ทัวร์จีน ปักกิ่งตื่นสาย 6วัน เดินทาง พฤษภาคม - กันยายน 2567 | สายการบินไทย (TG)

รหัสสินค้า : CJN_I002 Beijing-late_6วัน_May-Sep 24_TG

ราคา

58,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 58,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

ปักกิ่งตื่นสาย ปักกิ่งโหดมันส์ฮา | 6 วัน

ปักกิ่ง 4 ด่าน ปะต้าหลิง - หวงฮวาเฉิง - ซือหม่าไถ - มู่เถียนยวี่                                   

ราคา: 58,900-บาท

โดยสายการบิน: THAI AIRWAYS (TG)

เมืองโบราณกู่เป่ย พระอาทิตย์ตกที่สวนจิ่งซาน กู้กงเลียบซ้าย จิ่งซานอาทิตย์อัศดง โฮ่วไห่ไนท์ทัวร์ ปั้นเกี้ยวเที่ยวหูถง ราตรีปักกิ่ง

ไฮไลท์

1) กำแพงเมืองจีนด่านปาต้าหลิ่ง ด่านยอดนิยม ฮิตติดชาร์ตตลอดกาล

2) กำแพงเมืองจีนด่านหวงฮวาเฉิง ด่านริมน้ำ โอบล้อมทะเลสาบขนาดใหญ่

3) กำแพงเมืองจีนด่านซือหม่าไถ ด่านกําแพงเมืองจีนที่สวยที่สุด!!

4) กำแพงเมืองจีนด่านมู่เถียนยวี่ ด่านที่ได้รับการบูรณะสมบูรณ์ที่สุด 

**ทัวร์ไม่ลงร้าน SHOPPING

**พักโรงแรมระดับ 5 ดาว 5 คืน

**ตื่นสาย นอนให้อิ่ม 10.00 น. ล้อหมุนเริ่มออกทัวร์

พิเศษ!!

**Up Grade 5 อาหารมื้อค่ำ

เดินทาง พฤษภาคม - กันยายน 2567

หมายเหตุ: โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป็นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและสอบถามที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง

ปักกิ่งตื่นสาย ปักกิ่งโหดมันส์ฮา 6 วัน

โปรแกรมการเดินทาง

วันแรก  สุวรรณภูมิ-ปักกิ่ง-ปิ้งย่างเกาหลี

07.00 น.  พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เกาะ (D) เคาเตอร์สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารการเดินทาง

10.10 น.  เดินทางไปปักกิ่ง โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 614 (บริการอาหาร & เครื่องดื่มบนเครื่อง)

15.50 น.  เดินทางถึงสนามบินนานาชาติปักกิ่ง นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง (เวลาจีนเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง)

ปักกิ่ง หรือ เป่ย์จิง Běijīng 北京เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีชื่อย่อว่า จิง ตั้งอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของที่ราบหวาเป่ย์ ของจีน ชื่อแรกเริ่มคือ จี้ (薊) พื้นที่กรุงปักกิ่งมี 16,800 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 10.46 เท่าของกรุงเทพมหานคร มีประชากรประมาณ 21 ล้านคน เป็นศูนย์การเมือง วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ การศึกษา การขนส่ง การคมนาคม เป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังในโลก ปัจจุบันปักกิ่งเป็นเขตการปกครองพิเศษแบบมหานคร 1 ใน 4 แห่งของจีน ซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากับมณฑล

มหานครปักกิ่งมีประวัติศาสตร์มายาวนาน เริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีการขุดค้นพบกะโหลกมนุษย์ปักกิ่ง ตามหลักฐานที่พิสูจน์ได้ปักกิ่งมีความเจริญรุ่งเรืองมานับแต่คริสศตวรรษที่ 13  ในปี พ.ศ. 1964 (ค.ศ. 1421) จักรพรรดิหย่งเล่อ ได้ทำการก่อสร้างและออกแบบผังเมืองใหม่ และย้ายฐานราชการชั่วคราวในขณะนั้นจากเมืองหนานจิงมายังเป่ย์จิงหรือปักกิ่งในปัจจุบัน ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาปักกิ่งถูกยกสถานะเป็นเมืองสำคัญระดับโลก เป็นศูนย์กลางทางการปกครองการค้า การลงทุน ที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน ในแต่ละปีมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาติดต่อการค้า ท่องเที่ยว ศึกษา เป็นจำนวนมาก ประชาชนชาวปักกิ่งมีสภาพความเป็นอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากตะวันตกมากขึ้นด้วย

