ทัวร์จอร์เเดน 21-28 ต.ค.66 พักโรงแรม 5ดาว เที่ยวครบ เก็บทุกไฮไลท์ตุลาคม 2566 : JORDAN

วันแรก : สนามบิน สุวรรณภูมิ - กรุงอัมมาน

21.30   คณะพร้อมกัน ณ สนามบิน สุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน Royal Jordanian Airlines (RJ) เคาน์เตอร์ Q

วันที่สอง : กรุงอัมมาน – เมืองมาดาบา – เมาท์เนโบ - ทะเลเดดซี

00.20  ออกเดินทางสู่ กรุงอัมมาน โดยสายการบิน Royal Jordanian Airlines เที่ยวบินที่ RJ183
05.50  เดินทางถึง สนามบินนานาชาติควีนอาเลีย กรุงอัมมาน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่โรงแรม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม Grand Hyatt Amman
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมาดาบา (ระยะทาง 34 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)อดีตเป็นเส้นทางสำคัญสมัยโรมันดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเล็ม และเป็นเมืองของโมเสสที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของศาสนายูดา, ศาสนาคริส และศาสนาอิสลาม เป็นศูนย์กลางการทำโมเสกเป็นศิลปะการตกแต่งด้วยชิ้นแก้ว, หิน หรือกระเบื้องชิ้นเล็กๆ นำมาใช้ในการตกแต่งมหาวิหาร ต่อมานำมาประยุกต์ใช้ในการตกแต่งบ้านเรือน นำท่านเข้าชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์ แห่งเซนต์จอร์จ Greek Orthodox Church Of Antioch ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองมาดาบา ชมแผนที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวเยรูซาเล็มที่ตกแต่งด้วยโมเสกสีต่าง ๆ จำนวนมากกว่า 2.3 ล้าน ชิ้น โดยที่เนื่อหาสาระสำคัญบนแผ่นที่นั้นจะแสดงถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เช่น ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, ทะเลเดดซี, เยรูซเล็ม, แม่น้ำจอร์แดน, เขาไซนาย และ อียิปต์ จากนั้นนำท่านเข้าชม เมาท์ เนโบ Mount Nebo เป็นสถานที่สำคัญและมีความเกี่ยวข้องกับโมเสส เนื่องจากเป็นสถานที่โมเสสได้เสียชีวิตลงที่นี่ ปัจจุบันยังมีหลุมพระศพสถิตอยู่ ณ บนยอดเขาเนโบแห่งนี้ และยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์แห่งโมเสสนั่นเอง ออกแบบเป็นไม้กางเขนซึ่งภายหลังกลายเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู ณ สถานที่แห่งนี้ยังมี “โบสถ์แห่งเม้าท์เนโบ” เป็นโบสถ์ของ กรีก-ออร์ทอดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 600 ในยุคของไบแซนไทน์ อันเป็นจุดที่ตั้งของภาพโมเสกโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ณ สถานที่แห่งนี้ในอดีตยังเป็นสถานที่ที่พระสันตะปาปา จอห์นพอล ที่ 2 เคยเสด็จมาเยือนอีกด้วย ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี Dead Sea
(ระยะทาง 28 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที)
บ่าย   นำท่าน Check-in เข้าสู่ที่พัก โรงแรมMovenpick Resort & Spa Dead Sea ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิสระให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ทะเลเดดซี Dead Sea นั้นได้ชื่อว่า “น้ำทะเลเค็มที่สุดในโลก” จนทำให้สิ่งมีชีวิตไม่สามารถที่จะอาศัยอยู่ในทะเลได้ จึงได้ถูกขนานนามว่าเป็นทะเลมณะ ทะเลเดดซีนั้นเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุด เนื่องจากน้ำในทะเลเดดซี มีความหนาแน่นมาก และมีเกลือละลายอยู่ในน้ำถึง 25% จนทำให้วัตถุต่าง ๆ สามารถลอยเหนือน้ำได้ แม้กระทั่งมนุษย์เองที่ลงไปในทะเลก็ไม่จมน้ำเช่นเดียวกัน กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมกันคือ Dead Sea Mud Bath “การพอโคลนทะเลเดดซี” นั่นเอง เป็นโคลนธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความเพื่อความงาม เนื่องจากโคลนจากทะเลที่มีน้ำเค็มจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการละลายของหิมะบนเทือกเขาสูงในประเทศซีเรีย และ จอร์แดน ที่นำพาโคลนบริสุทธิ์จากเทือกเขาไหลลงมารวามกันที่ทะเลเดดซีแห่งนี้มาเป็นเวลาอันยาวนานผ่านไปนับพันๆ ปี มาแล้ว
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่สาม : ทะเลเดดซี – ทะเลทราย วาดิรัม - ทัวร์ 4WD ทะเลทรายวาดิริม

