ทัวร์จีน เส้นทางสายไหมใต้ 12วัน เดินทาง 12-23 ตุลาคม 2567 | สายการบิน CHINA SOUTHERN AIRLINE (CZ)

รหัสสินค้า : CJN_I002_GRAND เส้นทางสายไหมใต้ 12วัน_12-23 Oct 24_CZ

ราคา

117,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 117,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

GRAND เส้นทางสายไหมใต้ 12วัน

ราคา: 117,900-บาท

โดยสายการบิน: CHINA SOUTHERN (CZ)

อูรุมฉี คู่ร์เล่อ คู่เชอ HIGHWAY ทะเลทรายทาคาลิมากัน อาเค่อซู ม่ายก้ายถี ไปรษณีย์สายไหม ป่าหูหยางหลินเปลี่ยนสี ซาเชอ คาชการ์ ไต่คาราโครัมไฮเวย์ ชมวิวภูเขาหิมะ คลาคู่หลี่หู STONE CITY                                       

เขาพับผ้า : ผันหลงกู่เต้า 

ไฮไลท์!!

ทางหลวง G 314 คาราโครัมไฮเวย์-STONE CITY

ป่าหูหยางหลินสีทอง สวยสุดๆ (เข้า 2 ครั้ง)

**ทัวร์ไม่ลงร้าน SHOPPING

**มาตรฐานโรงแรมระดับ 4 ดาว สร้างใหม่ๆ (เปิดบริการ ปี 2021-2024)

**อาหารมาตรฐาน

พิเศษ!! อาหารค่ำมื้อพิเศษ 4 มื้อ

1)  เหอเถียน: Lamb BBQ    

2)  คัชการ์ 1: 手抓饭 Lamb Pilaf พิลาฟเนื้อแกะ

3)  สือโถวเฉิง STONE CITY: ปลาย่างหินร้อน

4)  คัชการ์ 2: ซุปนกพิราบ+นกพิราบย่างหลุม 

เดินทาง 12-23 ตุลาคม 2567

หมายเหตุ: โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป็นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและสอบถามที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง

GRAND เส้นทางสายไหมใต้ 12 วัน

โปรแกรมการเดินทาง

วันแรก  สุวรรณภูมิ-กวางเจา-อูรุมฉี                                                                                         

05.00 น.  พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาเตอร์สายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลนส์ (จอดส่งผู้เดินทางได้ที่ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูหมายเลข 9-10)

08.20 น.  นำท่านเหินฟ้าสู่นครกวางเจา ด้วยเที่ยวบินที่ CZ362 (บริการอาหาร เครื่องดื่ม บนเครื่อง)

12.10 น.  เครื่องถึงสนามบินกวางเจา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง พักรอต่อเครื่องภายในสนามบิน

15.15 น.  โดยเที่ยวบินที่ CZ6892 นำท่านเดินทางสู่อูรุมฉี  (บริการอาหาร เครื่องดื่ม บนเครื่อง)

20.30 น.  ถึงนครอูรูมูฉี  เมืองเอกของเขตปกครองตนเองอุยกูร์ ซินเจียง ตั้งอยู่แถบเทือกเขาเทียนซาน ที่ความสูง 900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีประชากรประมาณเกือบ 6 ล้านคน เป็นเขตปกครองตนเองที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มากที่สุด ประชากรทั้งมณฑลมีประมาณ 26 ล้านคน พลเมืองกว่า 70 % นับถือศาสนาอิสลาม มีภาษาหนังสือท้องถิ่นเป็นของตนเอง ในอูรูมูฉีจึงมีป้ายบอกชื่อสถานที่ต่างๆ 2 ภาษา คือภาษาท้องถิ่น (ภาษาเว่ยอู๋เอ่อร์) และภาษาจีนกลาง

21.30 น.  รับประทานอาหารค่ำ ที่ภัตตาคารระหว่างทาง แล้วนำท่านเข้าที่พัก

พักที่อูรุมฉี YAXIN INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่า ระดับ 5 ดาว

วันที่สอง  อูรุมฉี-กานโกว-คู่เอ่อร์เล่อร์-ทะเลสาบบอสถึงหู                                                                                                                   

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.00 น.  เริ่มต้นเดินทางสู่เมืองคู่เอ่อร์เล่อร์ Ku'erle หรือ Kuerle เมืองสำคัญในเส้นทางสายไหม โดยใช้ไฮเวย์ G 314

ผ่านชมต๋าป่านเฉิง โรงงานไฟฟ้าพลังลมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ผ่านชมทะเลสาบเกลือ “เหยียนหู” อูรูมูฉีห่างไกลทะเลถึง 2,000-3,000 กม. แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นดินเค็มและมีทะเลสาบเกลือเล็ก ๆ หลายแห่ง สันนิฐานว่าเมื่อหลายล้านปีก่อน พื้นที่แถบนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน ต่อเมื่อมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ส่วนที่เป็นพื้นดินใต้ทะเลจึงได้พลิกขึ้นมาอยู่บนผิวโลก

12.30 น.  เดินทางผ่านเมืองทอเค่อซิ่น รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

หลังอาหารเดินทางต่อผ่านช่องเขาการโกว สู่ซินเจียงใต้

เทือกเขาเทียนซาน Tianshan 天山 ەڭرىاغرايونى ตั้งอยู่ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีความสูง 5,445 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองอูรุมฉี่ นักเดินทางทุกคนไม่พลาดที่จะมาเยือน

เทือกเขาเทียนซาน หรือเทือกเขาสวรรค์ เป็นแนวเทือกเขาขนาดใหญ่ที่ทอดยาวผ่าน 4 ประเทศ (จีน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน และอุซเบกิสถาน) โดยมีความยาว 2,500 กิโลเมตร จากตะวันออกไปตะวันตก ด้วยโครงสร้างทางธรณีวิทยาเฉพาะและภูมิทัศน์ธรรมชาติอันน่าทึ่ง ภูเขานี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2013

เทือกเขาเทียนซานในส่วนที่อยู่ใสเขตซินเจียง มีความยาว 1,760 กิโลเมตร ผ่านคัชการ์ อักซู อิลี บอร์ตาลา ปาหยิงโกลิน ฉางจี อุรุมชี ทูรูพาน และคูมุล ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของซินเจียง เรียกว่า 'ภูเขาสามลูกตัดสองแอ่ง' เนื่องจากเทือกเขาอัลไตอยู่ทางเหนือ เทือกเขาคุนหลุนอยู่ทางทิศใต้ และมีเทือกเขาเทียนซานที่อยู่ตรงกลาง จึงเป็นเส้นแบ่งทางภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ ระหว่างแอ่งจุงการ์และแอ่งทาริม ดังนั้นซินเจียงจึงสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วน – คือซินเจียงตอนใต้ และซินเจียงตอนเหนือ ยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาเทียนซาน คือ ยอดเขาโปเบดา มีความสูง 7,435.3 เมตร (24,394 ฟุต) ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งตลอดทั้งปี

15.30 น.  ถึงเมืองคู่เอ่อร์เล่อร์ Kuerle หรือ Korla 库尔勒市 เมืองเอกของจังหวัดปาหยันกั๋วเลิ่ง (ปาโจว) ที่ตั้งของเขตปกครองตนเอง Bayingolin Mongol เมืองระดับมณฑลและเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของจีน (หวาเซี๊ยะตี้อี้โจว) ชนพื้นเมืองส่วนใหญ่ในเขตนี้เป็นเผ่ามองโกล

16.00 น.  นำท่านชมทะเลสาบบ้อสถึงหู (Bosten Lake) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีพื้นที่ 1,228 ตรกม. แม่น้ำไคตูไหลลงสู่ทะเลสาบบ้อสถึงหู และที่นี่ยังเป็นต้นน้ำของแม่น้ำนกยูง สนุกสนานกับการล่องเรือชมสวนทะเลสาบ ที่อุดมไปด้วยป่าต้นอ้อ (รวมค่าเรือเร็วแล้ว)

18.30 น.  นำท่านชมด่านประตูเหล็ก (Iron Gate Pass) ด่านเก็บค่าธรรมเนียมในเส้นทางสายไหม ทุกคาราวานที่ข้ามเข้าเขตจีน และต้องการผ่านเทือกเขาเทียนซาน เข้าสู่ตอนกลางของจีน จะต้องผ่านด่านประตูเหล็ก เพราะช่องเขาเทียนซานที่ผ่านเมืองคู่เอ่อร์เล่อร์ จะมีความสูงชันน้อยที่สุด เดินทางง่ายที่สุด จีนจึงได้ส่งกองทหารและเจ้าหน้าที่จากเมืองหลวงมาประจำที่นี่ เพื่อเก็บค่าธรรมเนียมสินค้า และรักษาความมั่นคง เริ่มส่งทหารมาประจำการตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิ้น และมีการตั้งที่ทำการทหารอย่างเป็นทางการในสมัยราชวงศ์ถัง

21.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

ที่พัก KUERLE: Korla JINJIANG METROPOLIS HOTEL หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว

วันที่สาม  คู่เออร์เล่อร์-คู่เชอ-อุทยานป่าไม้หูหยางหลิน+รถกอล์ฟ+รถไฟเล็ก-หอคอยคู่ราชวงศ์ฮั่น

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.00 น.  วันนี้จะเดินทางสู่คู่เชอ Kucha หรือ Kuche หรือ Kuqa 库车市Kuqa เป็นเมืองระดับเทศมณฑลในจังหวัดอาเค่อซู Aksu เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านเกิดของอาณาจักรกุฉะทางพุทธศาสนาโบราณ อาณาจักรที่มีชื่อเสียงตามเส้นทางสายไหมในสมัยโบราณ ตั้งอยู่กลางเชิงเขาเทียนซานทางใต้และขอบด้านเหนือของแอ่งทาริม โดยมีพื้นที่รวม 15,200 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบัน Kucha อุดมไปด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยว โดยมีโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมและสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากกว่า 50 แห่ง  (296 กม. / 3.30 ชม.)

13.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเข้าชมอุทยานป่าไม้หูหยางหลิน Populus Euphratica

ทะเลทรายเป็นพื้นที่แห้งแล้ง แต่ต้นหูหยาง Populus Euphratica Forest ต้นไม้อัศวิน กลับพลิกฟื้นชชีวิตได้แม้เมื่อตัดต้นดายไปแล้ว ป่าต้นหูหยาง Populus Euphratica ส่วนใหญ่ในโลกนี้ตั้งอยู่ในประเทศจีน และอยู่ในทะเลทราย โดยเฉพาะในซินเจียงมีประมาณ 90% ของจำนวนทั้งหมดป่าต้นหูหยางทั้งหมด กระจุกตัวอยู่ที่แอ่งทาริมและทะเลทรายทาคลามากันป่าต้นหูหยาง Populus Euphratica ต้นป็อปลาร์ยูเฟรติส เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุด ล้ำค่า และลึกลับที่สุดในซินเจียง สามารถรอดชีวิตตามธรรมชาติในทะเลทราย ในเขตหลุนไถ Luntai เขตปกครองตนเอง Bayingolin Mongol มีป่าต้นหูหยาง ที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุด ภูมิทัศน์จะน่าทึ่งมากเมื่อมีต้นหูหยาง+ทะเลทราย+แม่น้ำ+ทะเลสาบ ใบไม้ทั้งหมดของต้นหูหยาง  จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่าม เงาจะสะท้อนในแม่น้ำทะเลสาบ และแน่นอนถ้าไม่มีทะเลทรายข้างๆ ก็จะไม่มีป่าต้นหูหยาง นำท่านเที่ยวชมวิว ที่สวยงามประทับใจแบบสุดๆ โดยนั่งรถกอล์ฟ+รถไฟเล็ก รวมค่าบัตรแล้ว)

จากนั้นแวะชมหอคอยคู่ ราชวงศ์ฮั่น (Kizilgaha Watch Tower) มีความสูง 16 เมตร (ปัจจุบันสูง 13 เมตร) เป็นหอสังเกตุการณ์ระวังภัยสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่น (1,700 ปี) สร้างขึ้นทุก ๆ ระยะ 1-2 กม. เพื่อส่งสัญญาณควันแจ้งข่าวการรุกรานของศัตรู ปัจจุบันเกือบทั้งหมดมีการพังทลายไปตามกาลเวลา คงเหลือเพียงหอคอยคู่แห่งนี้เพียงหอเดียวที่ยังยืนอยู่เป็นพันปี และได้รับการอนุรักษ์ไว้ ปัจจุบันหอคอยคู่ (เค่อจื่อเอ่อร์ก๋าฮะ) เป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดอาเค่อซู

หอคอยไฟสัญญาณ Kizilgaha ตั้งอยู่ห่างจากเขต Kucha ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 10 กิโลเมตร ห่างจากเมือง Aksu 260 กิโลเมตร เข้าถึงได้โดยถนน National 217 หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล-ค.ศ. 220) โดยมีด้านล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 6 เมตร กว้าง 4 เมตร เนื่องจากการกัดเซาะตามธรรมชาติและสภาพดินฟ้าอากาศ ส่วนบนส่วนกลางของหอจึงเว้า หอคอยนี้มีความสง่างามและตั้งตรง ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในเส้นทางสายไหมโบราณ การใช้หอสังเกตุการณ์เพื่อแจ้งสถานการณ์หรือกระจายข่าวสารมีตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวเมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว สัญญาณควันเกิดจากการเผามูลหมาป่าแทนไม้

20.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

ที่พัก Kuqa: HOME 2 SUITES BY HILTON HOTEL หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว

วันที่สี่  คู่เชอ-ถ้ำพระพุทธรูปพันองค์เค่อจือเอ่อร์-เวินซู่แกรนด์แคนย่อนเทียนซาน+รถอุทยาน-อาเค่อซู

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.30 น.  แวะเข้าชม ถ้ำพันพระเค่อจือเอ่อร์ (The Kizil Grotto) ถ้ำพันพระแห่งแรกที่เก่าแก่ที่สุดในจีน จุดแรกที่เป็นพุทธศาสนาอินเดียเผยแพร่เข้ามาในจีนในสมัยราชวงศ์เว่ย ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช มีอายุเก่าแก่กว่า 1,600 ปี ประกอบด้วย 236 ถ้ำ เขียนภาพสีประดับผนังและเพดานถ้ำ เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับศาสนาพุทธนิกายหินยาน มีเพียงถ้ำเดียวที่ภาพเขียนเกี่ยวพันถึงนิกายมหายาน นิกายหินยานแบบอินเดียจึงเรียงร้อยภาพอย่างเต็มรูปแบบในเกือบทุกถ้ำ ซึ่งต่างจากถ้ำพันพระในที่อื่น ๆ เช่น ที่ตุนหวง ลั่วหยาง จะมีเรื่องราวเกี่ยวพันกับพระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นพุทธนิกายมหายาน ให้ท่านชม 6-7 ถ้ำ (บางถ้ำที่มีความสำคัญและสมบูรณ์มาก ๆ ถ้าสนใจชมพิเศษ ท่านต้องเสียค่าเปิดถ้ำเพิ่มเติมเองในอัตราประมาณ 100-500 หยวน/คน/ถ้ำ)

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร 

เดินทางต่ออีก 67 กม. / 1.20 ชัวโมง) นำท่านไปชม Wensu Tianshan Grand Canyon หรือ Tianshan Tuomuer Grand Canyon แกรนด์แคนยอนเทียนซานถัวมู่เอ๋อ ตั้งอยู่ในเทือกเขาเทียนซานตอนกลางในเขตเหวินซู ห่างจากเมืองเหวินซู่ 80 กม. ครอบคลุมพื้นที่ 200 ตารางกิโลเมตร ห่างจากถนนแห่งชาติ G314 เพียง 26 กม. เป็นถนนสายเดียวที่เชื่อมทางใต้และทางเหนือเทือกเขาเทียนซาน และยังเป็นถนนไปรษณีย์โบราณในเทือกเขาเทียนซานอีกด้วย (Muzart Ancient Road)  Tianshan Tuomuer Grand Canyon ในสมัยโบราณถูกเรียกว่า "กุทลุกแกรนด์แคนยอน" Kutluk Grand Canyon ในภาษาอุยกูร์แปลว่า "น่าทึ่งและลึกลับ" แกรนด์แคนยอนนี้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา เป็น Danxia ที่สวยที่สุดในจีนตะวันตก ซึ่งเป็นทิวทัศน์ทางธรณีวิทยาของหินเกลือ Karst ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน แกรนด์แคนยอนเหวินซูมีสันฐานทิวทัศน์ของหินเกลือโบราณที่หายากแปลกตาในจีนตะวันตก ด้วยรถอุทยานและการเดินเท้า นำท่านเข้าสู่จุดชมวิว ที่เสมือนกับผ่านเข้าไปสู่แกลเลอรี่ธรรมชาติที่สวยงามและทรงพลัง ชั้นหินบนกำแพงภูเขาแบ่งซอยชั้นหินอย่างชัดเจน หน้าผาสีแดง ยอดแหลม เสารูปทรงต่างๆ ดูพิสดาร สีสันสดใส ทำให้เกิดภูมิทัศน์อันงดงาม นั่นคือการผ่านการกัดเซาะของลมและฝนเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี แกรนด์แคนยอนเทียนซานถัวมู่เอ๋อยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชหายากนานาชนิดอีกด้วย

หลังอาหารเดินทาไปอาเค่อซู Aksu 阿克苏市 (307 กม. / 4 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่อยู่ในและเป็นที่ตั้งของจังหวัดอาเค่อซู  ซินเจียง ทางตอนเหนือของลุ่มน้ำทาริม Tarim ชื่อ Aksu แปลว่า "น้ำสีขาว" (ในภาษาเตอร์ก) ใช้เรียกชื่อเมือง เรียกชื่อโอเอซิส และใช้เรียกชื่อแม่น้ำ Aksu เศรษฐกิจของ Aksu ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรม โดยมีต้นฝ้ายลวดยาว (Gossypium Hirsutum) เป็นผลิตภัณฑ์หลัก นอกจากนี้ยังมีธัญพืช ผลไม้ น้ำมัน หัวบีท ฯลฯ ส่วนอุตสาหกรรมประกอบด้วย อุตสาหกรรมทอผ้า อุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ และอุตสาหกรรมเคมี อาเค่อซู เป็นแหล่งปลูกแอบเปิ้ลแกนน้ำผึ้งที่สำคัญในประเทศจีน เคยทำยอดผลผลิตได้ถึง 870,000 ตัน/ปี เมืองอาเค่อซู ปัจจุบันแบ่งออกเป็นสองส่วน ทางตอนเหนือ เป็นที่ตั้งของใจกลางเมือง ทางตอนใต้เป็นเขตทะเลทรายทาคลิมากัน

21.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

ที่พักอาเค่อซู Aksu: HUATUI HOTEL หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว 

วันที่ห้า  อาเค่อซู-อาลาเอ๋อร์-ข้ามทะเลทรายทาคลิมากัน-เหอเถียน-LAMB BBQ

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.00 น.  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอาลาเอ๋อร์ Alar 阿拉尔市  (124 กม. / 2.15 ชั่วโมง) Aral เป็นเมืองระดับย่อยของจังหวัดอาเค่อซู Aksu ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน Aral ภาษาอุยกูร์ แปลว่า "เกาะ"

ขณะนี้มีทางหลวง 3 สาย ตัดข้ามทะเลทรายทาคลิมากัน Taklamakan คือ ทางหลวงสายหลัก 2 สาย และ ทางหลวงสายสาขา 1 สาย  

ทางหลวงสายที่ 1 - G216 ยาวที่สุดและโด่งดังที่สุดในโลก เริ่มที่เมืองหลุนไถ-เมืองหมินเฟิง สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2537 มีความยาว 565 กม. ยาว (351 ไมล์)

ทางหลวงสายที่ 2 - G217 จากเมืองอาลาเอ๋อร์ Alar-เมืองเหอเถียน Hotan เปิดให้ใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 มีความยาว 424 กม. (263 ไมล์)

ทางหลวงสายที่ 3 – ทางหลวงสายสาขา เปิดล่าสุดเมื่อ 30 มิ.ย. พ.ศ. 2565 มีความยาว 334 กม.  ทางหลวงแห่งนี้คือ Yuli-Qiemo Highway crossing the Taklamakan Desert เชื่อมเมืองยู่ลี่  Yuli County กับ เมืองเฉียโม Qiemo County ของเขตปกครองตนเองปายินโกลินมองโกเลีย Bayingolin Mongolian Autonomous Prefecture 

นำท่านผ่านเข้าสู่ไฮเวย์ทะเลทรายเส้นที่ 2 (G217 / 425 กม. / 6 ชั่วโมง) ตัดตรงข้ามทะเลทรายมรณะ “ทาคลิมากัน” ทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของจีน มีความยาว 1,000 กม. จากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก / มีความกว้าง 400 กม. จากเหนือจรดใต้ ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาเทียนซานและเทือกเขาคุนหลุน คำว่า “ทาคลิมากัน” แปลว่า “เข้าไปแล้วออกไม่ได้”

ในสมัยโบราณไม่มีกองคาราวานไหนที่เข้าไปในทาคลิมากันแล้วจะรอดกลับออกมา ในหนึ่งวันถ้าคาราวานเดินทางได้ 10 กม. ตัดข้ามทะเลทรายแบบตรงๆไม่อ้อมยังต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือน ไม่มีน้ำ อาหารไม่เพียงพอ วังวนอยู่ในทะเลทรายหมดหนทางที่จะออกมาได้ กองคาราวานในเส้นทางสายไหม จึงเลี่ยงลัดเลาะ อ้อมไปยังเมืองตามขอบทะเลทราย ที่มีโอเอซิสเพื่อพักแรมและตุนอาหาร

ในอดีตมีเมืองในเส้นทางสายไหมหลายเมืองที่ปัจจุบันกลายเป็นเมืองร้างกลางทะเลทราย เนื่องจากทะเลทรายทาคลิมากันมีการขยายตัวและเคลื่อนตัวได้ ทำให้แม่น้ำมีการตื้นเขิน ไหลเปลี่ยนทิศทาง ทำให้มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน จึงเกิดเมืองร้างกลางทะเลทรายหลายแห่ง เช่น เมืองร้างโหลหลาน เมืองร้างนียา เป็นต้น *** จอดรถให้ท่านถ่ายรูปและสัมผัสทะเลทรายระหว่างทาง

14.00 น.  บริการอาหารกลางวัน แบบ LUNCH BOX บนรถ พร้อมแจกขนม น้ำ ที่จัดเตรียมซื้อเตรียมมาก่อนเข้าเขตทะเลทราย

17.00 น.  ผ่านพื้นที่ทะเลทราย ขึ้นสู่ชายขอบทางใต้ของทะเลทรายทาคลิมากันที่เมืองเหอเถียน (Hetian Khotan Gosthana หรือ Hotan) 和田地区จังหวัดโฮทันตั้งอยู่ในภูมิภาคลุ่มน้ำทาริม ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซินเจียง ประเทศจีน ติดกับเขตปกครองตนเองทิเบตทางทิศใต้ และดินแดนสหภาพลาดักห์และกิลกิต-บัลติสถานทางทิศตะวันตก

เหอเถียน หรือ โฮทัน ในสมัยโบราณมีชื่อเรียกว่าหยูเถียน เป็นชุมทางคมนาคมที่สำคัญของเส้นทางคาราวาน ตอนเหนือของเมืองคือทะเลทรายทาคลิมากัน ทิศใต้ติดกับเทือกเขาคุนหลุน มีพรม ผ้าไหม ผลไม้มีชื่อ เหอเถียนยังเป็นเมืองทีมีหยกขาวที่หาได้จากแม่น้ำมังกรหยก เป็นสินค้าที่ส่งไปขายทั่วจีนและเลยไปถึงเอเชียไมเนอร์ จึงเป็นศูนย์หยกเนไฟรต์อันโด่งดัง มีโรงงานผ้าไหมทำมือ พรมทอมือ และเครื่องปั้นดินเผา

ยุคหนึ่งเหอเถียนมีชื่อเรียกว่านครโคทัน (หยู่เถียน) เป็นเมืองที่มีความสำคัญมากบนเส้นทางสายไหมใต้ Khotan ก่อตั้งขึ้นเป็นเมืองเมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล เป็นหนึ่งในรัฐทางพุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นสะพานวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาจากอินเดียมายังจีน รับอิสลามเป็นศาสนาอย่างสมบูรณ์ในปีคริสตศักราช 1006 นครโคทันยังเป็นหัวใจห้องสุดท้ายของจีน ที่จะปกป้องไม่ให้ต่างชาติรู้ความลับของการเลี้ยงไหม และการทำเส้นไหมเพื่อคงความเป็นหนึ่งในการควบคุมการค้าผ้าไหมทั่วโลก

นำท่านผ่านชม Jama Mosque 加买清真寺 มัสยิดใหญ่จามา “ชิงเจินฉือ” เป็นมัสยิดหลักในโฮทัน หรือ เหอเถียน ซินเจียง ประเทศจีน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2413 และผู้อุปถัมภ์คือ Habibullah Khan มัสยิดตั้งอยู่ใจกลางเมืองเหอเถียน สัมผัสวิถีชีวิตของชาว Hotan ที่ Hotan Grand Bazaar ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Hotan มีสินค้าโภคภัณฑ์ และมีตลาดสำหรับวัสดุทางการแพทย์ของชาวอุยกูร์ แตง และผลไม้ ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ปศุสัตว์ สินค้ามือสอง ฯลฯ

19.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหาร ชวนชิมเมนูพิเศษต้อนรับแขก LAMB BBQ

ตลาดนัดกลางคืนโฮทัน

นำท่านไปเที่ยวชมตลาดกลางคืนโฮตัน ตลาดกลางคืนคือตัวแทนของรสชาติของโฮตัน ประทับใจกับอาหารท้องถิ่นมากมาย มีของขบเคี้ยวของซินเจียงหลากหลายชนิด เช่น เนื้อแกะย่าง ไข่ย่าง ปลาย่าง ฟักทองย่าง ฯลฯ

ที่พักเมืองโฮทัน: VIENNA INTERNATIONAL HOTEL 4 ดาวหรือเทียบเท่า                   

วันที่หก  เหอเถียน-ตลาดหยก-โรงงานผ้าไหมไอ้เท่อไหลซือ-ต้นวอลนัท 1300 ปี-ซาเชอ

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

นำชมตลาดค้าหยก หยกขาวเหอเถียน 和田玉 (หยกเนไฟรต์ Nephrite) ถูกค้นพบบริเวณตอนใต้ของเหหอเถียน ตามที่ราบสูงแนวเทือกเขาคุนหลุนมากว่า 3,500 ปี ปัจจุบันการหาหยกตามริมแม่น้ำสองสายในเหอเถียนก็ยังมีอยู่ เพราะมูลค่าของหยกสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของตลาด ชาวบ้านที่ยากจนก็คาดหวังว่า การค้นพบหยกและการขายหยกขาว จะนำมาซึ่งรายได้ที่จะทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น ร้านขายหยกขาวมีอยู่ทั่วไป มีโชว์รูมขนาดใหญ่ ร้านใหญ่ ร้านเล็ก แผงลอย หรือเดินเร่ขายกันตามถนน หยกขาวเหอเถียน แต่ละที่มีแร่ธาตุต่างกัน ทำให้รูปแบบสีสันแตกต่างกันไป เช่น สีขาว สีเขียวเข้ม สีดำ สีเหลืองเป็นต้น หยกพวกนี้ฝังในหินภูเขาที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3500-5000 เมตร เมื่อฝนชะทำให้หินภูเขาผุงพังลงมาอยู่ตามแนวเขาเบื้อล่าง น้ำฝนกัดเซาะพัดพาหินไหลลงสู่แม่น้ำ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง น้ำในแม่น้ำก็แห้ง ผู้คนจึงไปขุดเอาก้อนหยกที่จมอยู่ท้องน้ำ ราคาของหยกขึ้นอยู่กับสีและระดับความบริสุทธิ์ แบ่งเป็น หยกขาว หยกมันแพะ หยกเขียวอมขาว หยกเขียว หยกเหลืองเป็นต้น

นำชมโรงงานผ้าไหมไอ้เท่อไหลซือ  ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองผลิตผ้าไหมหลากสีสัน ที่เป็นลายลักษณะเฉพาะถิ่นของเมืองเหอเถียน ชมกระบวนการผลิตผ้าไหม ตั้งแต่การต้มรังไหมไปจนถึงการพิมพ์ผ้าไหม

นำท่านไปชม King of Walnut Trees ราชาต้นวอลนัตอายุ 1,300 ปี ต้นวอลนัทเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนยาว และมีประวัติการเพาะปลูกมายาวนานในซินเจียง วอลนัทโบราณที่พบในซากปรักหักพังของสุสานโบราณในคัชการ์ และที่พบในสุสานโบราณของเมืองอัสตานา และเมืองทูรูพพาน เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าซินเจียงมีการเริ่มปลูกต้นวอลนัทตั้งแต่ 1,300 - 1,500 ปีก่อนKing of Walnut Trees อยู่ห่างจากเมืองบากีชี ทางตอนใต้ของเหอถึยน 7 กม. มีชื่อเสียงว่าเป็นราชาแห่งต้นวอลนัท ต้นราชาสูงประมาณ 20 เมตร และมียอดครอบคลุมพื้นที่ 666 ตารางเมตร ทุกปีต้นไม้จะผลิตผลวอลนัทเปลือกบางได้ 5,000 ถึง 6,000 ผล

14.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางต่อสู่ซาเชอ ซาเชอ Shache (Yarkant / Yarkand) เป็นเมืองทางทิศใต้ ในเขตซินเจียงอุยกูร์ เขตปกครองตนเองของจีน ที่ตั้งอยู่บนขอบด้านใต้ของทะเลทราย Taklamakan ใน Tarim Basin เป็นหนึ่งใน 11 มณฑลบริหารงานภายใต้จังหวัดคัชการ์ ซาเชอ (Yarkant) เป็นเมืองหนึ่งของอาณาจักรโบราณที่นับถือศาสนาพุทธ ในภาคใต้ของเส้นทางสายไหมโบราณ

ซาเชอเป็นโอเอซิสที่อุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำ Yarkand ไหลผ่าน ซาเชอ (Yarkant) วันนี้ มีชนชาติอุยกูร์ตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นส่วนใหญ่ ทำการเกษตรในเขตชลประทานโอเอซิส ผลิตผ้าฝ้าย, ข้าวสาลี, ข้าวโพด, ผลไม้ (ทับทิม-ลูกแพร์-แอปริคอต) และวอลนัท จามรี และแกะกินหญ้าในที่ราบสูง มีสินแร่ อันได้แก่ ปิโตรเลียม, ก๊าซธรรมชาติ, ทอง, ทองแดง, ตะกั่ว, อะลูมิเนียม, หินแกรนิต และถ่านหิน (324 กม. / 4.30 ชม.)

