ทัวร์ยุโรป ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลน อิตาลี 10 วัน เดินทาง กรกฎาคม 2567 - พฤษภาคม 2567 | สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ (EK)
รหัสสินค้า : CJN_D001_FR-CH-IT 10 D July 24-May 25_EK
ราคา |
149,000.00 ฿ |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม | 149,000.00 ฿ |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
TOP OF EUROPE 10 DAYS
ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี
จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว 3 ประเทศไฮไลท์ของยุโรป
#ฝรั่งเศส #สวิตเซอร์แลนด์ #อิตาลี #ยุโรป
ราคาเริ่มต้น 149,000.- บาท (รวมค่าวีซ่าเชงเก้น)
สายการบิน เอมิเรสต์ แอร์ไลน์ (EK)
ไฮไลท์
ฝรั่งเศส >>> •ล่องเรือบาโตมูซ •เข้าชมวังแวร์ซายน์ •เข้าชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ •ประตูขัย •ช้อปปิ้งลาฟาแยตต์ •ถนนชองป์เซลิเซ่ •เมืองอานซี
สวิตเซอร์แลนด์ >>> •โลซานน์ นอนซอร์แมต 1 คืน •ขึ้นเขา MATTERHORN GLACIER PARADISE
อิตาลี >>> •มิลาน •เวนิส •ฟลอเรนซ์ •ปิซ่า จัตุรัสมหัศจรรย์ •โรม น้ำพุเทรวี บันไดสเปน •โคลอสเซียม •นครรัฐวาติกัน
เดินทาง กรกฎาคม 2567 – พฤษภาคม 2568
หมายเหตุ กรุณาสอบถามที่นั่งว่างก่อนทำการจอง
TOP OF EUROPE 10 DAYS | ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี
โปรแกรมการเดินทาง
วันที่ 1 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – กรุงปารีส (ฝรั่งเศส)
18.00 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเคาน์เตอร์ T ประตู 9 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน
21.00 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ EK 373 Airbus 380
วันที่ 2 เที่ยวชมมหานครปารีส – หอไอเฟล - พิพิธภัณฑ์ลูวฟร์ - ล่องเรือบาโตมูซ
00.50 น. ถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน
04.05 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ EK 071 Airbus 380
09.25 น. ถึงท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกล ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รถนำท่านเข้าสู่กรุงปารีส
นำเที่ยวชมมหานครปารีส นครหลวงแห่งแฟชั่นชั้นนำของโลก ถ่ายรูปกับประตูชัย (Arc de Triomphe) ชมย่านถนนชองป์เซลิเช่ (Champs-Elysees) ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญมีความยาว 2 กม. ร่มรื่นไปด้วยเงาต้นปาตานสองฝั่ง มีทั้งร้านค้าชั้นนำ หอแสดงศิลปะ สวนดอกไม้ น้ำพุ ภัตตาคารชั้นเลิศ ร้านกาแฟ โรงละคร เป็นถนนที่มีสีสันตลอด 24 ชั่วโมง จนได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก ลานจัตุรัสคองคอร์ด แล้วไปบันทึกภาพหอไอเฟลจากมุมกว้าง ณ จตุรัสทรอคคาเดโร ปารีสได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตโดดเด่นด้วยผลงานศิลปะอันยิ่งใหญ่
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำคณะเข้าชม พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ซึ่งในอดีตเป็นพระราชวังที่ใหญ่โตมากที่สุดของโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าฟิลิปออกุสต์ราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและใหญ่โตที่สุดในปารีส ภายในเป็นที่เก็บรักษาวัตถุโบราณต่างๆ ที่มีค่าและมีชื่อเสียงของโลก เช่น ภาพเขียนลาชาก็อง (La Jaconde) หรือภาพโมนาลิซ่า อันเป็นภาพวาดของ เลโอนาร์ด เดอ วินซี จิตรกรและสถาปนิกชาวอิตาเลียน และวัตถุโบราณซึ่งเป็นศิลปะอันล้ำค่าจากชาติต่างๆ กว่า 300,000 ชิ้น ที่ฝรั่งเศสเคยมีอิทธิพลปกครองมาในอดีต ส่วนใหญ่ได้มาจากตะวันออกกลางและอาณานิคมจากประเทศในเอเชีย เช่น รูปแกะสลักซาโมทราซ (La Victoire de Samothrace) และรูปแกะสลักเทพธิดาวีนัส (Venus de Milo) และในปี 1981 เอ็ม ไอ เป่ย สถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน ได้สร้างทางเข้าพิพิธภัณฑ์เป็นรูปปิรามิดกระจกครอบคลุมเนื้อที่บนลานนโปเลียน ทำให้สถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ดูโดดเด่นเป็นสง่า
16.30 น. นำท่านล่องเรือบาโตมูช ชมความงดงามของแม่น้ำแซนน์ พร้อมชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมือง โบราณสถานและอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ทำให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก
18.30 น. ภัตตาคารพื้นเมืองฝรั่งเศส เสิร์ฟพร้อม Table Wine
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE OR NOVOTEL HOTEL **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 3 พระราชวังแวร์ซายส์ - ช้อปปิ้งย่านโอเปร่า - ร้านดิวตี้ฟรี - ห้างแกลลอรี่ลาฟาแยตต์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังแวร์ซายส์ พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในปฐพีซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ปัจจุบันบางส่วนของพระราชวังนี้ได้รับการบูรณะเรียบร้อยแล้ว นำเข้าชมความงามของพระราชวังภายในห้องต่าง ๆ อาทิ ห้องเทพอพอลโล, ห้องเทพวีนัส, ห้องเทพไดอาน่า และห้องเดอะฮอลล์ออฟมิลเลอร์ แต่ละห้องของพระราชวังล้วนมีค่าด้วยภาพ เขียนสีแบบเฟรสโก้ โดยช่างฝีมือเอกชาวฝรั่งเศส ควรค่าแก่การยกย่องให้เป็นพระราชวังที่งดงามล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
15.00 น. นำท่านเข้าสู่ย่านโอเปร่า เป็นที่ตั้งของโรงละคร Palais Garnier อันยิ่งใหญ่อลังการตั้งแต่ปี 1875 และเป็นย่านช้อปปิ้งชื่อดังของกรุงปารีส แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ที่โด่งดังของฝรั่งเศส อาทิ สินค้าประเภท น้ำหอม, เครื่องสำอางค์, เครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายในร้าน Duty Free ที่คืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ หรือแบรนด์ชั้นนำของฝรั่งเศสและอิตาลี ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าแกลลอรี่ ลาฟาแยตต์ บนถนนออสแมนบูโลวาร์ด
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE OR NOVOTEL HOTEL **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 4 กรุงปารีส - นั่งรถไฟ TGV สู่ลียง (ฝรั่งเศส) - อังซี เมืองเล็กๆที่แสนสวย - โลซานน์ (สวิตเซอร์แลนด์)
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. เดินทางสู่สถานีรถไฟ Paris Gare De Lyon ในนครปารีส แล้วนำท่านนั่งรถไฟ TGV สู่นครปารีสวิ่งด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สู่เมืองลียง (Lyon) เมืองสำคัญทางตอนใต้ของฝรั่งเศสโดยใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ
11.00 น. ถึงเมืองลียง รถรอรับท่านแล้วเดินทางสู่เมืองอังซี
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองฝรั่งเศส
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองอังซี เมืองติดทะเลสาบที่น่ารักและแสนสงบ หรือ "ไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส" เป็นฉายาของเมืองนี้ หรือบางคนกล่าวว่าเป็น “Venice of the Alps” ด้วยความที่เมืองติดทะเลสาบและมีคลองตัดผ่านเมืองมากมายหลายสาย และยังมีแม่น้ำ “Thiou” ที่กั้นกลางระหว่างส่วนที่อยู่อาศัยและเมืองเก่าอีกด้วย และนี่คือแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองอันซีนี้ “Le Palais de l’Île” ที่เป็นสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นบนเกาะขนาดเล็กกลางทะเลสาบ สถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นคุกและศาลเพื่อจำ คุกและตัดสินคดีผู้กระทำความผิด ปัจจุบันเป็นภาพแลนด์มาร์กที่ใช้ในการโปรโมตการท่องเที่ยวของเมือง นอกจากนี้ยังมีสถานที่เก่าแก่ในประวัติศาสตร์ THE OLD TOWN HALL, โบสถ์ “Notre-Dame de Liesse” THE SAINTE-CLAIRE GATE มีนาฬิกาเรือนยักษ์ติดอยู่ที่ด้านบน PONT DES AMOURS หรือ “The Love Bridge” สะพานแห่งรัก ว่ากันว่าถ้าคู่รักคู่ไหนมาจูบกันที่สะพานแห่งนี้ จะครองคู่กันไปจนชั่วนิรันดร์ นับเป็นอีกที่ท่องเที่ยวที่โรแมนติคมาก
เดินทางสู่ เมืองโลซานน์ เมืองที่คนไทยรู้จักดีในสวิส นอกจากเป็นเมืองที่ประทับของสมเด็จย่าแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงสำเร็จการศึกษาจากเมืองนี้อีกด้วย เมืองพักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียง ทั้งในฤดูร้อนและหนาวริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งได้รับสมญานามว่าริเวียร่าแห่งสวิตเซอร์แลนด์
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL DE LA PAIX **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 5 โลซานน์ - ทาส์ซ - เข้าสู่เมืองแซร์มัท โดยรถไฟ - เดินเที่ยวชมหมู่บ้านปลอดมลพิษ
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. รถโค้ชนำคณะเดินทางสู่เมืองทาส์ซ เมืองสุดท้ายที่ห้ามรถยนต์เชื้อเพลิงทุกชนิดผ่านเข้าสู่เมืองแซร์มัท เมืองปลอดมลพิษที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลก
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่เมืองแซร์มัท เมืองที่ไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าปลอดมลพิษที่ดีของโลก ตั้งอยู่บนความสูงกว่า 1,620 เมตร (5,350 ฟุต) เป็นเจ้าของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น สัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ สิ้นสุดการเดินทางด้วยรถโค้ช คณะนั่งรถไฟสู่หมู่บ้านแซร์มัท เพียง 20 นาที ท่านจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามติดอันดับโลก ให้ท่านได้มีเวลาเก็บภาพจากทุกมุมมองที่แสนสวย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SONNE ZERMATT ****หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 6 ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น พาราไดซ์ – แซร์มัท - ทาส์ซ - มิลาน (อิตาลี)
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. นำท่านสู่สถานีเคเบิ้ลคาร์ MATTERHORN GLACIER PARADISE เพื่อสัมผัสกับความงดงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่สูงถึง 4,478 เมตร และได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดของเทือกเขาแอล์ป กระเช้าไฟฟ้าแบบพาโนรามาวิว (นั่งได้ 6 ท่าน) ไต่ความสูงเหนือลานสกีอันกว้างไกลสุดสายตา แล้วเปลี่ยนเป็น Cable Car ใหญ่จุได้กว่า 80 คน ชื่นชมกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ณ จุดสูงที่สุดบริเวณไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น 3,883 เมตร สูงกว่ายอดเขายูงเฟราและยอดเขาเอกุยดูมิดี ในเขตมงต์บลังก์ ชมถ้ำน้ำแข็งที่อยู่สูงที่สุดในสวิส ถ่ายรูปกับรูปแกะสลักน้ำแข็งที่สวยงาม ลานหิมะกว้างให้ท่านได้สัมผัสอย่างจุใจ
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
นำคณะเดินทางสู่เมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก ศูนย์กลางของเมืองคือที่ตั้งของ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือ ดูโอโม (DUOMO) ที่ใหญ่เป็นอันดับสามในยุโรป และมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่าง สร้างในปี 1386 ด้านนอก มีหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากทุกยุคทุกสมัยกว่า 2,245 ชิ้น บนสุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตรของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่ ด้านข้างเป็น แกลลอเรีย วิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ล อาคารกระจกที่เก่าแก่และมีความสวยงาม หลังจากนั้นนำท่านชมโรงละครโอเปร่า ลาสกาล่า ชมรูปปั้นของ ลีโอนาโด ดาวินชี จิตรกรเอกที่โด่งดัง
นำท่านขึ้นสู่ชุมชนคาปรีอันเก่าแก่ตั้งรกรากมาแต่บรรพบุรุษ จนกลายเป็นศูนย์กลางของเกาะ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยวและตากอากาศ ร้านรวงเปิดให้บริการนักช้อปปิ้งได้เลือกสรร
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก DOUBLE TREE BY HILTON MILANO **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 7 มิลาน - เวนิส เมสเตร้ – เที่ยวเกาะเวนิส - จัตุรัสซานมาร์โค - ล่องเรือกอนโดล่า
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. เดินทางสู่จังหวัดเวเนเซีย เมืองหลวงของแคว้นเวเนโตเป็นแคว้นที่มีความมั่งคั่ง และเป็นแหล่งอุตสาหกรรมมากที่สุดในประเทศอิตาลี และยังเป็นแคว้นหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ต่ำกว่า 60 ล้านคนในทุกๆ ปี
11.30 น. นำท่านลงเรือทัศนาจรข้ามสู่เกาะเวนิส (เมืองที่ไม่มีรถยนต์วิ่งผ่าน) เกาะเวนิส มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองอิตาลี
บ่าย นำท่านสู่ ซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิสที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ผ่านชม Doge Palace อันเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีตและมีความรุ่งเรือง เมื่อครั้งทำการค้ากับตะวันออกไกล สะพานถอนหายใจที่มีเรื่องราวน่า สนใจในอดีต การเป่าแก้วมูราโน่งานฝีมือตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษที่มีชื่อเสียง ชมความสวยงามของกลุ่มอาคารทั้งสี่ด้าน ที่รายล้อมจัตุรัส งดงามด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบไบเซนไทน์ที่แม้แต่นโปเลียนยังหลงใหล โบสถ์นักบุญเซนต์มาร์ค, หอระฆัง, เสาแห่งนักบุญ ทำให้ดูงามสง่ายิ่งนัก อิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก หรือช้อปปิ้งสินค้าของเมืองอาทิ ผ้าลูกไม้ หรือจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1720
นำท่านสัมผัสความโรแมนติกของเวนิส ด้วยการล่องเรือกอนโดล่า เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส ลำคลองน้อยใหญ่สลับด้วย บ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแกรนด์คาแนล คลองที่กว้างที่สุดของเกาะ และงานก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านสถาปัตยกรรมที่สะพานเรียลอัลโต้
คณะนั่งเรือกลับสู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่ท่าเรือตรอนเคตโต้ นำท่านเข้าพักโรงแรมที่เมืองปาโดวา
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก FOUR POINTS BY SHERATON PADOVA **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 8 ปาโดวา - หอเอนปิซ่า - ฟลอเร้นซ์ - ดูโอโม่ - จตุรัสซินญอเรีย
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. เดินทางสู่เมืองปิซ่า อันเป็นที่ตั้งของหอเอนปิซ่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลก
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่จตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Campo dei Miracoli) แปลว่า "จตุรัสอัศจรรย์" หรือที่ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า คือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพงใจกลางเมืองปิซ่า ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างได้แก่ มหาวิหารปิซ่า (Duomo) หอเอน (Torre) หอศีลจุ่ม (Baptistery) เริ่มสร้างปีค.ศ.1173 แล้วเสร็จในปีค.ศ.1372 ปัจจุบันยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมในปีค.ศ. 1987 อิสระให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
บ่าย เดินทางเข้าสู่เมืองเก่าของ นครฟลอเร้นซ์ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ และเป็นเมืองที่ไม่อนุญาตให้รถโค้ชเข้าไปในเขตเมือง มีมหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร หรือ Duomo แห่งนครฟลอเร้นซ์เป็นศูนย์กลาง ใกล้กันเป็นจตุรัสซินญอเรีย เดิมเป็นที่ตั้งรูปปั้นเดวิดของแท้มานานกว่า 3 ศตวรรษ ในปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ในแกลลอเรีย อะเคเดมี ผ่านชมพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี ที่เก็บงานศิลปะล้ำค่าในยุคกลางใกล้ ชมสะพานอันเก่าแก่เวคคิโอ สะพานแห่งแรกที่ข้ามแม่น้ำอาร์โน
เดินทางสู่กรุงโรม โดยรถไฟด่วนเพียง 1.30 ช.ม. ระหว่างเส้นทางท่านจะได้เห็นร่องรอยของอารยธรรมของชาวอีทรัสกัน ที่อยู่มาตั้งแต่ครั้งก่อนคริสต์กาล จนกระทั่งโรมันเข้ามาครอบครอง บ้านเรือนตลอดจนปราสาทเก่าแก่ตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นชัยภูมิที่เหมาะสมผ่านท้องทุ่งเกษตรกรรม และแหล่งผลิตไวน์ชั้นดีของแคว้นนี้
17.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL VILLA PAMPHILI ROMA **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ 9 กรุงโรม - นครรัฐวาติกัน - โคลอสเซียม - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน - เดินทางกลับประเทศไทย
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านเดินทางเข้าสู่นครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นรัฐอิสระและศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ตื่นตาตื่นใจกับความอลังการของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก เฟียต้า (Pieta) ผลงานชิ้นเอกของไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดยแบร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ที่หาชมได้ยาก ซึ่งปัจจุบันล้วนแต่เป็นสิ่งที่สำคัญล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลีทั้งสิ้น
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองอิตาลี
บ่าย นำท่านชมเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ถ่ายรูปกับสนามกีฬาโคลอสเซียม ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก, ประตูชัยคอนสแตนติน, ผ่านให้ท่านได้ชมเขตอุทยานประวัติศาสตร์โรมันฟอรั่ม ซึ่งเป็นศูนย์กลางชีวิตในเมืองของโรมยุคโบราณ, แล้วไปชมน้ำพุเทรวี่ ผลงานมาสเตอร์พีซของนิโคลัส-ซาลวี และย่านบันไดสเปน-ถนนคอนดอตติ ที่มีชื่อเสียงและเต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังระดับโลก
17.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
18.30 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยาน ลีโอนาโด ดาวินชี เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน
22.10 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ EK 096 Boeing-777
วันที่ 10 เดินทางกลับกรุงเทพ
05.50 น. ถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน
08.50 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ EK 370 Boeing-777
18.20 น. นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
*****Travel Around the World by Chic Journey*****
หมายเหตุ : โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพลม ฟ้า อากาศ การจราจร และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทาง
PERIOD |
Tour Fare Adults |
Child 4-11 With Bed |
Child 4-6 No Bed |
SGL SUPP |
NO TKT ADL / CHD |
19 - 28 กรกฎาคม 67 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
09 - 18 สิงหาคม 2567 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
13 - 22 กันยายน 2567 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
11 - 20 ตุลาคม 2567 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
18 - 27 ตุลาคม 2567 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
08 - 17 พฤศจิกายน 67 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
22 พ.ย. - 01 ธ.ค. 67 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
05 - 14 ธันวาคม 2568 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
27 ธ.ค. 67 - 05 ม.ค. 68 เทศกาลปีใหม่ |
159,000.- |
143,000.- |
128,000.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
29 ม.ค. - 07 ก.พ. 68 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
12 ก.พ. - 21 พ.ค. 68 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
21 - 30 มีนาคม 2568 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
11 - 20 เมษายน 2568 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
01 - 10 พฤษภาคม 2568 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |
16 - 25 พฤษภาคม 2568 |
149,000.- |
134,000.- |
119,200.- |
24,000.- |
-30,000.-/-22,000.- |