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลทราย วาดิรัม Wadi Rum Desert (ระยะทาง 322 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง)หรือ หุบเขาแห่งพระจันทร์ The Valley of the moon ทะเลทราย วาดิรัม แห่งนี้มีความเชื่อเล่าต่อกัมาว่าเคยมีมนุษญ์อาศัยอยู่ก่อนคริสตกาลมากแล้ว มากกว่า 8,000 ปี เนื่องจากทะเลทรายแห่งนี้มีความสวยงามเป็นอย่างมาก จนถูกนำไปใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังฮอลลีวูด ชื่อดังเรื่อง Lawrence of Arabia และยังเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในขณะนี้ Mars of Earth นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดด้วยทุกกรณีเมื่อมาเยือนจอร์แดน
เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พื้นเมือง
จากนั้นนำท่านชม ทะเลทรายวาดิรัม Wadi Rum พร้อมสนุกสนานกับกิจกรรมทัวร์ทะเลทราย Desert Tour In Wadi Rum นำท่านตะลุยทะเลทรายที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง Wadi Rum  Desert Tour เป็นทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาลและมีความเงียบสงบ และมีผืนทรายที่มีสีส้ม เม็ดทรายละเอียด โดยที่ทะเลทรายแห่งนี้จะเปลี่ยนสีไปตามสีของพระอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาพื้นทราย ทะเลทรายแห่งนี้คือสถานที่จริงที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่อง Lawrence of Arabia นำท่านสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเบดูอิน ที่อาศัยอยู่กลางทะเลทราย และชมภาพแกะสลักต่าง ๆ ของชาวนาบาเทียน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม
พักค้างคืน ณ โรงแรม Aicha Luxury Camp ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า
หมายเหตุ ในกรณีที่ท่านต้องการพักห้องกระโจม Martian Tent เพิ่มเงินท่านละ 5,000.- บาท

วันที่สี่ : ทะเลทราย วาดิรัม – นครเพตรา - เมืองอคาบา

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ มหานครเพตรา Petra นครศิลาทรายสีกุหลาบThe Rose Cityหรือ นครที่สูญหาย The Los City (ระยะทาง 116 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชมความงดงามที่น่าอัศจรรย์ดั่งมนต์สะกดที่ซ่อนตัวลึกลับอยู่ในหุบเขาวาดิมูซา ในอดีตนครเพตรา คือ นครแห่งการค้าขายที่มีขนาดใหญ่ เป็นเมืองที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยไบแซนไทน์ ก่อนคริสตกาลถึง 400 ปี โดยพวกนาบาเทียน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย  นำท่านเข้าชม นครเพตรา Petra สัมผัส นครศิลาทรายสีกุหลาบ The Rose City สัมผัส นครที่สูญหาย The Los City มนต์เสน่ห์แห่งหุบเขาวาดิมูซา ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก จาก องค์การยูเนศโก้ และ ยังได้รับการคัดเลือกจากนิตยสาร Smithsonian ให้เป็น “ 1 ใน 28 สถานที่ต้องไปเยือนก่อนตาย” อีกด้วย (บริษัทฯ อำนวยความสะดวกให้ท่านโดยการนั่งรถม้าทั้งไป-กลับ) ระหว่างทางที่เข้าชมท่านจะได้พบกับความแปลกตาของภูเขาที่เกิดจาก การแยกตัวของเปลือกโลกและการกัดเซาะของน้ำที่เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน ที่เรียกว่า ซอกหินซิค The Siq ที่ปลายทางของช่องเขาท่านก็จะพบกับความสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ อัล-คาซเนท์ AL-KHAZNEH / TREASURY วิหารที่เจาะหน้าผาหินและแกะสลัก ความสูงถึง 40 เมตร ภูเขาจะมีลักษณะเป็นภูเขาสีชมพูทั้งลูกดูโดดเด่นเป็นสง่าด้วยเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมของอียิปต์และโรมัน ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองอคาบา Aqaba (ระยะทาง 138 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองฝั่งทะเลแห่งเดียวในประเทศจอร์แดน และยังเป็นเมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของประเทศจอร์แดน หรือที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อของ “ทะเลแดง” Red Sea เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทะเลแดง แห่งนี้มีน่านน้ำครอบคลุมถึง 4 ประเทศด้วยกัน คือ จอร์แดน, อิสราเอล อียิปต์ และ ซาอุดิอาระเบีย หรือมีอีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันคือ “อ่าวอาหรับ”
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ณ โรงแรม Movenpick Resort & Spa Tala Bay ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า : เมืองอคาบา - มาอิน ฮอตสปริงส์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน Aqua Star หรือ Aqua Coral ในทะเลแดง เพื่อชมความใสของน้ำทะเล และชมความสวยงามของปะการัง และชมความหลากหลายของสัตว์ทะเลนานาชนิด ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ในมุมสูงของแนวปะการังและปลาหลากหลายสายพันธุ์ ได้เวลาพอสมควร
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางสู่ มาอิน ฮอตสปริงส์ MA’IN HOT SPRINGS (ระยะทาง  289 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) นำท่านร่วม กิจกรรมทัวร์เพื่อสุขภาพ MA’IN HOT SPRINGSน้ำแร่ร้อนที่โด่งดังของจอร์แดน มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยโรมัน ซึ่งถูกค้นพบโดยนายทหารชาวโรมัน โดยใช้น้ำแร่แห่งนี้ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เป็นกิจกรรมเพื่อสุขภาพ มีชื่อเสียงและสรรพคุณมากมาย จนทำให้นักเดินทางบอกต่อ ๆ กันอยู่เสมอถึงสรรพคุณการรักษาอาการปวดหลัง กระดูก หรือแม้กระทั้งการรักษาโรคโลหิตไหลเวียน ต่าง ๆ ดีขึ้น จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับท่านที่จะได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม (กรุณาเตรียมชุดเพื่อลงน้ำพุร้อนทั้งนี้ทาง น้ำพุร้อน มาอิน ได้จัดเตรียมผ้าเช็ดตัวไว้สำหรับท่านแล้ว)
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
พักค้างคืน ณ โรงแรม Ma’in Hot Springs Resort & Spa ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่หก : มาอิน ฮอทสปริงส์ – อัจลุน – เจอร์ราช - กรุงอัมมาน