21.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

พักที่ SHACHE: H HOTEL (Government Affairs Center Branch) หรือเทียบเท่า       

หรือ พักที่ SHACHE: GREEN ORIENTAL HOTEL หรือเทียบเท่า

หรือ SHACHE: JI HOTEL (Gulebage Road Hotel) หรือเทียบเท่า

หรือ พักที่ SHACHE:  JING'AN ROAD RENJOY HOTEL หรือเทียบเท่า 

หมายเหตุ ซาเชอเป็นเมืองเล็กๆ มีโรงแรมสร้างใหม่หลายแห่ง แต่ละที่มีจำนวนห้องไม่มาก ดังนั้นจึงแจ้งให้ลูกค้าทราบข้อมูลหลายๆ แห่ง จะได้ทราบแนวโรงแรมที่บริษัทฯ จะเลือกใช้สำหรับกรุ๊ป

วันที่เจ็ด  ซาเชอ-สุสานกษัตริย์เย่เอ๋อเชียง-ม่ายก้ายถี-คู่มู่คู่ซ่าเอ่อร์-หอนิทรรศการภาพวาดดาวหลัง-หอระลึกผจญภัยในทะเลทราย-คัชการ์                     

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

ซาเชอ Shache เป็นเทศมณฑลเล็กๆ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่กระจายอยู่ในย่านเมืองเก่า เข้าชมสุสานกษัตริย์ซาเชอ “เย่เอ๋อเซียง” Ye’erqianghan Mausoleum และราชวงศ์ สุสานเย่เอ๋อเซียง เป็นสุสานของ Yarkand Khans ท่านข่านของอาณาจักรโบราณ สุสานแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1533 เพื่อรำลึกถึงข่านคนแรกของจักรวรรดิโอมานี และยังฝังศพสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆ การจัดวางและรูปแบบการตกแต่งสุสานเป็นเอกลักษณ์ แสดงถึงศิลปะสถาปัตยกรรมอิสลาม และวัฒนธรรมของอาณาจักรเยอร์เฉียง

ชมอาคารสีขาวมีโครงสร้างอิสลามคลาสสิกที่สวยงาม ที่นี่เป็นสุสานของพระสนมอามานี่ซาฮาน Armanisa Royal Memorial Mausoleum ซึ่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1560 เมื่อมีอายุได้ 34 ปี พระนางเป็นพระสนมของกษัตริย์อับดุลลาชิคอีฮาน สุสานสร้างเพื่อเป็นเกียรติให้พระนางในฐานะที่ทรงเป็นนักประพันธ์ ที่แต่งหนังสือหลายเล่มที่มีคุณค่าทางคีตกวีมูคาม ทรงเป็นแม่งานในการผดุงรักษาวัฒนธรรม ด้านดนตรีการแสดงพื้นบ้านในสมัยนั้น 

เดินทางต่อสู่เมืองม่ายก้ายถี 麦盖提 Maigaiti หรือ Makit (98 กม. / 1.30 ชั่วโมง) ม่ายก้ายถีตั้งอยู่ที่ทิศตะวันออกของเมืองคาชการ์ อยู่ห่างจากเมืองซาเชอ 98 ก.ม. เมืองนี้เป็นเมืองโอเอซีสที่มีอาณาเขตถึงสามด้าน ที่ติดกับทะเลทรายทาคลิมากัน และมีแม่น้ำเย่เอ๋อเชียง Yarkand ไหลผ่าน มีพื้นที่ 11,023 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 21 ล้านคน

13.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

ห่างจากเขต Maigaiti ไปทางใต้ 7 กิโลเมตร นำท่านเยี่ยมตำบลคู่มู่คู่ซ่าเอ่อร์ Kumkusar Township เมืองม่ายก้ายถี จุดท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะเป็นแหล่งกำหนดของวัฒนธรรมภาพวาดดาวหลัง Daolang (ภาพวาดชาวนา) จิตรกรชาวไร่ชาวนาที่นี่มาจากชนพื้นเมืองเชื้อสายมองโกลและมุสลิม  หล่อเลี้ยงจิตด้วยอารมณ์ศิลป์ ร้องเพลงด้วยชีวิต เต้นรำด้วยวิญญาณ สร้างงานศิลปะภาพวาดเพื่อเสริมสร้างสุนทรียภาพ ภาพวาดชาวนาดาวหลังจึงเป็นดอกไม้งาม พร่างพราวในสวนจิตรกรรมพื้นบ้านสมัยใหม่ในม่ายก้ายถี

นำชมหอนิทรรศการภาพวาดชาวนาเผ่าดาวหลัง ที่ Daolang Painting Village ภาพวาดดาวหลังนั้นใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของชาวนา ผสมผสานจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน ทำให้งานศิลปะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วโลก ไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการจัดแสดงภาพวาด Daolang มากกว่า 2,800 ชิ้น ทั้งในและต่างประเทศ และมีผลงานกว่า 1,000 ชิ้น ได้รับการรวบรวมโดยหอนิทรรศการที่มีชื่อเสียงระดับโลก ปัจจุบันตำบลคู่มู่คู่ซ่าเอ่อร์ Kumkusar มีจิตรกรชาวไร่ที่มีชื่อเสียงมากกว่า 300 คน และมือสมัครเล่นอีก 800 คน จิตรกรพื้นบ้านขาวนาดาหลัง สามารถแสดงออกทางศิลปะได้อย่างเสรี ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ทั่วไป ไม่ถูกจำกัดด้วยโครงสร้าง ภาพจึงมีการถ่ายทอดด้วยมุมมองที่เฉียบคม ด้วยมุมมองที่ขัดแย้งในอารมณ์ขัน ด้วยการระบายอารมณ์ที่เกินจริง ถือเป็นลักษณะพิเศษทางศิลปะของจิตรกร "Dao Lang Peasant Paintings"

นำชมหอรำลึกการผจญภัยในทะเลทราย Taklimakan Desert Advanture Memorial Hall

เดินทางสู่คาชการ์ คาสือ แกชแกร์ Kashgar Kashi喀什市 قەشقەر شەھرى ปัจจุบันคัชการ์เป็นนครระดับอำเภอของประเทศจีน

เมือง คาชการ์  เป็นเมืองโอเอซีสในเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเกียง ตั้งอยู่ทางทิศจะวันตกของทะเลทรายทาคลิมากัน (Taklamakam Desert) และอยู่ในเทือกเขาเทียนซาน มีพรมแดนติดกับประเทศอัฟกานิสถาน คีร์กีซสถาน ปากีสถาน และทาจิกิสถาน มีประชากรกว่า 600,000 คน ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1290 เมตร  คาชการ์เป็นเมืองใหญ่อันดับสอง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของเมืองอูรุมฉี เป็นเมืองที่มีความสำคัญมากในอดีต เพราะเป็นเส้นทางการค้าโบราณที่เรียกว่า เส้นทางสายไหม ปัจจุบันคาชการ์เป็นตลาดการค้าและขนส่ง เป็นเมืองที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างเส้นทางเหนือและทางใต้จากจีน พลเมืองเป็นชาวอุยกูร์  ร้อยละ 90 นับถือศาสนาอิสลาม ชาวเมืองที่นี่มีหน้าตาแตกต่างไปจากคนจีน เพราะมีเชื้อสายมาจากทางเอเซียกลาง หน้าตาเหมือนชาวเตอร์กิส 179 กม. / 2.30 ชั่วโมง)

เดินทางถึงคัชการ์ นำท่านเข้าที่พัก

20.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร  เมนูพิเศษ 手抓饭 Lamb Pilaf พิลาฟเนื้อแกะ

ที่พัก KASHGAR: MERCURE KASHGAR WANDA PLAZA หรือเทียบเท่า 4 ดาว

ถนนกลางคืนเจียเฟื่ง North Jiefang Road Market (Jiefangbeilu Yeshi解放北路夜市) คืนแรกที่คัชการถ้ายังไม่เหนื่อย แนะนำให้ออกไปชมถนนกลางคืนเจียเฟื่ง เป็นถนนแผงลอยสองฝั่งซ้ายขวาขายอาหารท้องถิ่น ที่มีความยาวเพียง 500 เมตร มีลูกเกดชนิดต่างๆ มีสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น เช่น หมวกปักสีสันสดใส พรมอุยกูร์ เครื่องดนตรีท้องถิ่น ผ้าสักหลาดด้วยดอกไม้ เครื่องปั้นดินเผา ภาชนะทองแดง เครื่องแต่งกายประจำชาติ ผ้าไหมแอตลาส ช้อนไม้ ชามไม้ งานแกะสลักไม้ และภาพเขียนสถาปัตยกรรม เดินชมเล่นเพลินๆ ใจ ถูกใจอะไรเลือกซื้อมาลองชิม เช่น ซาโมซ่าอบ เคบับ ไข่ย่าง (ไข่เป็ด ไข่ห่าน ไข่นกพิราบ) บาร์บีคิวต่างๆ ปลาทอด ซุปเนื้อแกะสด ไอศกรีมนมแพะ และผลไม้สด ฯลฯ Opening hours: 20:00–24:00

วันที่แปด  คัชการ์-อุทยานหงไห่ที่ปาฉู่-ป่าไม้หูหยางหลิน-เส้นทางสายไหมโบราณ-คัชการ์                                      

07.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

จากคัชการ์ไปทางตะวันออก ถึงเมืองชายขอบทะเลทรายทาคาลิมากัน เมืองปาฉู่ Bachu นำชมอุทยานหงไห่ปาฉู่ จุดชมวิวทะเลแดง Red Bay Scenic Area (311 กม. / 3.30 ชั่วโมง) บนเส้นทางสายไหมโบราณถูกเรียกว่า "เว่ยโถวโจว Weitouzhou" ในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นหนึ่งใน 36 ประเทศที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคตะวันตก เป็นตำแหน่งสำคัญบนเส้นทางสายไหมโบราณ

อุทยานหงไห่ปาฉู่ จุดชมวิวทะเลแดง เป็นภูมิทัศน์เชิงนิเวศเชิงที่ผสมผสานระหว่าง ทะเลสาบ แม่น้ำ  ทุ่งหญ้า พื้นที่ชุ่มน้ำ และป่าไม้หูหยางหลิน ประกอบเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ พื้นที่ชุ่มน้ำคาชิ Kashi River Wetland และ สวนน้ำอ่าวทะเลแดง Red Bay Water Park, สถานีไปรษณีย์เส้นทางสายไหมโบราณลุ่มแม่น้ำคาชิ Kashi River Ancient Silk Road และ ป่าหูหยางหลิน Populus Euphratica Sea เปรียบประดุจดั่งด้ายสีทองในทะเลทราย ของเส้นทางสายไหมโบราณ

12.00 น.  นำชมอุทยานแห่งชาติพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งชาติแม่น้ำคาชิ เป็นจุดชมวิวระดับชาติ มีทิวทัศน์เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำอันสวยงาม ทั้งในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่น้ำและท้องฟ้าเป็นสีเดียวกัน ต้นไม้เขียว นกน้ำโบยบิน ลมพัดต้นอ้อพลิ้วไหว ทิวทัศน์สวยงามน่าประทับใจ ฉากหลังมีทะเลทรายทาคลิมากันอันกว้างใหญ่ และมีป่าไม้หูหยางหลิน เป็นเกราะปกป้องธรรมชาติมานับพันปี ต้านกระแสเมืองที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในแต่ละวัน

14.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

15.30 น.  นำท่านสัมผัสชีพจรอีกครั้งกับชีวิตในยุคดึกดำบรรพ์ THE HERO OF TAKLIMAKAN ป่าไม้หูหยางหลินปาฉู่ Bachu Populus Euphratica มีพื้นที่ 3.16 ล้านมู่ หูหยางหลิน เกิดขึ้นในเขตทะเลทรายที่พื้นที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำ สิ่งที่น่าทึ่งก็คือลำต้นของต้นไม้ที่แข็งแรงเหล่านี้ ยังคงยืนหยัดอย่างภาคภูมิแม้จะตายไปแล้วนับพันปี ในเดือนเดือนตุลาคม ใบไม้สีทองของต้นหูหยางจะเต้นเร่าใต้แสงอาทิตย์ เต้นรำกับท้องฟ้าสีคราม ด้วยจิตวิญญาณที่จะไม่มีวันตาย คือความแข็งแกร่งและความเพียรของชีวิต ในสภาพแวดล้อมที่รกร้างและโหดร้าย ถ่ายรูปซ่อม...ครั้งที่แล้วอาจโพสต์ยังไม่สวยพอ หรือเช็คแล้วรูปแล้วสวยจัง แต่ถ่ายรูปมาน้อยเกิ้น...ซ่อมได้

16.30 น.  นำชมถนนไปรษณีย์ในยุดเส้นทางสายไหมโบราณ ในบริเวณลุ่มแม่น้ำคาชิ เป็นจุดสื่อสารสำคัญของวัฒนธรรมภาคตะวันตก วัฒนธรรมฮั่น และวัฒนธรรมถัง มีศาลา 10 หลัง และหอไฟสัญญาณ 18 ดวง บนถนนโบราณแห่งนี้ หลับตาลงแล้วนึกถึงฉากที่อยู่ในยุคเจริญรุ่งเรืองของกองคาราวานอูฐ กองคาราวานของนักเสี่ยงโชค นักเดินทางพจญภัย เพื่อธุรกิจบนเส้นทางสายไหมโบราณ เดินทางกลับคัชการ์

22.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

ที่พัก KASHGAR: MERCURE KASHGAR WANDA PLAZA หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่เก้า  คัชการ์-G 314 Karakoram Highway-ทะเลสาบไป๋ซาหู-ทะเลสาบข่าลาคู่หลี่หู-ถ่าซื่อกู้เอ่อร์กั้น-เมืองหินถ่าเสี้ยน Stone City                                                    

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.00 น.  นำท่านไต่คาราโครัมไฮเวย์ Karakoram Highway โดยใช้เส้นทางไฮเวย์ G 314 เดินทางสู่เมืองถ่าสือกู้เอ่อร์กั้น นครเมืองหิน Stone City ระยะทาง 300 กม. ถนนสายคาราโครัม ไฮเวย์ หนึ่งในการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ของจีน

คาราโครัมไฮเวย์ เป็นถนนเพียงเส้นเดียวที่เชื่อมระหว่างประเทศจีนกับปากีสถาน เชื่อมระหว่างเมืองคัชการ์และเมืองแอบบอตตาบัด ในประเทศปากีสถาน คาราโครัมไฮเวย์ ถือเป็นหนึ่งในถนนที่มีระดับความสูงมากที่สุดในโลก และเป็นที่เล่าขานว่าวิวระหว่างทางนั้นสวยงามระดับต้นๆ การได้เดินทางในถนนสายนี้อาจเป็นความฝันของคุณหรือใครหลายๆคน

นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบไป่ซําหู 白沙湖 Baisha Lake Scenic Spot / White Sand Lake / Bulunkul Lake เป็นทะเลสาบอัลไพน์อีกแห่งหนึ่งของจีน+ทาจิกิสถาน ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 3734 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทะเลสาบป๋ซาหูเชื่อมต่อกับทะเลสาบยาชิลกุลด้วยช่องทางแคบๆ เมื่อเข้าสู่ที่ราบสูงที่ราบสูงพาเมียร์ Pamirs จะเห็นทะเลสาบเป็นสีฟ้าสดใส นํ้าและท้องฟ้าเป็นสีเดียวกัน และทรายสีขาวในระยะไกลมองดูเหมือนเหมือนหิมะข้างบริเวณทะเลสาบ ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่หนาวที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียกลาง อุณหภูมิต่ำสุดที่นี่บันทึกไว้ที่ -63 องศาเซนติเกรด

จากนั้นนำชมทะเลสาบลอยฟ้า “คลาคู่หลีหู” Karakul Lake หรือ     Karakuli喀拉库勒湖เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทะเลสาบดำ (Black Lake) เป็นทะเลสาบที่สูงที่สุดของที่ราบสูงพาเมียร์ (Pamir Plateau) มีระดับความสูง ประมาณ 3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ความยาวทะเลสาบประมาณ 10 กิโลเมตร  ลึกประมาณ 30 เมตร น้ำในทะเลสาบมีสีฟ้าเขียวใสเทอร์ควอยส์ ตัดกับภูเขาหิมะยอดขาวโพลน ที่เป็นฉากอยู่ด้านหลัง ขุนเขาหิมะสูงเสียดฟ้าที่ห้อมล้อมไว้เหล่านี้ จะทอดเงาลงสู่ผืนน้ำอันสงบนิ่งของทะเลสาบ สวยงามเหลือที่จะพร่ำพรรณนา ระหว่างทางก่อนถึงทะเลสาบจะผ่านยอดเขาหิมะคองกูร์ Kongur Tagh ที่มีความสูงถึง 7,649 เมตร คลาคู่หลีหูอยู่ห่างจากตัวเมืองคาชการ์ ประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง

14.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

เดินทางต่อไปยังถ่าซื่อกู้เอ่อร์กั้น (Tashkurgan, Taxkorgan, Sarikol, Shitoucheng) 塔什库尔干镇 تاشقورغان بازىرى เมืองเล็ก ๆ มีความหมายว่าเมืองหิน เป็นเมืองชายแดนจีน-ปากีสถาน ที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ตั้งอยู่บนที่ราบสูงพาเมียร์ บนความสูงกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ประชากรส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าทาจิก ถ้าขับรถไปตามคาราโครัมไฮเวย์ไม่เกิน 100 กิโลเมตร ก็จะถึงช่องเขาคุนจีราบ (Khunjerab Pass) พรมแดนระหว่างประเทศจีนและประเทศปากีสถาน

นำท่านเข้าเช็คอินที่โรงแรม เก็บสัมภาระก่อนออกไปชมนครเมืองหิน

18.00 น.  นำชมนครเมืองหิน “สือโถวเฉิง” Shi Tou Cheng (Stone City) 石头城เมืองหินซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทศมณฑลถ่าซื่อกู้เอ่อร์กั้น มีชื่อเสียงในด้านที่ตั้ง เป็นทางแยกระหว่างเส้นทางสายกลางและเส้นทางสายใต้ของเส้นทางสายไหมโบราณ เมืองป้อมหินที่ตั้งอยู่บนเนินเขา มีกำแพงล้อมรอบตัวนคร สร้างในสมัยราชวงศ์ฮั่น นครเมืองหินเคยเป็นเมืองนครของอาณาจักรผู่ลี่ หนึ่งอาณาจักรในยุคที่ซินเกียงยังเป็น 36 ประเทศ ต่อมาในสมัยราชวงศ์หยวน มีการบูรณะเมือง ซึ่งปัจจุบันคือเขตเมืองเก่าของถ่าซื่อกู้เอ่อร์กั้น มีการสร้างที่ทำการของรัฐบาลส่วนกลาง  สร้างแค้มป์ทหาร และสร้างเขตเมืองใหม่ ในสมัยราชวงศ์ชิง นครเมืองหินล่มสลาย ถูกทำลาย จนมีสภาพดังที่เห็นขณะนี้ แต่ผู้คนที่เมืองคาชการ์ เมืองเย่เฉิง เมืองซาเชอ ผู้คนในแถบที่ราบสูงพาเมียร์ และชาวปากีฯ แถบชายแดนช่องเขาคุนจีรับพาส ยังคงจำได้ถึงความรุ่งเรืองในอดีตของนครเมืองหิน Stone City ที่พ่อค้านักเดินทาง ผู้ค้นหาแผ่นดินใหม่ระดับโลก เช่น มาร์โคโปโล และพระถังซำจั๋ง (เสียนจง) ก็เคยย่ำเท้าผ่านนครเมืองหินมาแล้ว นักเดินทางเล็ก ๆ แต่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่อย่างสมาชิกในคณะของเราก็เดินทางมาถึง Stone City ได้เหมือนกัน

21.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร เมนูพิเศษปลาแม่น้ำย่างหินร้อน

ที่พัก TAXIAN: GRAND TASHKURGAN PAMIER HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่สิบ  ถ่าซื่อกู้เอ่อร์กั้น ยามเช้า-ถนนพับผ้าผันหลงกู่เต้า+รถตู้-คัชการ์                                                       

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

ขับรถวน ชมรอบเมืองถ่าซื่อกู๋เอ่อร์กั้น Tashkurgan เมืองชายแดนเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ เป็นที่ตั้งของเขตปกครองตนเองทาจิกิสถาน ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทาจิกิสถานของจีนมีชาติพันธุ์พามิริสที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาพาเมียร์ของซินเจียง ชมและแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ Flying Eagle หน้าศูนย์วัฒนธรรมและศิลปะแห่งชาติ บริเวณทางแยกหลักในเมืองถ่าซื่อกู๋เอ่อร์กั้น ทีเทิอกเขาพาเมียร์ ที่ปกคลุมด้วยหิมะอยู่ทางตะวันตกของเมือง ก่อตัวเป็นพรมแดนที่ติดกับทาจิกิสถานบริเวณรอบๆ เมืองจะมีทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ Tashkurgan Grassland จะพบเห็นชาวทาจิกิสถานในท้องถิ่น เห็นบ้านกระโจมแบบดั้งเดิมของพวกเขา ถ่ายภาพท่งหญ้าทิวทัศน์สวยงามที่ฉากหลังล้อมรอบด้วยเทือกเขาพาเมียร์ คงเป็นเสน่ห์ของเมืองเล็กๆ ที่อยู่สุดขอบประเทศจีน

จากนั้นนำท่านไปทดสอบเส้นทางถนนโบราณพันหลง Panlong Ancient Road 盘龙古道มีโค้งรูปตัวเอส (S) 600 โค้ง ในความยาวถนนรวม 75 กิโลเมตร ถนนโบราณพันหลงซ่อนตัวอยู่บนถนนลอยฟ้า Pamir Plateau Sky road บนที่ราบสูงพาเมียร์ เทือกเขาคุนหลุน จุดสูงสุดอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 4.269 เมตรจากระดับน้ำทะเล คดเคี้ยวมองมุมสูงในระยะไกลเหมือนมังกรยักษ์นอนอยู่บนภูเขา คอยเฝ้าดูแลปกป้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทางตะวันตกของมาตุภูมิ เปิดใช้งาน  เมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ด้วยทัศนียภาพอันน่าทึ่งและโค้งหักศอกหลายจุด จึงเป็นความฝันของผู้ที่ชื่นชอบการขับรถ (รวมรถตู้ขึ้น-ลงเขา ในระยะทางทดลองวิ่งเพียง 10 กม.)

14.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร                            

เดินทางกลับเมืองคาชการ์ (300 กม.)

20.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

ไม่มีวันรู้จักซินเจียงที่แท้จริงหากคุณไม่เคยไปคัชการ์

Haan Bazaar ตั้งอยู่ตรงข้ามมัสยิด Id Kah Mosque ในเมืองเก่าของ Kashgar เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ แสงสนธยาถือเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยด้านอาหาร ตลาดกลางคืนดึงดูดผู้คนในท้องถิ่นและผู้มาเยือนจำนวนมากเพื่อเติมเต็มความปรารถนาด้านอาหาร แผงลอยอันคึกคักที่ Haan Bazaar เป็นแดนสวรรค์แห่งอาหารพื้นเมือง

เคบับ เนื้อแกะย่างทั้งตัว เนื้อแกะชิ้นเล็กๆ ย่างบนไม้เสียบไม้บนถ่าน โรยพร้อมเครื่องเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ

ขนมปังนาน ทำจากส่วนผสมธรรมดาๆ เช่น แป้ง นม เกลือ และน้ำตาล แต่ให้ความรู้สึกที่แสนวิเศษ หยิบนานอันที่อบสดใหม่มาฉีกรับประทาน มันอร่อย ผิวกรอบนอกเนื้อในนุ่ม

Dogh หรือ Baobing ส่วนผสมที่แสนอร่อยของน้ำแข็งไส น้ำผึ้ง และโยเกิร์ต เป็นของว่างในฤดูร้อนหรือหลังมื้ออาหาร ก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ถูกดึงมาจากแม่น้ำน้ำแข็ง ที่ไหลลงมาตามภูเขา ที่ปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว เก็บไว้ในห้องใต้ดินน้ำแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้ละลาย เมื่อฤดูร้อนใกล้เข้ามา ก็พร้อมสำหรับทำโยเกิร์ตเย็นชื่นใจ

ออปเก้ เฮสซิพ Opke Hessip ของว่างแบบดั้งเดิมที่คนในพื้นที่ชื่นชอบ เสิร์ฟพร้อมปอดแกะและไส้ยัดไส้ข้าวในซุป ถือเป็นเมนูที่คุ้มค่าที่จะลอง

สำรวจอาหารท้องถิ่นในตลาดกลางคืน หรือการเดินเที่ยวเล่นผ่านแผงขายของที่พลุกพล่าน จะทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของคัชการ์

ที่พัก KASHGAR: MERCURE KASHGAR WANDA PLAZA หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่สิบเอ็ด  เมืองเก่าคัชการ์-สุสานสนมผมหอม-สุเหร่าใหญ่อ้ายถีก๋าเอ่อร์-บาซาร์

07.00 น.  นำชมเขตเมืองเก่าค้าชการ์ Kashgar Old Town ครอบคลุมพื้นที่ 4.25 ตารางกิโลเมตร มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 126,800 คน เมืองเก่าคัชการ์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ย่านเมืองเก่านั้นเต็มไปด้วยถนนและตรอกซอกซอยต่างๆ โดยมีเส้นทางที่คดเคี้ยว อาคารพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างเป็น ดิน อิฐ และไม้ บ้านสร้างด้วยดินเพื่อรักษาอุณหภูมิ เย็นสบายในฤดูร้อน และจะไม่เย็นจัดในฤดูหนาว บางหลังจะสร้างชั้นใต้ดินอยู่ในภายบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เที่ยวเมืองเก่า ชมบ้านเรือนตามตรอกซอกซอย ได้บรรยากาศสงบยามเช้า ที่นักท่องเที่ยวยังไม่พลุกพล่าน บ้านหลายหลังเปิดประตูบ้านออกมากวาดลานหน้าบ้าน บางบ้านกำลังติดเตาไฟหุงต้ม นวดแป้ง บางหลังนำพรมออกมาสะบัดปัดฝุ่น บางบ้านจัดข้าวจัดของตั้งร้านเก็บร้านค้าหน้าบ้าน ดูวิถีชีวิตที่เรียบง่ายไม่ปรุงแต่ง

กลับโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเช้า

09.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

นำท่านไปชมนำชมสุสานสนมเซียงเฟย Afaq Khoja Mausoleum 阿巴和加麻札สุสานของพระสนมที่ได้รับการคัดเลือก และส่งเข้าถวายตัวกับเฉียนหลงฮ่องเต้ เล่ากันว่าเฉียนหลงฮ่องเต้ลุ่มหลง โปรดปรานพระนางมาก เนื่องจากมีกลิ่นกายหอมกรุ่นเหมือนกลิ่นดอกไม้ และเล่ากันอีกว่าเมื่อพระสนมเสียชีวิตลง เฉียนหลงฮ่องเต้ได้จัดขบวนทหาร 66,660 คน ส่งศพนางกลับบ้านเกิดที่คาชการ์ เนื่องจากถนนหนทางจากเมืองหลวง มาถึงชายแดนคาชการ์ห่างไกลทุรกันดาร เมื่อถึงคาชการ์คงเหลือนายทหารร่วมขบวนเพียง 6 คนเท่านั้น ตัวสุสานภายนอกก่อสร้างเป็นยอดโดม ประดับภายนอกด้วยกระเบื้องหินหลากสี ภายในเก็บรักษาดูแลศพในตระกูลของพระสนมถึง 5 รุ่น

นำท่านชมมัสยิดอิดคา (อ้ายถีเอ่อร์) Id Kah Mosque ھېيتگاھ مەسچىتى艾提尕尔清真寺มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลซินเกียงและใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีพื้นที่ 16,800 ตารางเมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1442 มีความสูง 12 เมตร ตกแต่งด้วยกระเบื้องอิฐสีเหลือง ตัวมัสยิดสองข้างซ้ายขวามีหอสูง 18 เมตร ภายในสามารถประกอบพิธีละหมาดได้ 10,000 คน แต่ถ้ารวมถึงภายนอกบริเวณมัสยิดสามารถจุคนได้ถึง 30,000-50,000 คน ในเทศกาลสำคัญทางศาสนาทั้งภายใน-นอกมัสยิด รวมถึงบริเวณจัตุรัสโดยรอบ ชาวมุสลิมนับแสนคนเคยหลั่งไหลมาชุมนุมเพื่อรวมประกอบพิธีทางศาสนาที่นี่ด้วยความศรัทธา

14.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันภัตตาคาร

อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมตลาดใหญ่ต้าปาจาของเมืองคัชการ์ Kashgar Grand Bazaar 喀什大巴扎บาซาร์ แปลว่า “ตลาด” ในภาษาอุยกูร์ เป็นสถานที่ที่พลุกพล่านที่สุดในคัชการ์ มีตลาดสดมากมายในระดับต่างๆ ตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสองแห่งคือ Kashgar Live Stock Market (喀什牛羊大巴扎) และ Kashgar Western และ Central Asian Bazaar for International Trade (喀什中西亚中际贸易市场)

Kashgar Live Stock Market จัดขึ้นในวันอาทิตย์เท่านั้น หากคุณอยู่ในคัชการ์ในวันอาทิตย์ อย่าพลาดฉากอันยิ่งใหญ่นี้ ตั้งแต่รุ่งเช้า รถเข็นวัว แกะ ม้า ลา อูฐ และอื่นๆ จะถูกขนส่งไปยังตลาด ผู้ซื้อเจรจากับเจ้าของสัตว์

Kashgar Western และ Central Asian Bazaar เรียกว่า Kashgar Grand Bazaar เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11:00-20:00 น. มีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปี ในสมัยโบราณตลาดแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย พ่อค้าบนเส้นทางสายไหมที่มาจากจีน ยุโรป และประเทศอื่นๆ รวมตัวกันที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าที่จำเป็นระหว่างกัน ขณะนี้มีแผงขายของมากกว่า 5,000 แห่งและมีสินค้าเกือบ 10,000 ชนิด หากคุณต้องการซื้อของที่น่าสนใจ ให้ไปที่ฝั่งเหนือของตลาดซึ่งคุณจะพบทุกสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงตลาดเครื่องเทศ เครื่องดนตรี หมวกขนสัตว์ ของที่ระลึก และพรม

19.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร มื้อพิเศษ ซุปนกพิราบ+เนื้อสัตว์ย่างหลุม (นกพิราบ+เนื้อแกะ+เนื้อไก่)

พักผ่อนนอนไวนิดนึง เตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทยในวันรุ่งขึ้น

ที่พัก KASHGAR: MERCURE KASHGAR WANDA PLAZA หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่สิบสอง  คัชการ์-กวางเจา-สุวรรณภูมิ

รับประทานอาหารเช้าที่สนามบิน

08.10 น.โดยสายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ CZ6839 นำท่านเดินทางกลับเมืองกวางเจา (สายการบิน Full Service บริการอาหารกลางวันบนเครื่อง)

14.00 น.  ถึงสนามบินกวางเจา ต่อเครื่องเปลี่ยนเที่ยวบินเดินทางกลับประเทศไทย (ไม่ออกนอกสนามบิน)

16.05 น.  โดยสายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ CZ361 นำท่านเดินทางกลับกรุงเทพฯ

17.55 น.  กลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพฯ

 

*****Travel Around the World by Chic Journey****                                                                                                                         

รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

เดินทาง  คณะเดียว 12-23 ตุลาคม 2567

ราคาท่านละ 117,900 บาท / พักเดี่ยวจ่ายเพิ่ม 25,000 บาท

เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เดินทางพร้อมผู้ใหญ่ 1 ท่าน ราคาเท่าผู้ใหญ่

เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เดินทางพร้อมผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่ใช้เตียง ลด 2,000 บาท

Visitors: 149,427