ทัวร์อิตาลี GRAND DOLOMITES 10วัน 7คืน เดินทาง 13-22 ตุลาคม 2567 | สายการบินไทย (TG)

GRAND DOLOMITES 10 DAYS

โปรแกรมการเดินทาง

13 ต.ค. 67  ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ - มิลาน (อิตาลี)

22.00 น.  พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเคาน์เตอร์ H/J ประตู 4 สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวย ความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน

14 ต.ค. 67  มิลาน – ทะเลสาบโคโม่ – เบลลาจิโอ - ดูโอโม - Lift ขึ้นสู่เทอเรซ - แกลลอเรีย วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล

00.40 น.  ออกเดินทางสู่มิลานโดยเที่ยวบินที่ TG 940

07.35 น.  ถึงสนามบินมาเพลซ่า นครมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร แล้วเดินทางสู่ทะเลสาบโคโม่ที่แสนสวย

09.00 น.  นำคณะล่องเรือทะเลสาบโคโม่ สู่เมืองเบลลาจิโอ Bellagio เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบโคโม่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของอิตาลี ทางตอนเหนือของทะเลสาบคือเทือกเขาแอลป์ อันเปรียบเสมือนป้อมปราการทางธรรมชาติ ที่สร้างฉากหลังอันงดงามอลังการให้กับดินแดนแห่งนี้ เพลิดเพลินตลอดเส้นทางไปด้วยบ้านเรือนสไตล์อิตาเลียนริมทะเลสาบ และวิลล่าเรียบหรูแสดงถึงฐานะของผู้ครอบครอง เน้นความเรียบง่ายท่ามกลางบรรยากาศแห่งธรรมชาติ และต้นไม้ ดอกไม้ สวนน้ำ น้ำพุ ทะเลสาบ เนินเขา ที่ล้อมรอบทำให้ดูโดดเด่น

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

13.30 น.  นำคณะออกเดินทางสู่เมืองมิลาน พาท่านเข้าสู่จุดศูนย์กลางอันศักดิ์สิทธิ์คือ ดูโอโม (DUOMO) มหาวิหารแบบกอธิคที่ใหญ่เป็นอันดับสามในยุโรป สร้างในปี 1386 ด้านนอก มีหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากทุกยุคทุกสมัยกว่า 2,245 ชิ้น บนสุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตรของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่ นำท่านเข้าชมภายใน ถูกประดับประดาไปด้วยรูปปั้นต่าง ๆ โดยรูปปั้นเหล่านี้จะเป็นรูปปั้นของนักบุญและเรื่องราวต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดออกมาจากพระคัมภีร์ ด้านในสุดจะมีแท่นบูชาขนาดใหญ่ บริเวณด้านหน้ามีที่นั่ง ที่ถูกแบ่งสัดส่วน มีความโดดเด่นด้วยเสาขนาดใหญ่ที่ตั้งเรียงรายอยู่ภายใน บริเวณด้านหลังแท่นนั้นจะเป็นหน้าต่างกระจกที่มีรูปวาดของนักบุญ ด้วยสีสันที่หลากหลายประดับประดาอยู่เรียงติดกัน ใต้พระแท่นบูชานั้นเป็นที่สำหรับเก็บสมบัติทางศาสนา อีกทั้งยังเป็นหลุมฝังศพของนักบุญคาร์โล บอร์โรเมโอ แล้วนำท่านขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังเทอเรซชั้นบนสุด แทนการขึ้นบันไดกว่า 158 จุดชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองมิลานจากบริเวณชั้นบนของยอดมหาวิหาร ชมแกลลอเรีย วิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลอาคารกระจกที่เก่าแก่และมีความสวยงาม หลังจากนั้นนำท่านชมโรงละครโอเปร่า ลาสกาล่า ชมรูปปั้นของ ลีโอนาโด ดาวินชี จิตรกรเอกที่โด่งดัง อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของโลก ที่ห้างแกลลอเรีย วิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ล อย่างจุใจ อาทิเช่น LV, Prada, Gucci, Tod’s ที่นับว่าเป็นห้างที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในมิลาน และยังเป็นที่ตั้งของร้าน Prada ร้านแรกของโลก หรือเดินเล่นตามอัธยาศัย             

18.30 น.  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก NH Milano Fiera**** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