17.00 น.  พบไกด์ท้องถิ่น นำท่านเดินทางเข้าตัวเมือง (ประมาณ 45 นาที)

18.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร  เมนูพิเศษ บุฟเฟ่ปิ้งย่างเกาหลี

ที่พัก Crowne Plaza Beijing International Airport (北京临空皇冠假日酒店) หรือที่พักในระดับเดียวกัน 5 ดาว

วันที่สอง  ปักกิ่ง-กระเช้าด่านปะต้าหลิง-พระอาทิตย์ตกสวนจิ่งซาน-โฮ่วไห่ Night Tou

07.00-09.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม  

10.00 น.  เดินทางสู่กำแพงเมืองจีนด่านปาต้าหลิง (76 กม. / 1.30-2 ชั่วโมง) ปาต้าหลิงเป็นที่ตั้งของกำแพงเมืองจีนส่วนที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร ในเมืองปาต้าหลิง เขตเหยียนชิ่ง เทศบาลนครปักกิ่ง ส่วนของกำแพงที่ตัดผ่านพื้นที่นี้สร้างขึ้นในปี 1504 ในสมัยราชวงศ์หมิง กำแพงเมืองจีนด่านปาต้าหลิงได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเก้าด่านใต้หล้า มีทิวทัศน์ตั้งตระหง่านบนยอดเขาอันสูงชัน สวยงาม เขียวขจีเป็นหนึ่งเดียว   เป็นจุดสำคัญท่ามกลางทิวทัศน์กำแพงเมืองจีนแห่งราชวงศ์หมิง  “ผู้ใดไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีน ไม่ถือเป็นชายชาตรี”  ด้วยคำพูดนี้เองที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกขึ้นกำแพงเมืองจีนด่านปาต้าหลิง

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร ร้านใกล้กำแพงเมืองจีน

กำแพงเมืองจีน The Great Wall of China คือหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่หลายคนต่างใฝ่ฝันที่จะไปเยือนสักครั้งในชีวิต มีความยิ่งใหญ่อลังการ สวยงาม เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันล้ำค่า  กำแพงเมืองจีนจึงกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของประเทศจีน

กำแพงเมืองจีน เป็นสิ่งก่อสร้างในสมัยโบราณของจีนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก  มีความสําคัญทางยุทธศาสตร์ กําแพงเมืองจีนมีความยาว ทั้งหมด  6,700 กิโลเมตร  เริ่มสร้างในสมัยจ้านกว๋อ เพื่อป้องกันการบุกรุกของชนเผ่าเร่ร่อนทางเหนือ หลังจากจักรพรรดิฉินสื่อหวงรวมประเทศจีนเข้าเป็นแผ่นดินเดียวเมื่อ 221 ปีก่อนคริสต์ศักราช  และได้เชื่อมต่อกําแพงที่ก๊กต่าง ๆ สร้างไว้เข้าด้วยกันทั้งหมด และสร้างต่อเติมขึ้นไปอีก  ในสมัยราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์ถัง ราชวงศ์สุย ราชวงศ์หยวน และ ราชวงศ์หมิงได้มีการซ่อมแซมเรื่อยมา การก่อสร้างกําแพงบางแห่งยังต้องสร้างบนภูเขาทั้งสูงชันสลับซับซ้อน บางแห่งอยู่เหนือระดับนํ้าทะเล 1000 กว่าเมตร

นำท่านขึ้นกระเช้าชมกำแพงเมืองจีนด่านปาต้าหลิง (八达岭长城) Badaling Great Wall ปาต้าหลิงเป็นที่ตั้งของกำแพงเมืองจีนส่วนที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด เพราะมีศิลาจารึกลายมือท่านประธานเหมาเจ๋อตุง จุดเริ่มต้นของการสร้างกำแพงเมืองจีนส่วนนี้เริ่มในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง  เมื่อ 770 ปี ก่อนคริสตกาล-476 ปี ก่อนคริสตกาล ในช่วงต้นของราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368–1644) รัฐบาลได้ย้ายเมืองหลวงจากหนานจิงมาที่ปักกิ่ง หลังจากนั้นจักรพรรดิ Zhudi ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสร้างกำแพงเมืองจีนขึ้นใหม่ เพื่อป้องกันผู้รุกรานทางตอนเหนือ นายพล QiJiGuang ผู้นำในการต่อสู้กับโจรสลัดญี่ปุ่น ในทะเลจีนตะวันออกได้รับเลือกรับผิดชอบการก่อสร้างโครงการกำแพงเมืองจีนปาต้าหลิง รัฐบาลหมิงใช้เวลา 8 ปี ในการสร้างกำแพงเมืองจีนด่านนี้ (รวมค่าบัตร และค่ากระเช้าขึ้น-ลง)

แล้วเดินทางกลับเข้าตัวเมืองปักกิ่ง

17.00 น.  นำชมสวนจิ่งซาน หรือ จิ่งซานกงหยวน Jingshan Park (景山公园) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของพระราชวังต้องห้าม เป็นเขาที่ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นเนินเขาเทียมที่สร้างโดยจักรพรรดิหย่งเล่อ ในราชวงศ์หมิง เรียกว่า Prospect Hill (Jingshan ในภาษาจีน) โดยการนำดินที่ได้จากการขุดคลองคูน้ำของพระราชวังต้องห้าม 4 ด้าน มาถมเป็นภูเขา 5 ยอด

สวนจิ่งซานมีพื้นที่ประมาณ 220,000 ตารางเมตร เป็นสวนหลังบ้านของราชวงศ์ จักรพรรดิและพระราชโอรส ที่มักจะมาฝึกขี่ม้าและยิงปืนที่นี่ สวนจิงซานยังทำหน้าที่เป็นโล่ฮวงจุ้ยเพื่อปกป้องพระราชวังต้องห้ามจากวิญญาณชั่วร้าย ทัวร์วางแผนให้ท่านขึ้นสู่จุดสูงสุด ศาลาวันชุน Wanchun 万春亭 ก่อนพระอาทิตย์ตก เพื่อที่จะสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกที่วังกู้กงได้ จุดชมวิวของสวนด้านหน้าหรือด้านใต้คือวังกู้กง ด้านทางตะวันออกสามารถถ่ายภาพของ China Zun และอาคารสูงๆ ใน CBD ด้านทางตะวันตกคือสวน Beihai และ White Pagoda ด้านทิศเหนือสามารถถ่ายภาพของ Bell Tower และ Drum Tower รอชมพระอาทิตย์ตกกันนะคะ

19.00 น.  รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร เมนูพิเศษ เป็ดปักกิ่งต้นตำหรับ

20.30 น.  นำท่านไปเดินเที่ยวเล่นชมย่านโฮ่วไห่ Houhai Bar Street后海酒吧街 หรือ ซานหลี่ถุน Shichahai Bar Street เป็น Bar Street ที่มีชื่อเสียงที่สุดในปักกิ่ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 ความยาว 260 เมตร ตั้งอยู่ในหมู่บ้านซานหลี่ถุน มีบาร์ทันสมัย ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นสัญลักษณ์ของสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีเสน่ห์และมีชีวิตชีวาของเมืองหลวง  มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีทะเลสาบ เรือ สะพาน บาร์ และร้านอาหารมากมายตั้งเรียงรายริมชายฝั่งทะเลสาบ มีความกระฉับกระเฉงของเมืองสมัยใหม่ ซ่อนอยู่ในหูท่งเก่าแก่ของปักกิ่ง ในตอนกลางคืนถนนแห่งนี้จะกลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เพราะมีส่วนที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบฉือชา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบโฮ่วไห่

ทะเลสาบโฮ่วไห่เป็นหนึ่งในสามส่วนของทะเลสาบฉือชาไห่ในกรุงปักกิ่ง ครอบคลุมพื้นที่ 1,467 ตารางกิโลเมตร ทอดยาวจากถนนตี๋อันเหมินไหวทางทิศตะวันออก ไปยังถนนซินเจี๋ยโข่วทางทิศตะวันตก พื้นที่ประมาณ 23% มีน้ำปกคลุม และ 7% เป็นพื้นที่สีเขียว ชื่อ Houhai (后海) ซึ่งแปลว่า "ทะเลด้านหลัง"  มักทำให้ผู้คนสับสน เนื่องจากปักกิ่งเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลทะเล สาเหตุอาจย้อนกลับไปถึงราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) ราชวงศ์แรกที่ปกครองโดยกลุ่มชาติพันธุ์มองโกเลีย ชนกลุ่มน้อยของจีน ในประวัติศาสตร์จีนก่อนที่กุบไล (ค.ศ. 1215-1294) จะตัดสินใจเลือกปักกิ่งเป็นเมืองหลวง เพราะที่ราบสูงมองโกเลียนั้นมีภาวะไฮโดรพีนิกมาก และเกิดภาวะการขาดแคลนน้ำ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับชีวิตที่นั่น ดังนั้นศูนย์กลางของประเทศถูกย้ายมายังปักกิ่ง ทะเลสาบ แม่น้ำ หรือแม้แต่สระน้ำในเมืองหลายแห่ง จึงถูกตั้งชื่อว่า "ทะเล" เพื่อแสดงว่าน้ำเป็นที่รักมีความสำคุญยิ่งกับชาวมองโกล

22.00 น.  พบกันตามเวลานัดหมาย เดินทางกลับที่พักเพิ่อพักผ่อน (ท่านใดที่ไม่มาตามเวลาดนัด ให้ถือว่าท่านประสงค์ที่จะกลับที่พักด้วยตนเอง แต่ขอให้โทรแจ้งความประสงค์กับไกด์ท้องถิ่นหรือกับหัวหน้าทัวร์ 5-10 นาทีก่อนถึงเวลานัด)

ที่พัก Crowne Plaza Beijing International Airport (北京临空皇冠假日酒店) หรือที่พักในระดับเดียวกัน 5 ดาว

วันที่สาม  เมืองโบราณกู๋เป่ย-กำแพงเมืองจีนด่านซือหม่าไถ (รวมกระเช้า)-สุกี้ของฉัน

07.00-09.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม  

10.00 น.เดินทางจากตัวเมืองปักกิ่งไปยังเมืองโบราณกู๋เป่ย (Gu Bei Shui Zhen) ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากกรุงปักกิ่ง ประมาณ 140 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2-2.30 ชั่วโมง ภายในบริเวณของกู๋เป่ยเต็มไปด้วยร้านค้าโบราณ ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก โซนจัดแสดงวัฒนธรรมดั้งเดิม และอีกมากมาย รวมถึงโรงแรมที่พักประกอบกับกำแพงเมืองจีนที่อยู่ด้านหลัง จึงเป็นภาพความงดงามอย่างยิ่งควรแค่แก่การมาสัมผัส

12.30 น.  ถึงกู๋เป่ย รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (อาหารพิ้นเมือง)

นำเที่ยวกู๋เป่ยสุ่ยเจิ้น Gu Bei Shui Zhen 古北水镇 เมืองโบราณที่ล้อมไปด้วยแม่น้ำ และธรรมชาติ สวยงาม เงียบสงบ มีจุดถ่ายรูปสวยมากมาย มีเนื้อที่ 9 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ ตั้งอยู่ตำบลกู่เป่ยโข่วอำเภอมี่หยูนของกรุงปักกิ่ง ติดกับมณฑลเหอเป่ย เป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นให้มีลักษณะเหมือนเป็นเมืองริมน้ำตอนใต้แม่น้ำแยงซี เลียนแบบสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิงและชิง เช่น เมืองริมน้ำอู้เจิ้น ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารเก่าๆ ตั้งอยู่ริมน้ำ ดูสวยงามมาก

เดินชมหมู่บ้าน ชมโรงกลั่นเหล้าขาวขนาดเล็ก  โรงงานย้อมสีผ้า ชมหอไหว้บรรพบุรุษหยางหวู่ตี้ ชมค่ายทหารแมนจูเลีย ถนนขายอาหารและของที่ระลึกพื้นเมือง โรงเรียนสมัยโบราณ เดินเที่ยวถึงเชิงเขา ท่านจะเห็นโบสถ์คริสต์เก่า และเห็นสถานีกระเช้าและแนวกำแพงเมืองจีนด่านซือหม่าไถ จากนั้นนำท่านนั่งเรือแจว ล่องเรือชมวิวตามลำน้ำกลับมายังท่าโรงแรม (รวมค่าบัตรเรือแจว)

16.00 น.  นำชมกำแพงเมืองจีนด่านซือหม่าไถ 司马台长城 Si Ma Tai Great Wall เป็นหนึ่งในแนวกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ ที่ขึ้นชื่อว่า “The Best of Great Wall” เป็นส่วนหนึ่งของ “กำแพงหมื่นลี้”  สิ่งปลูกสร้างด้วยมือของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง และได้รับการแต่งตั้งจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 กำแพงเมืองจีนซือหม่าไถ ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (1368–1644AD) ถือเป็นกำแพงที่มีการก่อสร้างร่วมสมัยเดียวกับ กำแพงเมืองจีนด่านปาต๋าหลิ่ง, ด่านจูหยงกวน รวมถึงด่านกู่เป๋ยโข่วซึ่งอยู่ไม่ไกล จุดประสงค์แรกเริ่มของการสร้างกำแพงเมืองซือหม่าไถ คือการเป็นที่มั่นทางการทหาร เพื่อรับมือกับศัตรูที่อยู่ทางตอนเหนือนอกเขตประเทศจีนโบราณ แต่ในสมัยราชวงศ์ชิง กำแพงเมืองจีนซือหม่าไถได้เปลี่ยนบทบาท กลายเป็นสนามสำหรับกีฬาล่าสัตว์ของชนชั้นสูงและสถานที่พักผ่อนตากอากาศ ก่อนจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในช่วงสงคราม โลกครั้งที่  2 กำแพงเมืองจีนด่านนี้ตั้งอยู่ในเขตมี่หยิน密云เขตเหนือสุดของเมืองปักกิ่ง กำแพงตั้งอยู่บนแนวภูเขาที่มีความสูงชัน ขึ้นชื่อในเรื่องของความยากลำบาก แต่ปัจจุบันรัฐบาลจีน ได้เข้ามาจัดการดูแลให้ท่องเที่ยวได้สะดวกมากขึ้น มีการปรับทางเดิน ตัดเส้นทางอันตราย และสร้างกระเช้าขึ้น-ลง

อิ่มเอมและดื่มด่ำกับบรรยากาศในช่วงยามค่ำของกำแพงเมืองจีน กำแพงเมืองจีนซือหม่าไถถูกคั่นด้วยหุบเขา เป็นส่วนตะวันออกและตะวันตก ส่วนทางทิศตะวันตกมีความลาดเอียงเล็กน้อย โดยมีหอสังเกตการณ์ 20 หอที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีกระจายอยู่ ทางทิศตะวันออกมีความสูงชันกว่ามาก (ราคารวมค่ากระเช้า ขึ้น-ลง) ช่วงค่ำเมืองโบราณกู้เป่ย จะเปิดไฟสว่างทั่วเมือง สวยตระการตาประทับใจไม่รู้ลืม

20.00 น.รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร  เมนูพิเศษ สุกี้ของฉัน

พักที่ GUBEI WTOWN HOTEL 5 ดาว หรือเทียบเท่า http://www.wtown.com/pc/hotel/SZ_details.html

วันที่สี่  กู๋เป่ย-กำแพงเมืองจีนหวงฮวาเฉิง (รวมนั่งเรือ)-กำแพงเมืองจีนมู่เถียนยวี่ (กลางคืน-รวมกระเช้า) 

07.00-09.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม  

10.30 น.  เดินทางไปยังกำแพงเมืองจีนด่านหวงฮวาเฉิง  (33 กม. / 1.10-1.30 ชั่วโมง

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร ใกล้กำแพงเมืองจึน

14.00 น.  นำชมกำแพงเมืองจีนด่านหวงฮวาเฉิง Beijing Huanghuacheng Lakeside Great Wall (北京黄花城水长城旅游区) เป็นด่านที่มีบรรยากาศดีที่สุด มีความสวยงามเพราะจะได้เห็นเป็นกำแพงเมืองจีนแบบริมน้ำ นอกจากมองเห็นวิวกำแพงตามภูเขาแล้วยังได้เห็นวิวทะเลสาบ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักทำให้นักท่องเที่ยวไม่เยอะ สามารถไปเที่ยวเดินชมกันแบบชิลๆ นำท่านนั่งเรือชมกำแพงเพื่อ ชมกำแพงเมืองจีนในมุมมองที่แปลกตาได้บรรยากาศไม่ซ้ำใคร ในปัจจุบันกำแพงเมืองจีนไม่ได้ใช้เป็นป้อมรับศึกอีกแล้ว แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง ในฐานะสถาปัตยกรรมอันงดงามที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งยังมีความหมายทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและคุณค่าทางการท่องเที่ยวอย่างมาก กล่าวกันว่า เมื่อมาถึงจีนแล้วถ้าไม่ได้ขึ้นกำแพงเมืองจีนก็ไม่ใช่ผู้กล้า กำแพงเมืองจีนหลายช่วงได้รับการอนุรักษ์และบูรณะเป็นอย่างดี แต่ละด่านมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวกันสม่ำเสมอตลอดทั้งปี  เมื่อปี 1987 กำแพงเมืองจีนยังได้รับคัดเลือกให้เป็นมรดกโลก ในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ของประชาชาติจีนอีกด้วย (รวมค่าบัตรเข้าชมและค่านั่งเรือ)

เดินทางต่อไปยังกำแพงเมืองจีนด่านด่านมู่เถียนยวี่ (30 กม. / 1 ชั่วโมง)

16.00 น.นำท่านนั่งกระเช้าขึ้นชมกำแพงเมืองจีนด่านมู่เถียนยวี่ Mutianyu Great Wall (慕田峪长城) กำแพงเมืองจีนด่านมู่เถียนยวี่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงปักกิ่ง 70 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในส่วนที่มีชื่อเสียงของกำแพงเมืองจีน กำแพงเมืองจีนด่านมู่เถียนยวี่ ได้รับชื่อเสียงว่าเป็น "ส่วนที่สวยที่สุดของกำแพงเมืองจีน" เป็นแก่นแท้ของกำแพงเมืองจีนแห่งราชวงศ์หมิง การก่อสร้างด่านนี้มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวอย่างเช่น ช่องเขาเจิ้งกวนที่มีหอสังเกตการณ์สามหอตั้งรวมกันเป็นหอสังเกตการณ์กลาง ซึ่งหาได้ยากในกลุ่มกำแพงเมืองจีน ทางตะวันตกเฉียงเหนือมีทิวทัศน์กำแพงเมืองจีนอันโด่งดังที่รู้จักกันในชื่อ Arrow Valley และ Eagle Flying Upside Down ภูมิประเทศมีความชันและขรุขระ ดูเป็นลูกคลื่นต่อเนื่อง คล้ายมังกรทะยาน ในฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาจะปกคลุมไปด้วยดอกไม้ที่สวยงาม ในฤดูร้อนจะเขียวชอุ่มและมีเสียงน้ำไหล ในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาจะประดับด้วยใบไม้สีแดงและผลไม้มากมาย และในฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ทำให้เกิดทิวทัศน์ทางตอนเหนือที่งดงาม กำแพงเมืองจีนด่านมู่เถียนยวี่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ และได้รับการยกย่องว่าเป็นส่วนที่โดดเด่นของกำแพงเมืองจีน ด้วยทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ กำแพงเมืองจีนด่านมู่เถียนยวี่จึงเป็นหนึ่งในส่วนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และเป็นตัวแทนของกำแพงเมืองจีนราชวงศ์หมิงเพื่อจุดประสงค์ทางทหารมาโดยตลอด ทำหน้าที่เป็นแนวกั้นทางการทหารเพื่อปกป้องเมืองหลวงและสุสานของพระจักรพรรดิ (รวมค่าบัตรเข้าชม และค่ากระเช้าขึ้นลง)

20.30 น.รับประทานอาหารคำที่ภัตตาคารในโรงแรมใกล้ด่านมู่เถียนยวี่

เดินทางกลับเข้าที่พักปักกิ่ง (1 ชั่วโมง)

ที่พัก Crowne Plaza Beijing International Airport (北京临空皇冠假日酒店) หรือที่พักในระดับเดียวกัน 5 ดาว

วันที่ห้า  กู้กงเลียบซ้าย-ราตรีปักกิ่ง Chang-An Jia Night View

07.00-09.00 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม  

11.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

นำท่านผ่านประตูเข้าสู่ พระราชวังต้องห้าม “กู้กง” Forbidden City 紫禁城สถานที่ว่าราชการและที่ประทับของจักรพรรดิ 24 พระองค์ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ยูเนสโกได้ประกาศให้พระราชวังต้องห้ามร่วมกับพระราชวังเสิ่นหยางเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลก ในนามพระราชวังหลวงแห่งราชวงศ์หมิงและราช วงศ์ชิงในปักกิ่งและเสิ่นหยาง เมื่อ ค.ศ. 1987

นำชมโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างที่คงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ 720,000 ตารางเมตร ชมหมู่อาคารเครื่องไม้ ที่ประกอบด้วยห้องหับต่างๆ ถึง 9,999 ห้อง มีพระตำหนักว่าราชการ ห้องว่าราชการหลังมู่ลี่ไม้ไผ่ของพระนางซูสีไทเฮา ห้องบรรทมของจักรพรรดิ์ ตำหนักชั้นใน จักรพรรดิจะประทับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ โดยกั้นพระองค์จากโลกภายนอก มีสนมกำนัล ขันที และข้าหลวงคอยรับใช้ คนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องห้ามตลอดชีวิต ในพระราชวังต้องห้ามจะมีวิเสท 6,000 คน คอยประกอบพระกระยาหาร มีสนมกำนัล 9,000 นาง และมีขันที 70,000 คน คอยดูแล            

เลียบซ้ายขมตำหนักพระสนม ซึ่งพระสนมจำนวนมหาศาลนี้จะถูกจัดให้ประทับในเขตฝ่ายในของวังหลวง โดยพระสนมในรัชกาลปัจจุบันจะประทับในเขตหมู่ตำหนักตะวันออก ๖ ตำหนัก และหมู่ตำหนักตะวันตก ๖ ตำหนัก (东西六宫: dong xi liu gong) รวม ๑๒ ตำหนัก หมู่ตำหนักทั้ง ๑๒ นี้เองที่จะเป็นที่ประทับของพระสนมกำนัลในจำนวนมากน้อย แล้วแต่ว่ารัชกาลนั้นจะมีมากแค่ไหน โดยหมู่ตำหนักทั้ง ๑๒ นี้จะถูกแบ่งสรรให้พระสนมประทับ อันได้แก่ โดยตำแหน่งพระสนมชั้นสูงในสมัยราชวงศ์ชิงซึ่งจะมีการจำกัดจำนวนไว้ทั้งหมด ๑๓ องค์ โดยมีศักดิ์เรียกลำดับกันดังนี้ ๑. ฮวงกุ้ยเฟย 皇贵妃: huang gui fei มี ๑ องค์ ๒. กุ้ยเฟย 贵妃: gui feiมี ๒ องค์๓. เฟย 妃: fei มี ๔ องค์ ๔. ผิน嫔: pin มี ๖ องค์ ช่วงแรกๆใครได้ตำแหน่งก่อนก็เข้าไปอยู่เป็นเจ้าของหมู่ตำหนักก่อน ถ้าใครได้มาเป็นตำแหน่งท้ายๆ ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของตำหนัก ต้องไปอาศัยเขาอยู่ หรือไม่ก็ไปอยู่ที่ตำหนักอื่นที่ไม่ใช่ ๑๒ ตำหนักนี้ โดยพระสนมศักดิ์สูงเหล่านี้จะประทับในตำหนักประธานของหมู่ตำหนักและเป็นประธานมีอำนาจปกครองหมู่ตำหนักของตน

เจ้าจอมมีจำนวนไม่จำกัด เรียงลำดับจากสูงไปต่ำ ได้แก่ ๑. กุ้ยเหริน (贵人: gui ren) ๒. ฉางจ้าย (常在: chang zai)๓. ตาอิ้ง 答应: da ying นางในชั้นรองนี้แยกย้ายไปอยู่ตามเรือนบริวารในหมู่ตำหนักทั้ง ๑๒ นั้น ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่ตำหนัก จะต้องเชื่อฟังท่านเจ้าของตำหนัก เจ้าของตำหนักอาจจะว่ากล่าวตักเตือน ดุด่า ว่ากล่าว ชวนทานข้าว ชวนเล่นไพ่ ปักผ้า ทำขนม เลี้ยงสุนัข เลี้ยงแมว ฯลฯ แล้วแต่อัธยาศัยเจ้าของตำหนัก

ส่วนพระสนมของรัชกาลก่อน หลังจากสิ้นรัชกาลแล้วต้องย้ายออกจากหมู่ตำหนักทั้ง ๑๒ ตำหนัก ไปอยู่ในหมู่ตำหนักแถบทิศตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวังหลวง พระสนมที่มีพระโอรสธิดา อาจจะทูลลาออกไปร่วมประทับกับพระโอรสธิดานอกวังได้ เว้นแต่พระธิดาจะอภิเษกกับเจ้านายที่อยู่ชายแดน อาทิ เขตมองโกเลีย ก็เกินกว่าพระมารดาจะตามไปประทับร่วมได้ (เมืองภูมิ หาญสิริเพชร ๑๙ ๐๓ ๒๕๕๘)

18.00 น.  รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคาร เมนูพิเศษ อาหารกวางตุ้ง SEAFOOD

นำท่านนั่งรถขมวิวปักกิ่งยามราตรี Chang-An Jia Night View ชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่เปิดไฟสวยงาม โดยรอบใจกลางเมือง เช่น พระราชวังกู้กง จัตุรัสเทียนอันเหมิน หอบูชาฟ้าดินเทียนถาน และอาคารรุ่นใหม่ๆ ที่ประดับไฟแปลกตา แข่งขันประชันกัน ทำให้ปักกิ่งคืนนี้สวยตระการแบบเหลือเชื่อ

พัก Crowne Plaza Beijing International Airport (北京临空皇冠假日酒店) หรือที่พักในระดับเดียวกัน 5 ดาว

วันที่หก  สามล้อหูถง-ปั้นเกี้ยวเหนี่ยวรัก-ปักกิ่ง-สุวรรณภูมิ

07.30 น.  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

09.30 น.วันนี้พลิก CONCEPT ปักกิ่งตื่นสายเพราะเป็นวันเดินทางกลับ มาเที่ยวหลายวันต้องหอบความรู้ไปฝากคุณแม่ และคุณเมียสักหน่อย วันนี้จะไปนั่งรถถีบรถยามล้อที่มาปักกิ่งแล้วต้องนั่ง ต่องเช็คอินถ่ายรูปสักหน่อย

 นำท่านนั่งสามล้อถีบ “หูถง” ชมเขตบ้านเก่าปักกิ่ง หูถง Hutong 胡同เป็นชื่อเรียกตรอกซอกซอย ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน (ศตวรรษที่ 13) สิ่งปลูกสร้างในหูถงส่วนใหญ่เป็นบ้านจีนแบบโบราณที่เรียกว่า “ซื่อเหอเยวี่ยน” เป็นบ้านชั้นเดียว มีลานอยู่ตรงกลาง และมีห้องอยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศ เป็นชุมชนรูปแบบหนึ่งอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งมีอยู่เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น สร้างขึ้นในราชวงศ์หยวน (1271-1368) ราชวงศ์หมิง (1368-1644) และราชวงศ์ชิง (1644-1911) ให้ท่านนั่งรถสามล้อชมเขตเมืองเก่าคันละ 2 คน ลัดเลาะชมตรอกซอกซอย สัมผัสบรรยากาศแบบเก่าๆ ชมบ้านเก่าที่อนุรักษ์ไว้ประมาณ 2,000 หลัง

แวะเข้าคลาสปั้นเกี้ยว หั่นผัก ผสมแป้ง วิธีห่อ จับจีบ นึ่ง หรือทอดน้ำ พร้อมแจกสูตรลับรสเด็ด อาจารน์สวยหล่อ ฝีมือระดับ Chef ดัง

13.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร  แล้วเดินทางไปสนามบิน

17.05 น.  โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG615 นำท่านเดินทางกลับกรุงเทพฯ 

21.15 น.  กลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

 

*****Travel Around the World by Chic Journey****

รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

วันเดินทาง

ราคาทัวร์

ห้องเดี่ยวเพิ่ม

25-30 พ.ค. 67

58,900 บาท

12,000 บาท

25-30 มิ.ย. 67

58,900 บาท

12,000 บาท

23-28 ก.ค. 67

58,900 บาท

12,000 บาท

27 ส.ค.–1 ก.ย. 67

58,900 บาท

12,000 บาท

17-22 ก.ย. 67

58,900 บาท

12,000 บาท

กรุณากรอกข้อความ...
Visitors: 141,895