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัจลุน Ajloun (ระยะทาง 114 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชม ปราสาทอัจลุน Ajloun Castle หรือ ป้อมอัจลุน ซึ่งเป็นป้อมของชาวมุสลิมเป็นป้อมที่มีความสำคัญในยุคของการทำสงครามครูเสด สร้างขึ้นโดยนักรบมุสลิม โดยมีประวัติการสร้างที่ใกล้เคียงกันกับปราสาทเครัคที่ถูกตีแตกไปก่อนหน้านั้น เนื่องจากปราสาทอัจลุนตั้งอยู่บนเนินเขา จึงทำให้ศัตรูเข้าโจมตึได้ยาก ด้านบนของปราสาทยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวเมืองอัจลุนที่สวยงามอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจราช Jerash  (ระยะทาง 22 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที)
เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านเข้าชม เมืองพันเสา และ ปอมเปอีแห่งตะวันออก The Roman City of Jerash ในอดีตเมือง  เจราชเป็น  1 ใน 10 เมืองในอาณาจักรโรมัน ในอดีตได้ประสบกับแผ่นดินไหวหลายครั้ง จนทำให้กลายเป็นเมืองที่ถูกลืมนับพันปี โดยถูกปล่อยทิ้งร้าง และมีผู้ขุดพบในปี ค.ศ. 1878 และรัฐบาลจอร์แดน ได้กลับมาทำการบูรณะฟื้นฟูให้นครโรมันที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีตแห่งนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นำท่านเดินทางเข้าสู่ ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด Collonaded Street ถนนสายหลักอันเก่าแก่ของเมืองเจราช บนถนนตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร่องรอยของการเดินทางผ่านของรถม้า นำท่านชม น้ำพุใจกลางเมือง NYMPHAEUM สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 191 สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองเจราชแห่งนี้ จากนั้นนำท่านมุ่งหน้าสู่ โอวัลพลาซ่า Oval Plaza เป็นสถานที่ใช้พบปะสังสรรค์กันของชาวเมืองเจราช ที่รายล้อมไปด้วยเสาคอรินเทียม Corinthium ที่สูงตระหง่านกว่า 160 ต้น เสาเหล่านี้จึงกลายเป็นจุดถ่ายรูป จุดเช็คอิน ของบรรดาเหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลาย ได้เวลาพอสมควรนำท่านชม ซุ้มประตูกษัตริย์    เฮเดรียน ที่สร้างขึ้นหลังคริสกาล 129 ปี  เปรียบเสมือนเครื่องหมายแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน โดยประตูอย่างทางทิศใต้ของเขตเมืองใหม่ นำท่านเข้าชม โรงละคร อันยิ่งใหญ่ที่สามารถจุผู้คนได้ราว 3,000 คน จะมีลักษณะพิเศษตรงที่มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละคร ท่านสามารถทำการทดสอบความอัศจรรย์นี้ได้ด้วยตัวท่านเองเพียงการพูดเสียงเบา ๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนเข้ามาในหูของท่านอีกครั้ง จากนั้นนำท่านเข้าชม เทวสถานอาร์ทีมิสแห่งเจราช Temple of Artemis เป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามและมีความสำคัญต่อเมืองเก่าทีตกแต่งด้วยแผ่นหินอ่อน เมื่อช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยที่ผนังภายในยังให้เห็นร่องรอยของการเกิดไฟใหม้ในอดีต จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงอัมมาน Amman (ระยะทาง 51 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ณ โรงแรม Grand Hyatt Hotel Amman ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด : อัมมาน – ช้อปปิ้งตลาดทอง - กรุงเทพมหานคร