15 ต.ค. 67  มิลาน – เวอโรน่า - ซีร์มิโอเน่ - ล่องเรือทะเลสาบการ์ด้า - โดโลไมท์

07.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

08.00 น.  นำคณะเดินทางสู่เมืองเวอโรน่า เมืองต้นกำเนิดของนิยายรักอมตะโรมิโอและจูเลียต ที่เล่าขานกันมากว่า 700 ปีโดยท่านเชคเปียร์ นำท่านเยี่ยมชม “บ้านจูเลียต” ที่นครแห่งความรักเวโรน่า Casa Di Giulietta เคยเป็นของตระกูล Cappello บ้านหลังนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ในศตวรรษที่ 13 และได้ทำการปรับปรุงใหม่ในศตวรรษที่ 20 โดยเพิ่มระเบียงซึ่งเป็นที่ที่โรมิโอสารภาพรักกับจูเลียตในบทประพันธ์ ในอุโมงค์ทางเข้าเต็มไปด้วยข้อความคำมั่นสัญญาแปะไว้ที่กำแพงของบ้านจูเลียต ด้วยถ้อยความของคู่รักจนชั่วนิรันดร์นอกจากนี้รูปปั้นทองแดงของจูเลียตมีความเชื่ออีกว่า ใครที่ได้ ถูบริเวณหน้าอกข้างขวาของเธอ คนๆ นั้นจะได้พบรักแท้

11.30 น.  นำคณะออกเดินทางสู่ เมืองซีร์มิโอเน่ (Sirmione) ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่อายุนับ 2,000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไป ในทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) ที่สวยงาม ที่สำคัญมีหลักฐานและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ยุคสมัยโรมันทั้งกำแพงเมืองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันสงคราม ในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีผู้คนที่มีฐานะในยุคสมัยโรมันใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ปัจจุบันก็เป็นเมืองพักผ่อนริมทะเลสาบ ซี่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์ ซีร์มิโอเน่ จึงถูกล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้งสองด้าน ถึงแม้จะเป็นแค่เมืองเล็กๆแต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี นำท่านเดินเที่ยวชมเมือง และถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง The Scaliger of Sirmione สร้างในปี 1277 เมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล Scaliger

12.30 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

14.30 น.  นำคณะ ล่องเรือชมความงามที่ทะเลสาบการ์ด้า หลังจากนั้นนำคณะเดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ที่ทอดตัว อยู่ในเขตอิตาลีตอนเหนือ มีอาณาเขตครอบคลุมบริเวณแคว้นทิโรลใต้ และแคว้นเนเนโต้ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากลักษณะของยอดเขาต่างๆ ที่แทงยอดสูงเสียดฟ้ามีทัศนียภาพงดงาม จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดทั้งในช่วงฤดูหนาวที่มีสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา

19.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Pinei **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

16 ต.ค. 67  โดโลไมท์ – Alpe Di Suisi – ออติเซ่ – เซเคดา - เซนต์มักเดเลน่า

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.00 น.  นำท่านนั่งกระเช้า ขึ้นสู่บนเนินเขาที่เราเรียกว่า “ALPE DI SIUSI” ขึ้นไปที่ระดับความสูง 1,684 เมตรเหนือระดับ น้ำทะเล ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่นมีเส้นทางเดินลัดเลาะ สู่จุดชมวิวต่างๆ ให้ท่านมีเวลาเก็บภาพ สวยๆ อันประทับใจก่อนท่านจะได้ตื่นตาตื่นตื่นใจกับบรรยากาศสุดที่จะบรรยาย อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตาม อัธยาศัย

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

14.00 น.  เดินทางขึ้นสู่ยอดเขา Seceda โดย Cable Car จากสถานี Ortisei – Furnes และ Gondola จากสถานี Furnes ถึงยอดเขา Seceda ที่ระดับความสูง 2500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล Seceda Summit Cross เป็นเเท่นรูปวงกลมเเสดงรายชื่อและความสูงของภูเขาต่างๆที่รายล้อมอยู่ในแถบนี้ จุดชมวิวที่โดดเด่นคือ มุมมหาชนที่ได้รับการบันทึกภาพมากที่สุด ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาต่างๆที่อยู่รายรอบ

นำท่านเดินทางสู่ Saint Maddalena หมู่บ้านเล็กๆ ที่แทรกตัวอยุ่ในหุบเขาส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Puez-Odle โดยมีชื่อเสียงจากทิวทัศน์หุบเขาซึ่งได้ชื่อว่างดงามที่สุดในแคว้นทิโรลใต้ มีจุดชมวิวที่มองเห็นOdle Group หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า Geisler Group ซึ่งเป็นกลุ่มยอดเขาแหลมเหมือนฟันฉลาม เป็นที่นักเดินทางต้องมาเยือนมียอดเขาหลักคือ Sass Rigais และ Furchetta ทั้งสองยอดสูง 3025 เมตรเท่ากัน

19.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Pinei **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

17 ต.ค. 67  โดโลไมต์ - ทะเลสาบเบรียส - ทะเลสาบมิสซูริน่า – เตรชีเม ดีลาวาเรโด - คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม                                                       

09.00 น.  นำคณะเดินทางสู่ทะเลสาบ Braies ( Lago di Braies ) ไข่มุกเม็ดงามแห่งโดโลไมท์ ทะเลสาบน้ำสีฟ้าเขียวมีอีกชื่อ   ว่า Prager Wildsee ซึ่งองค์กรยูเนสโกจัดให้เป็นมรดกโลกทางรรมชาติ ติดอันดับทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลกอิสระให้ท่านได้มีเวลาถ่ายภาพเก็บความประทับใจ สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางสู่ทะเลสาบมิซูริน่า (Lake Misurina)     ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ น้ำใสราวกระจก มีเวลาให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายภาพตามอัธยาศัย

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ Tre Cime di Lavaredo  (The Three Peaks of Lavaredo) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การเข้าเยี่ยมชมของโดโลไมต์ ภูเขาหินขนาดใหญ่ 3 ลูกเรียงตัวกันเป็น 3 ขุนเขา Tre Cime เป็นมุมที่จะมองเห็นยอดทั้ง 3 ได้อย่างชัดเจน อันได้แก่ Cima Piccola 2,857m. Cima Grande 2,999m. และ Cima Ovest 2,973m. นอกจากนี้ยังเป็นสวรรค์ของนัก Trekking เพราะระดับความยากของที่นี่อยู่ที่ระดับปานกลางเท่านั้น

จากนั้นเดินทางสู่เมืองคอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ (Cortina D’ampezzo) เมืองสกีรีสอร์ท ที่อยู่ในอุทยานแห่งเทือกเขาโดโลไมท์ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ท ที่ดีที่สุดในโลก เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก   ฤดูหนาวในปี 1956 และเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เจมส์บอนด์ 007

19.00 น.  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Patris **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

18 ต.ค. 67  คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ – เซล อัม เซ่ – คิตซ์บูเฮล (ออสเตรีย)

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.00 น.  เดินทางสู่เมือง เซล อัม ซี Zell am See (ออสเตรีย) เมืองริมทะเลสาบที่งดงามดั่งภาพฝัน" ทิวทัศน์ของทะเลสาบ      สีฟ้าสดใสและโอบล้อมด้วยเทือกเขาสูง งดงามราวกับภาพวาดจากปลายพู่กันศิลปินเอกของโลก เสน่ห์ที่แตกต่างออกไปในแต่ละฤดูกาลทำให้ เซล อัม ซี กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใครๆ ต่างก็หลงรัก ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเป็นเมือง Zell am See-Kaprun ที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาและ ริมทะเลสาบเซล (Lake Zell) ไม่ไกลจากธารน้ำแข็ง Kitzsteinhorn ไม่ว่ามองไปมุมไหนก็จะพบกับความงดงามของสถาปัตยกรรม และธรรมชาติที่สอดคล้องกันอย่างลงตัว ไม่แปลกใจเลยหากที่นี่จะเป็นเมืองพักตากอากาศที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย ทะเลสาบเซล (Lake Zell) สีฟ้าสดใสที่สะท้อนเงาของภูเขาหิมะ และบ้านเรือนสีสันสดใสที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมฝั่ง ช่วง ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้ที่แปรเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและโรแมนติก ภายในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงาม ทาด้วยสีสันสดใส มีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ปัจจุบันก็ได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของออสเตรีย

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

14.00 น. เดินทางสู่เมืองคิทส์บูเฮล-Kitzbühel ซึ่งเป็นเมืองแห่งภูเขาของแคว้นทิโรล ในประเทศออสเตรีย วิถีชีวิตแบบชาวเขาและธรรมชาติที่งดงาม ประเพณีแบบชนบทและวิถีชีวิตสมัยใหม่ แทบจะไม่มีเมืองอื่นใดที่ผสมผสานความแตกต่างเหล่านี้ได้อย่างมีเสน่ห์เท่ากับคิทซ์บูเฮล นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางการพักผ่อนตากอากาศในวันหยุดอันแสนวิเศษ

19.00 น.  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Kaiserhof Kitzbühel **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

19 ต.ค. 67  เหมืองเกลือ เบิร์ชเทสกาเด้น - ล่องเรือทะเลสาบโคนิก

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม                                                       

เดินทางสู่เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น 1 ใน 6 เส้นทางท่องเที่ยวของเยอรมนี เส้นทางนี้เรียกว่า ดิอัลไพน์โร๊ด พาคณะชม เหมืองเกลือโบราณ (Berchtesgaden Salt Mine) ที่เปิดทำการตั้งแต่ปี 1517 การเดินทางอันน่าหลงใหลสู่โลกใต้ดินและประสบการณ์อันน่าทึ่ง การเที่ยวชมในเหมืองเกลือนั้นมีทั้ง การผจญภัย เวทย์มนต์ เสน่ห์ เหมืองเกลือเบิร์ช     เทสกาเดนเป็นเหมืองผจญภัยสมัยใหม่และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบาวาเรีย ในปี 1628 อุโมงค์เฟอร์ดินันด์ถูกขุดเพื่อเริ่มขุดเกลือ อุโมงค์ยาว 650 เมตรนี้ใช้เวลาประมาณ 30 ปีจึงแล้วเสร็จ Miners' slides คนงานเหมืองเคยใช้สไลด์ของคนงานเหมืองเพื่อไปถึงชั้นล่าวอย่างรวดเร็ว ให้ท่านได้สัมผัสกับความสนุกสนานและประสบ การณ์ดั่งชาวเหมืองในอดีต

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

14.00 น. นำท่านไปล่องเรือพลังงานไฟฟ้า ล่องไปตามทะเลสาบ เคอนิชส์เซ Konigssee ในเขตบาวาเรีย bavaria ในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Berchtesgaden ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงชันบนความสูงราว 600 ม. เหนือระดับน้ำทะเล เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งในยุคน้ำแข็ง ก่อให้เกิดทัศนียภาพที่งดงาม และความใสสะอาดของน้ำในทะเลสาบ ที่ว่ากันว่ามีความสะอาดทัดเทียมกับคุณภาพของน้ำดื่ม เรือจะล่องไปยังท่าเรือโบสถ์ St. Bartholomew

19.00 น.  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Amber Bavaria **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

20 ต.ค. 67  เบิร์ชเทสกาเด้น - มิวนิค - จัตุรัสมาเรียน - อิสระช้อปปิ้ง

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.00 น. เดินทางสู่นครมิวนิค (160 ก.ม.) ซึ่งถือได้ว่าเป็นประตูของยุโรป เป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรีย นำคณะไปถ่ายรูปกับ พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace) แลนด์มาร์คชื่อดังของนครมิวนิค , เข้าสู่จัตุรัสคาร์ลปลาทซ์ มีอีกชื่อหนึ่งว่าจัตุรัสสตาคุส (Stachus) โดดเด่นด้วยจุดแลนด์มาร์กเก่าแก่คือประตูเมืองเก่าที่มีชื่อว่าประตูเมืองคาร์ลสเตอร์ (Karlstor Gate) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประตูเมืองเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่บริเวณกำแพงเมือง , ตลาดวิกทัวเรียนViktualienmarkt ชมสถาปัตยกรรมของ มหาวิหารเฟราเอน เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิคและเป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของเมืองมิวนิค โดยชื่อ Frauenkirch นั้นหมายถึง Cathedral of Our Dear Lady หรือมหาวิหารแห่งพระแม่

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

14.00 น.  นำท่านสู่ จัตุรัสมาเรียน Marienplatz จึงคลาคล่ำไปด้วยคนเดินถนน นักแสดงเปิดหมวก Marienplatz ตั้งชื่อขึ้นตาม Mariensäule (เสาของ Mary) เป็นเสาซึ่งตั้งขึ้นในจัตุรัสเมื่อปี 1638 เพื่อเป็นเกียรติแก่ St. Mary และ Neues Rathaus (ศาลากลางใหม่) อาคารสภาเมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1867 และ 1909 ส่วนหน้าของอาคารตกแต่งอย่างงดงามตามสไตล์โกธิคที่ได้รับการฟื้นฟูแล้วส่วนชุดระฆังดนตรี Glockenspiel อันโด่งดังของมิวนิค นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ที่จะชมตุ๊กตาเต้นรำ ที่ประดับอยู่บนอาคารเทศบาลเมืองเก่า เวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ของทุกวัน สถานที่น่าท่องเที่ยว วังเรสซิเดนซ์ เป็นที่ประทับและทรงงานของกษัตริย์แห่งแคว้นบาเยิร์นมากว่า 500 ปี โรงละครโอเปร่า ถนนสายสำคัญคือ ถนนแมกซิมิเลียน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ เป็นที่ตั้งร้านขายของแบรนด์เนมราคาแพง และเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว นักท่องเที่ยวมาเดินเล่นบนถนนสายนี้อาจได้กระทบไหล่ดาราหรือมหาเศรษฐีระดับโลก

19.00 น.  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Hofbrauhaus โรงเบียร์ชื่อดังของเยอรมัน เลิศรสขาหมูเยอรมันและเบียร์สด

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Four Point by Sheraton Munich **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

21 ต.ค. 67  สนามบินมิวนิค - เดินทางกลับประเทศไทย

08.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.30 น.  นำคณะออกเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน

14.05 น.  ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TG 925

22 ต.ค. 67  เดินทางกลับประเทศไทย

06.00 น.  สายการบินไทย นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

*****Travel Around the World by Chic Journey*****

หมายเหตุ: โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ การจราจร และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทาง