ที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดของที่ราบแห่งนี้ และที่นี่เป็นอุทยานที่ท่านจะได้เห็นการย้ายถิ่นฐานของฝูงสัตว์ป่านับล้านตัวที่รู้จักในนาม “Great Migration”
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Serengeti Serena Safari Lodge **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
วันที่สี่ อุทยานแห่งชาติเซเรงเกติ
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านออกชมสัตว์ต่างๆในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ของเซเรงเกติ (Game Drive) ท่านอาจมีโอกาสเห็นฝูงสิงโตกำลังกินควายป่า หรือ วิลเดอร์บีช นอกจากนี้เป็นช่วงที่ท่านจะได้ชมการเดินทางของฝูงวิลเดอร์บีช ม้าลาย และสัตว์ป่านานาชนิดนับล้านตัวที่จะมีการย้ายถิ่นฐานในแต่ละเดือนหรือที่เรียกว่า “The Great Migration”
(ท่านสามารถเลือกซื้อ Optional Tour : ขึ้นบอลลูนในราคาท่านละ 500 USD ซึ่งสามารถดูฝูงสัตว์ในมุมสูงแบบ Bird Eyes View ได้) อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความน่าอัศจรรย์ของฝูงสัตว์ป่า และทัศนียภาพของภูมิประเทศแห่งแทนซาเนีย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบปิคนิค
บ่าย นำท่านออกชมสัตว์ต่อ (Game Drive) นอกจากฝูงสัตว์กินหญ้าอย่าง วิลเดอร์บีช ม้าลาย อิมพาล่า และอื่นๆแล้ว ท่านยังจะได้ชมสัตว์นักล่าต่างๆที่ตามล่าหาอาหารด้วย เช่น สิงโต เสือชีต้าร์ หรือ เสือดาวอีกด้วย ในที่ราบเซเรงเกตินี้ มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอาศัยอยู่กว่า 3 ล้านตัวนับตั้งแต่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกว่า 415 ประเภทจากหนูแคระตัวจิ๋วไปจนถึงช้างป่าแอฟริกาที่เป็นสัตว์บกใหญ่ที่สุดในโลก สัตว์เลื้อยคลาน และจระเข้ 168 ชนิด กบกับคางคกอีก 163 พันธุ์ ปลาน้ำจืดเกิน 1,000 ชนิด และนกนานาชนิดกว่า 1,500 สายพันธุ์ ทั้งนกกระจาบตัวเล็กเท่าหัวแม่มือ จนถึงนกใหญ่ที่สุดในโลกอย่างนกกระจอกเทศ ให้ท่านได้เก็บภาพความน่าประทับใจแบบเต็มอิ่มก่อนเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Serengeti Serena Safari Lodge **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
วันที่ห้า เซเรงเกติ – อุทยานแห่งชาติโกรงโกโร – ทะเลสาบมากาดิ – ชมฝูงฟลามิงโก - ทะเลสาบแมนยารา
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบมากาดิ (Lake Magadi) ซึ่งเป็นทะเลสาบตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโกรงโกโร และจะพบเห็นฝูงนกฟลามิงโกที่จะอพยพมาในช่วงเดือน พฤศจิกายน - พฤษภาคม ของทุกปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบปิคนิค
บ่าย นำท่านชมและถ่ายรูปกับฝูงนกฟลามิงโก ที่อาศัยอยู่ในบริเวณทะเลสาบมากาดิ ที่ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบน้ำเค็ม ที่สามารถพบเห็นฝูงนกฟลามิงโก สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติแมนยารา (Lake Manyara National Park) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทะเลสาบน้ำเค็มอันเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงนกฟลามิงโก เนื่องจากนํ้าในทะเลสาบแห่งนี้ มีความลึกเพียงไม่กี่เมตรและเต็มไปด้วยสาหร่ายสีแดงอันเป็นอาหารของนกฟลามิงโก จึงทําให้ทะเลสาบแห่งนี้มีนกฟลามิงโกนับแสนตัว หากมองจากที่สูงจะเห็นเป็นสีชมพู นอกจากนกฟลามิงโกแล้ว บริเวณโดยรอบทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกชนิด ต่างๆ อีกมากกว่า 400 สายพันธุ์ จึงถือเป็นแหล่งดูนกที่สําคัญอีก แห่งหนึ่งของโลก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Lake Manyara Hotel**** หรือเทียบเท่า
วันที่หก อุทยานแห่งชาติแมนยารา – อรูชา – ไนโรบี
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
10.00 น. นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองอรูชา (Arusha) ระหว่างทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพของทุ่งหญ้าสะวันนา และวิถีการดำเนินชีวิตของชนพื้นเมืองแห่งแทนซาเนีย
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเยี่ยมชมไร่กาแฟ (Coffee Plant) อันมีชื่อเสียงของประเทศแทนซาเนีย ให้ท่านได้มีโอกาสลิ้มรสชาติของกาแฟแทนซาเนียอันเลื่องชื่อ และชมกรรมวิธีการผลิตกาแฟ พร้อมทั้งให้ท่านได้เก็บภาพทัศนียภาพไร่กาแฟแห่งภูมิภาคแอฟริกา นำท่านสู่หมู่บ้านศิลปะวัฒนธรรมของแทนซาเนีย (Cultural Village) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและพลอยของแทนซาเนีย ให้ท่านได้ชมวิถีชีวิตของชาวแทนซาเนีย อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
22.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน คิลิมันจาโร
วันที่เจ็ด เคนย่า – ทะเลสาบนากูรู
01.45 น. ออกเดินทางจากสนามบิน คิลิมันจาโร สู่สนามบินไนโรบี
02.45 น. เดินทางถึงสนามบินไนโรบี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองนำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Lazizi Premier Hotel / Crown Plaza Airport Hotel**** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นําท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาตินากูรู (Nakuru National Park) (ระยะทาง 170 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ช.ม.) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่เล็กที่สุดในสาธารณรัฐเคนย่า มีพื้นที่ประมาณ 582,650 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยภูเขาและเป็นป่า พุ่มไม้ และ หนองนํ้าที่เป็นส่วนของทะเลสาบ มีสมญานามว่า ทะเลสาบสีชมพู เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารของนกฟลามิงโก้ (Flamingo Bird) ในช่วงกรกฎาคมถึงตุลาคม จะพบนกฟลามิงโก้สีชมพูนับแสนตัวในทะเลสาบแห่งนี้ อีกทั้งในเขตนี้ยังเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์แรดดํา และแรดขาวที่ใกล้สูญพันธุ์ ทั้งยังเป็นถิ่นที่อยู่ของเสือดาว สัตว์สําคัญที่หาชมได้ยาก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรม
บ่าย นําท่านชมทะเลสาบนากูรู (Naguru Lake) ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติทะเลสาบนากูรูในเขตริฟท์วัลเล่ย์หรือเขตที่ราบสูงและหุบเขาใจกลางประเทศเคนย่า บริเวณแห่งนี้ในสมัยก่อนเป็นภูเขาไฟที่มีแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์ไหลสู่ทะเลสาบ และมีสาหร่ายแกมเขียวทําให้เกิดสารอินทรีย์มีกลิ่นเหม็น และเป็นฟองบางครั้งก็ถูกเรียกว่า Soda Lake และเนื่องจากนํ้าในทะเลสาบแห่งนี้ มีความลึกเพียงไม่กี่เมตรและเต็มไปด้วยสาหร่ายอันเป็นอาหารโปรดของนกฟลามิงโก้ จึงทําให้ทะเลสาบแห่งนี้มีนกฟลามิงโก้นับแสนตัว หากมองจากที่สูงจะเห็นเป็นสีชมพู นอกจากนกฟลามิงโก้แล้ว บริเวณโดยรอบทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกชนิด ต่างๆ อีกมากกว่า 400 สายพันธุ์ จึงถือเป็นแหล่งดูนกที่สําคัญอีก แห่งหนึ่งของโลก จากนั้นนําท่านทํากิจกรรมเกมไดร์ฟ (Game Drive) หรือนั่งรถเปิดหลังคาตะลุยป่าเพื่อตามหาเหล่า Big 5 เป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเคนย่า คือ สิงโต เสือดาว แรด ช้าง และ ควายป่า ที่ใช้ชีวิตอยู่ตาม ธรรมชาติ
นอกจากนี้ เรายังสามารถที่จะชมสัตว์อื่นๆ ที่หาดูได้ยากจากธรรมชาติแห่งนี้ อาทิเช่น ยีราฟ กวาง ม้าลาย ลิงบาบูน และหมูป่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Lake Nakuru Sopa Lodge **** หรือเทียบเท่า
วันที่แปด มาไซมารา (พักค้าง 2 คืน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติ มาไซมารา หัวใจของการท่องซาฟารี แห่งเคนย่า การเดินทางในเช้าวันนี้ค่อนข้างไกล และถนนหนทางค่อนข้างสมบุกสมบัน มีโอกาสผ่านหมู่บ้านและเมืองเล็กเมืองน้อยหลายเมือง เมื่อเข้าเขตมาไซมารา จะมีโอกาสพบเห็นชนเผ่ามาไซต้อนฝูงวัวไปตามทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ พูดถึงฐานะของชาวมาไซว่าร่ำรวยแค่ไหน จะวัดกันจากจำนวนวัวว่ามีมากน้อยเท่าไร และชาวมาไซยังกินเลือดวัวสดๆ ผสมกับนมวัวเป็นอาหาร นัยว่าช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงบึกบึน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบปิคนิค
บ่าย นำท่านทำกิจกรรม (Game Drive) ในอุทยานแห่งชาติมาไซมารา ซึ่งได้ชื่อว่ามีสัตว์ให้ดูมากชนิดที่สุดในเคนย่า อุทยานแห่งชาติมาไซมาราตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเคนย่า ถือเป็นผืนป่าผืนเดียวกับอุทยานแห่งชาติ เซเรงเกติ (Serengeti National Park) ของประเทศแทนซาเนีย บนความสูง 1,588 เมตร แต่ขนาดของอุทยานแห่งชาติมาไซมารานั้นมีขนาดเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับเซเรงเกติ เพราะมีเนื้อที่เพียง 1,510 ตารางกิโลเมตร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mara Serena Safari Lodge **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
วันที่เก้า มาไซมารา
นำท่านออกชมสัตว์และสัมผัสบรรยากาศของอุทยานแห่งชาติมาไซมาราในช่วงเช้าตรู่ (Early Morning Game Drive) ให้ท่านสัมผัสทั้งบรรยากาศ พฤติกรรมของสัตว์บางชนิดที่ออกหากินในตอนเช้าตรู่ และสัตว์ที่กลับจากการล่าเหยื่อในตอนกลางคืน พร้อมชมบรรยากาศยามพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางธรรมชาติ (ท่านสามารถเลือกซื้อ Optional Tour : ขึ้นบอลลูนในราคาท่านละ 500 USD ซึ่งสามารถดูฝูงสัตว์ในมุมสูงแบบ Bird Eyes View ได้)
10.00 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านออกชมสัตว์ในอุทยานแห่งชาติมาไซมารา ผ่านกิจกรรม (Game Drive) ซึ่งได้ชื่อว่ามีสัตว์ให้ดูมากชนิดที่สุดในเคนย่า โดยเฉพาะในช่วงซึ่งเป็นฤดูกาลอพยพย้ายถิ่นเพื่อหาแหล่งอาหาร ซึ่งเป็นช่วงที่ท่านจะได้เห็นฝูงวิลเดอร์บีช จำนวนนับล้านตัว และม้าลายกว่า 5 แสนตัว รวมทั้งสัตว์อื่นๆอีกมากมาย จุดที่น่าชมที่สุดในอุทยานฯ คือ ริมฝั่งแม่น้ำมารา เพราะจะมีสัตว์ข้ามไปข้ามมามากมาย ทำให้เห็นการล่าของสัตว์เป็นประจำ โดยเฉพาะเป็นเหยื่ออันโอชะของจระเข้ รถจะขับไปตามจุดต่างๆ รอบอุทยานฯ เพื่อค้นหาสัตว์ต่างๆ ตามที่อยากพบเห็น ถ้าโชคดีอาจพบฝูงสิงโต เสือชีต้าส์ ฮิปโปฝูงใหญ่ หรือแม้กระทั่งหนึ่งใน Big Five ที่หายากนั่นคือ เสือดาว
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบปิคนิค
บ่าย นำท่านเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวมาไซมารา ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยบริเวณนี้ และ เรียกได้ว่าเป็นชาวพื้นเมืองที่สามารถกระโดดแนวดิ่งได้สูงที่สุดในโลก ให้ท่านได้ชมวิถีการดำเนินชีวิต และ ชมวัฒนธรรมของชาวมาไซมารา อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mara Serena Safari Lodge **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
วันที่สิบ มาไซมารา – ไนโรบี – กรุงเทพ
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงไนโรบี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง) ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทาง ตลอดจนสัตว์ป่าที่มักจะออกมาโชว์ตัวให้เห็นตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็น ม้าลาย ฝูงอิมพาลา ยีราฟ เป็นต้น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านช้อปปิ้งของฝาก ณ ร้านขายสิ้นค้าพื้นเมือง นำท่านผ่านชมตัวเมืองไนโรบี เมืองหลวงของเคนย่า เป็นเมืองที่ทันสมัย งดงาม เป็นระเบียบเรียบร้อยด้วยผังเมืองที่ดีที่สุดในแอฟริกาตะวันออก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารแบบ Carnivore
21.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินไนโรบี เพื่อเชคอิน
23.59 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินเคนย่า แอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ KQ 886
สายการบินมีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน
วันที่สิบเอ็ด กรุงเทพฯ
13.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)
*****Travel Around the World by Chic Journey*****
หมายเหตุ...โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
ราคาทัวร์ 199,900 บาท: 18-28 มี.ค. 68 / 8-18 เม.ย. 68
ราคาทัวร์ 249,900 บาท: 27 พ.ค.–6 มิ.ย. 68 / 10-19 มิ.ย. 68 / 17-27 มิ.ย. 68 / 12-22 ส.ค. 68
(Great Migration)
อัตราค่าบริการ (บาท) |
มี.ค. - เม.ย. 68 |
พ.ค./ มิ.ย./ ส.ค. 68 |
ราคาผู้ใหญ่ พักห้องคู่หรือ เด็ก 1 ท่านพักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน |
199,900 |
249,900 |
พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ |
30,000 |
45,000 |
เด็กอายุ 2 - 11 ปี (ไม่เสริมเตียง – พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน) |
189,900 |
239,900 |
ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักค่าตั๋วออกท่านละ |
30,000 |
35,000 |
ชั้น Business Class เพิ่มเงินจากราคาทัวร์ เริ่มต้นที่ท่านละ (ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น |
90,000 – 150,000 |