ทัวร์อิตาลี พ.ค.- ต.ค.67 Grand Italy 8วัน5คืน ROME,PISA,FLORENCE,VENICE,MILAN บิน EK เดินทาง พฤษภาคม มิถุนายน กันยายน ตุลาคม 2567

รหัสสินค้า : CJN-U001-EU011-GRAND ITALY8D

ราคา

82,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 82,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวนครรัฐวาติกัน เที่ยวเกาะเวนิส หอเอนปิซ่า หมู่บ้านริมผา Cinque Terre

ราคา : เริ่มต้น 82,900.-บาท

โดยสายการบิน : Emirates (EK)

ดูไบ(เปลี่ยนเครื่อง)•กรุงโรม•สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม•น้ำพุเทรวี่•บันไดสเปน•นครรัฐวาติกัน•มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์•เมืองฟอลเรนซ์•เมืองปิซ่า•หอเอนปิซ่า•เมืองลาสเปเซีย•ชิงเคว เทเร•เวนิส เมสเตร้•เกาะเวนิส•จัตุรัสเซนต์มาร์ค•เมืองเซอร์มิโอเน่•ทะเลสาบการ์ดา•เมืองมิลาน•มิลานดูโอโม่•MCARTHURGLEN DESIGNER OUTLET•สนามบินเมืองมิลาน•สนามบินดูไบ(เปลี่ยนเครื่อง)

**ที่พัก 4 ดาว

**เมนูพิเศษต้องลอง อาหารไทย,บุฟเฟต์นานาชาติ,สปาเก็ตตี้หมึกดำ,พิซซ่าต้นตำรับ

**ราคารวมทุกอย่างยกเว้นค่าทิป

เดินทาง พฤษภาคม-ตุลาคม 2567

หมายเหตุ ; โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป้นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง

วันแรก:กรุงเทพ-สนามบินสุวรรณภูมิ   (-/-/-)

23.00 น.  คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ  อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง :ดูไบ-กรุงโรม-สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม-น้ำพุเทรวี่-บันไดสเปน  (-/-/D)

03.30น.  ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK371
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
07.15 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
08.55 น.  ออกเดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK097(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
12.40 น.  เดินทางถึงสนามบินกรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรมเพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้ง 7 ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศ โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านหน้าของ สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ในอดีตนั้นเป็นสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน
จากนั้นนำท่านชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณ น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดัง แล้วเชิญอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นและของที่ระลึกในบริเวณย่าน บันไดสเปน (The Spanish Step) ซึ่งเป็นแหล่งแฟชั่นชั้นนำสุดหรูและยังเป็นแหล่งนัดพบของชาวอิตาเลี่ยน
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
Marriott Rome Park Hotelหรือเทียบเท่า

วันที่สาม :กรุงโรม-นครรัฐวาติกัน-มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์-เมืองฟลอเรนซ์   (B/L/D)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก โดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด นำท่านชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เมืองสวยอันดับ 1 ของอิตาลี เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าหากมาอิตาลีแล้วไม่ได้มาเยือนฟลอเรนซ์ก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงอิตาลีอย่างแท้จริง  เมืองเก่าที่มีความเจริญสูงสุดในศตวรรษที่ 13-16 เมืองที่ถือเป็นต้นกำเนิดของชาวอิตาลี เป็นเมืองที่ยังคงความสวยงามและมีการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะยุคเรเนสซองส์เป็นยุคที่ศิลปะเฟื่องฟูที่สุด นำท่านเดินทางสู่เนินเขา Piazzale Michelangelo เพื่อชมวิวของเมือง Florence ที่นักท่องเที่ยวรวมไปถึงชาว Florence เอง มักขึ้นมาชมบรรยากาศในมุมสูงของเมือง ซึ่งจะเห็นหลังคาสีแดงของอาคารบ้านเรือนต่างๆ รวมไปถึง Duomo เรียงรายกันเป็นแนวสวยงามยิ่งนัก อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
Hotel Charme หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ :เมืองปิซ่า-หอเอนปิซ่า-เมืองลาสเปเซีย-ชิงเคว เทเร (B/L/D)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และนำท่านเดินทางเข้าสู่ บริเวณ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า หรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ชม มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่องชื่อ นำท่านถ่ายภาพคู่กับ หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลา สเปเซีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง จากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟสู่หมู่บ้านมรดกโลกและอุทยานแห่งชาติ ชิงเคว เทเร (Cinque Terre) Cinque Terre อ่านว่า ชิงเคว เทเร หรือแปลในความหมายตามภาษาอังกฤษก็คือ The Five Land แดนมหัศจรรย์ทั้ง 5 ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นดินแดนแห่งความงดงาม หมู่บ้านเล็กๆ 5 หมู่บ้านที่ซ่อนตัวเองอยู่ห่างไกลจากสายตาของคนภายนอก แผ่นดินที่ยากจะเข้าถึงได้โดยง่าย หมู่บ้านเล็กๆ 5 หมู่บ้านที่ตั้งเรียงอยู่มิห่างกัน
นำคณะเที่ยวชม ชิงเคว เทเร เป็นพื้นที่ UNESCO ประกาศให้เป็นมรดกโลก ด้วยทำเลที่ตั้งของทั้งหมดอยู่บนภูเขาสูง โดนมีหน้าผาสูงชัน และทะเลกว้างใหญ่เป็นฉากหน้า ทำให้มีความสวยงามประดุจดังภาพวาด จึงเป็นอุปสรรคสำหรับผู้คนจากภายนอกในการที่จะเข้าไปให้ถึงเพชรกลางมงกุฎเม็ดนี้ยิ่งนัก แต่ในแง่ดีก็คือ หมู่บ้านทั้งห้า ยังคงสภาพดั้งเดิมของมันมาได้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ประกอบไปด้วย Monterosso al Mare (มอนเตรอสโซ อัล มาเร), Vernazza (เวร์นาซซา), Corniglia (คอร์นีเลีย), Manarola (มานาโรลา) และ Riomaggiore (ริโอมัจจอร์เร)
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
Hotel Charme หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า :เวนิส เมสเตร้-เกาะเวนิส-จัตุรัสเซนต์มาร์ค-พระราชวังดอดจ์ (B/L/D)

เช้าบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เวนิส เมสเตร้ แคว้นเวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อเตรียมตัวนั่งเรือข้ามสู่เกาะเวนิส นำทุกท่านนั่งเรือต่อเพื่อไปยัง ท่าเรือซานมาร์โค (San Marco Pier) บนเกาะเวนิส แวะให้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นที่ระลึกกันที่ พระราชวังดอดจ์ (Doge’s Palace) พระราชวังริมน้ำแสนอลังการที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ในสไตล์เวเนเชียนโกธิค ที่เคยเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแต่เก่าก่อนของเวนิส แต่ตั้งแต่ปี 1923 ก็ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปได้เข้าชม เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กหลักของเวนิส จากนั้นเดินเที่ยวชมแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ในเมือง และเก็บภาพสถานที่ต่างของเมืองแห่งคลองไม่ว่าจะเป็น จัตุรัสเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Square) จัตุรัสหลักของเมืองเวนิสและยังเป็นศูนย์กลางเมืองตั้งแต่โบราณ รายล้อมไปด้วยอาคารสวยๆ สไตล์โกธิค และจุดเด่นของจัตุรัสเซนต์มาร์คแห่งนี้ก็คือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Basilica)  ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจัตุรัสเซนต์มาร์ค มหาวิหารใหญ่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก อลังการด้วยการตกแต่งด้วยโดมใหญ่ รูปปั้นมากมายที่ทั้งละเอียดและประณีต และที่อยู่ติดกันและโดดเด่นด้วยความสูงถึง 50 เมตรก็คือ หอระฆัง ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่เห็นได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมืองก็ตาม และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สะพานถอนหายใจ  สะพานอันโด่งดังแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำที่คั่นกลางระหว่างคุกเก่ากับพระราชวังดอดจ์ ทำจากหินปูนที่แกะสลักและออกแบบอย่างงดงามเช่นเดียวกับพระราชวังดอดจ์และอาคารโดยรอบ
**ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางโดยเรือกลับสู่ เวนิส เมสเตร้
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
Delfino Venice Mestreหรือเทียบเท่า

วันที่หก :เมืองเซอร์มิโอเน่-ทะเลสาบการ์ดา-เมืองมิลาน (B/L/D)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเซอร์มิโอเน่(Sirmione) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทรเป็นดั่งเมืองลอยน้ำที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะยังมีซากปรักหักพังของโบราณสถานหลายร้อยปีก่อนตั้งอยู่ที่นี่ โดยมีฉายาว่าเป็น “ไข่มุกแห่งคาบสมุทรเซอร์มิโอ” และยังเป็นดั่งดั่งเมืองเวนิสสอง เพราะบ้านเมืองในเซอร์มิโอเนยังอยู่ท่ามกลางแหล่งน้ำและด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปใน ทะเลสาบการ์ดา (Garda) ที่มีความสวยงาม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามกว้างไกลและถูกล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้งสองด้าน ในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีผู้คนที่มีฐานะในยุคสมัยโรมันใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและปัจจุบันก็เป็นเมืองพักผ่อนริมทะเลสาบที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้เมืองเซอร์มิโอเนยังเป็นที่รู้จักในด้าน “เมืองสปาที่มีชื่อเสียง” เพราะที่นี่มีน้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณที่ช่วยในการรักษาเยียวยา เต็มไปด้วยแร่ธาตุที่บำรุงผิวพรรณและทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (MILAN) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ในแคว้นที่ราบลอมบาร์ดีเป็น เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
Belstay Milano Assagoหรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด  :เมืองมิลาน-มิลานดูโอโม่-MCARTHURGLEN DESIGNER OUTLET-สนามบินเมืองมิลาน(B/-/-)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารมิลาน (Milan Duomo) มหาวิหารประจำเมืองขนาดใหญ่แห่งนี้คือโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลีเด่นด้วยศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 579 ปี ตั้งอยู่ในระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดินราย ล้อมด้วยยอดแหลมอีก135ยอดทำให้อาสนวิหารดูสง่าและแปลกพร้อมด้วยรูปแกะสลักจากหินอ่อนที่ประดับอยู่โดยรอบสลักอย่างวิจิตรบรรจงด้วย  รูปปั้นนักบุญรูปเรื่องราวในพระคัมภีร์จำนวนมากประดับโดยรอบ
***อิสระช้อปปิ้ง ที่ Galleria Vittorio Emanuele IIที่ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของมหาวิหารมิลานเป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลีโดยสร้างขึ้นในปี1877มากมายด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมายในอาคารขนาด 4 ชั้น  สองข้างทางเดินกว้างที่โดดเด่นมากก็คือหลังคาทรงโดมเป็นกระจกใส ทำให้สามารถช้อปปิ้งได้ในทุกสภาพอากาศ
***อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Serravalle Designer Outletใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง เป็นสถานที่ที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลากหลายเมืองและจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่างๆกว่า 180 ร้าน ทั้ง Versace, Dolce & Gabbana, Prada, Roberto Cavalli, Bulgari, Trussardi, Calvin Klein ,Diesel,Camper,Furla, Moschino, Bulgari, Bose, และอื่นๆ โดยสินค้าแฟชั่นจะลดราคาตั้งแต่ 30% - 70% ตลอดทั้งปี ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน
21.35น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK092 (äบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่แปด :สนามบินดูไบ-กรุงเทพ-สนามบินสุวรรณภูมิ  (-/-/-)

06.50 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
09.30น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
18.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

วันเดินทาง

กรุ๊ปไซส์

ราคาต่อท่าน

พักเดี่ยว
เพิ่มท่านละ

หมายเหตุ

30 พ.ค.-6 มิ.ย. 67

25+1 หัวหน้าทัวร์

82,900

18,000

 

19-26 มิ.ย. 67

25+1 หัวหน้าทัวร์

82,900

18,000

 

27 ก.ย.-4 ต.ค. 67

25+1 หัวหน้าทัวร์

84,900

18,000

 

10-17 ต.ค. 67

25+1 หัวหน้าทัวร์

82,900

18,000

 

16-23 ต.ค. 67

25+1 หัวหน้าทัวร์

82,900

18,000

 

Visitors: 149,362