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม เมืองอัมมาน Amman ในอดีตสมัยยุคการปกครองของจักรวรรดิโรมัน เมืองอัมมานเคยมีชื่อว่า ฟิลาเดลเฟีย และปัจจุบันจึงกลายมาเป็นเมืองหลวงของประเทศจอร์แดน นำท่านเข้าชม ป้อมปราการแห่งอัมมาน Amman Citadel หรือ Jaba al-Qal’a เป็นศูนย์กลางดั้งเดิมและยังเป็นที่ตั้งสำคัญของเมืองอัมมานมากมาย นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์โบราณคดี ด้านในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ รูปปั้น ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันศตวรรษที่ 15 เป็นช่วงที่มีความสำคัญทางด้านโบราณคดีในประเทศจอร์แดน ทางรัฐบาลจึงได้มีการนำมาจัดแสดงไว้ ณ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ชม วิหารเฮอร์คิวลิส Temple of Hercules  หรือรู้จักกันในชื่อซากเสาหินแห่งเฮอร์คิวลิส ตั้งอยู่บนทำเลที่สวยงามของเมืองอัมมาน ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมัน มีลักษณะเป็นเสาหินโรมันที่มีขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่อันเป็นเอกลักษณ์ของวิหารเฮอร์คิวลิส จากนั้นนำท่านเข้าชม โรงละครโรมัน Roman Theater เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมืองอัมมาน มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 2 มีลักษณะเป็นอัฒจรรย์ครึ่งวงกลมสามารถจุผู้คนได้ถึง 6,000 คน
เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารไทย Thai Smile Restaurant
จากนั้นส่งท้ายก่อนอำลากันด้วย นำท่านสู่ ตลาดทอง เป็นตลาดยอดนิยมในเมืองอัมมานที่นักท่องเที่ยวอย่างท่านไม่ควรพลาด ทองคำส่วนใหญ่ในที่อื่น ๆ ที่ท่านเคยพบเห็นความบริสุทธิ์ของทองค่ำนั้นจะอยู่ระหว่าง 9K ถึง 14K แต่ ณ ตลาดทองแห่งนี้ท่านจะได้พบกับเครื่องประดับที่ทำจากทองคำที่มีความบริสุทธิ์ถึง 22K-24K ไม่เพียงแต่ระดับความบริสุทธิ์ของทองคำที่สูงเท่านั้น แต่เรื่องของราคาก็ไม่แพงมากอย่างที่คิด จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมและช้อปปิ้งต่อที่ Souk Mango ตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองอัมมาน เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากการขายเครื่องแต่งกายสำหรับเจ้าสาว นอกเหนือจากนั้นยังมีจำหน่าย สินค้าทั่วไป เช่น น้ำหอม เครื่องประดับ รวมถึงของที่ระลึกมีหลากหลายมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ได้เลือกสรร อิสระให้ทุ่กท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติ ควีนอาเลีย เพื่อเตรียมตัวกลับ กรุงเทพมหมานคร

วันที่แปด : อัมมาน - สนามบินสุวรรณภูมิ

01.15 ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Royal Jordanian Airlines เที่ยวบินที่ RJ182
14.25 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

*****Travel Around The World by Chic Journey****

หมายเหตุ...โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมะสม เนื่องจากสภาพ ลม ,ฟ้า , อากาศ,การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง