ทัวร์กรุ๊ปสงกรานต์5-15 เม.ย.68 Avalon View Cruise 12วัน บิน TG ล่องเรือแม่น้ำไรน์ตอนบน Luxury Rhine Cruise เมษายน 2568:Europe River Cruise

5 เมษายน 2568 : กรุงเทพมหานคร

18.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และหัวหน้าทัวร์ เคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์ สายการบินการ์ต้า QRอาคารผู้โดยสารขาออกณ สนามบินสุวรรณภูมิ สัมภาระน้ำหนัก 20 กก. สำหรับโหลด (ท่านละ 1 ใบ)  และ ถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กก.
21.05 น.  ออกเดินทางสู่ ซูริค โดยสายการบิน Qartar เที่ยวบินที่ QR 829
สายการบินฯ มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม
00.05 แวะเปลี่ยนเครื่อง สนามบินโดฮา ประเทศการ์ต้า

6 เมษายน 2568 : ซูริค - บาเซิล - เช็คอินลงเรือ

02.45 ออกเดินทางต่อสู่ ซูริค โดยเที่ยวบิน QR093
07.55 น.  เดินทางถึงสนามบิน ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเดินทางสู่เมืองบาเซิล (Basel)(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ช.ม.)เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศรองจากซูริค เป็นเมืองหลวงของรัฐบาเซิลชตัดท์ทางด้านเหนือของสวิส บริเวณเชื่อมต่อกับชายแดนฝรั่งเศสและเยอรมัน ทำให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางเข้าออก 3 ประเทศนี้ไปโดยปริยาย มีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านกลางเมืองแบ่งตัวเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ Klein Basel (Little Basel) ฝั่งขวา และ Gross Basel (Great Basel) ฝั่งซ้ายและ ณ ตำแหน่งที่ตั้งของบาเซิลในปัจจุบันถือกำเนิดเกิดเป็นชุมชนขึ้นมาเมื่อ 2000 ปีก่อน

11.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเที่ยวชม จัตุรัสมาร์คพลาสซ์ตั้งอยู่หน้าศาลาว่าการเมือง (Rathaus) ในวันจันทร์-ศุกร์ จะมีตลาดนัดขายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองจำพวกเนยแข็ง ไส้กรอก ขนมปัง ผักผลไม้และไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะเนยแข็งหรือชีสนั้นมีให้เลือกหลายชนิด จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสเพเทอร์สพลัทซ์ (Petersplatz)สวนสาธารณะที่มีต้นไม้ร่มรื่น ทุกเช้าวันเสาร์จะมีการจัดตลาดนัดของเก่าของสะสม ทางตะวันออกของจัตุรัสมีโบสถ์เล็กๆสไตล์โกธิคชื่อ เพเทอร์สเคียร์เคอ (Peterskirche) ส่วนทางใต้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยบาเซิล เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของสวิส
นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารบาเซิล (Basel Munster) สร้างครั้งแรกเมื่อปี 1019 มหาวิหารหลังที่เห็นในปัจจุบันเป็นหลังที่ได้รับการซ่อมแซมหลังจากได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 1356 ด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ผสมโกธิคจากยุคกลางที่สวยโดดเด่นด้วยผนังทรายสีแดงด้านนอกรวมทั้งกระเบื้องมุมหลังคาสลับสี โดยมีสีเขียวเป็นหลักอันเป็นเอกลักษณ์ของหลังคาอาคารในเมืองแถบนี้ ภายในมีภาพกระจกสี ภาพจิตรกรรม ภาพแกะสลักนูนบรรยายเรื่องราวทางศาสนา ด้านหลังของวิหารมีต้นเชสนัตปลูกให้ร่มเงาอยู่หลายต้น รวมทั้งบ่อน้ำพุและม้านั่งยาวให้ได้นั่งชมวิวทิวทัศน์ฝั่ง

ได้เวลาสมควร  นำท่านเช็คอินขึ้นเรือล่องแม่น้ำไรน์ Avalon waterways – Avalon View
หัวหน้าทัวร์นำท่านแนะนำสถานที่บนเรือ พร้อมรับทราบขั้นตอนความปลอดภัยของเรือ เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ(Unlimited drink)
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

7 เมษายน 2568 : ไบรท์แซค - ไฟร์บูรก์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
เรือล่องแม่น้ำไรน์สู่เมืองไบรท์แซค (Breisach)ทางเรือมีจัดทัวร์ให้กับทางคณะซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนได้
กิจกรรมช่วงเช้า : เที่ยวเมืองไฟร์บวรก์
นำท่านเดินทางสู่ เมืองไฟร์บวร์ก (Freiburg)เมืองเล็กๆทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมันซึ่งเป็นพรมแดนใกล้กับประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอาณาเขตป่าดำ หรือ Black Forest ที่มีเทือกเขาที่เต็มไปด้วยป่าสนหนาทึบ มีธรรมชาติที่งดงามตลอดทั้งปีจนได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองสวยที่สุดเมืองหนึ่งในเยอรมัน นำท่านชมโบสถ์ Herz Jesu Kirche  เป็นโบสถ์หอคอยคู่ มีสถาปัตยกรรมภายนอกดูแปลกตา ตั้งอยู่โดดเด่นตัดกับสีฟ้าของสะพาน Stuhlinger Brucke ภายในตัวเมืองแบ่งเป็นเขตเมืองเก่า นำท่านชม Freiburg Munster โบสถ์เก่าแก่ที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 313 ปีโบสถ์แห่งนี้ได้รอดพ้นจากการถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ 90% ของเมืองถูกทำลายจนราบคราบหลังสงคราม จากนั้นนำท่านชมจัตุรัส Augustiner Plazt จัตุรัสใหญ่ใจกลางเมือง
นำท่านชมรางน้ำหรือ Bachle เป็นรางน้ำเล็กๆไหลถึงกันทั่วทั้งเมือง สร้างขึ้นในยุคกลาง เป็นแหล่งน้ำสะอาดให้สัตว์ดื่มกิน และใช้ดับไฟในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ ปัจจุบันมันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง จนมีเรื่องเล่ากันว่าถ้ามีนักท่องเที่ยวพลัดตกลงไปในรางน้ำจะได้แต่งงานกับหญิงสาวพื้นเมืองและได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้ นำท่านเดินเล่นบนถนน Konviktstrasse ถนนที่สวยที่สุดในเมืองไฟร์บวร์ก เป็นถนนสายเล็กๆ สองข้างทางเป็นร้านค้าขายของ ระหว่างตึกทั้งสองข้างจะมีต้นไม้เลื้อยขึ้นอยู่ตามอาคารบ้านเรือนและพาดผ่านกันไปมาตลอดทางเดิน สมควรแก่เวลานำท่านกลับสู่เรือสำราญ
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
บ่าย นำท่านเที่ยวชมและเดินเล่นในเมืองไบรท์แซค (Breisach) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งริมแม่น้ำไรน์ และ หุบเขาไรน์ นำท่านเข้าชมโบสถ์เซ็นต์สตีเฟ่น (St. Stephen Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์ประจำเมือง จากนั้นนำท่านเดินเล่นในจัตุรัสมาร์คพลาส (Marketplatz) อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและบรรยากาศเมืองเล็กๆที่มีหมู่อาคารเก่าโบราณที่สวยงามโดดเด่นริมแม่น้ำไรน์ สมควรแก่เวลานำท่านกลับเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

8 เมษายน 2568: สตราสบูร์ก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
นำท่านเที่ยวชมเมืองสตารสบูร์ก (Strasbourg)เมืองหลวงอันงดงามของแคว้นอัลซาส และปัจจุบันได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวของแคว้น เนื่องจากเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เสียงของโบสถ์สไตล์โกธิคขนาดใหญ่ รวมถึงอาคารสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่สวยงามของเมืองแห่งนี้ นำท่านเข้าชมมหาวิหารแห่งเมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg Cathedral) คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่าง ปี ค.ศ.1176-1439 ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพู และถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศสในยุคนั้น ปัจจุบันเป็นคริสตจักรที่สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยบางส่วนของตัวอาคารนั้นสร้างขึ้นแบบสถาปัตยกรรมโรมัน นอกจากนี้แล้วภายในวิหารยังเป็นสถานที่จัดเก็บ นาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหอนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย นำท่านชมจตุรัส Place Gutenberg ลานคนเมืองที่รวมร้านอาหารมากมาย ร้านค้าของที่ระลึกเพียบ
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
บ่าย นำท่านเดินเล่นสู่ย่าน Petite France หรือ Little France ย่านเก่าแก่ที่จัดว่าเป็นมรดกโลกด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นแหล่งรวมอาคารเก่าแก่ยุคกลางสีสันสดใส โอบล้อมไปด้วยสายน้ำ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิทั่วทั้งย่านจะเต็มไปด้วยพืนพันธุ์ไม้ดอกประดับตกแต่งตามจุดต่างๆ แต่พอเข้าสู่ฤดูหนาว นอกจากหิมะสีขาวที่ปกคลุมตามหลังคาเรื่อนแล้ว เราก็จะได้เห็นแสงไฟที่ประดับตกแต่ง สร้างความโรแมนติกให้กับย่านนี้ไม่น้อย อิสระให้ท่านได้เดินเล่น หรือ ช้อปปิ้งได้ตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านกลับเรือสำราญ
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

9 เมษายน 2568 : ไมนซ์ – ไฮเดลเบิร์ก

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
นำท่านเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก นำท่านเข้าชมปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castle)ปราสาทเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดของเมือง โดยปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1300 ในสไตล์โกธิค-เรเนสซองซ์ ปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขาและโดยรอบมีป่าละเมาะ บริเวณสวนของปราสาทมีต้นไม้ใหญ่อย่างต้นเบิช ต้นเมเปิ้ล ต้นโอ้ค ปลูกขึ้นอยู่มากมาย ในอดีตปราสาทแห่งนี้ใช้เป็นป้อมปราการ และต่อมาได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นปราสาทเมื่อปีค.ศ. 1544 แม้ปราสาทแห่งนี้จะเคยถูกเผาและทาลายไปบ้างในสมัยสงคราม แต่ก็ยังคงสภาพความสวยงามอยู่เหนือแม่น้ำเนคการ์ได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองไมนทซ์ (Mainz)เป็นเมืองที่ประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่าสองพันปี ที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์ (Rhine River) โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางของตะวันตกเฉียงใต้ประเทศเยอรมนี  เมืองไมนทซ์ เป็นเมืองหลวงของรัฐไรน์ลันด์-พฟัลซ์ (Rheinland-Pfalz) หรือ ไรน์แลนด์-พาลาทิเนต (Rhineland-Palatinate) รัฐที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางเทือกเขาซีเฟอร์เกเบียร์เก อีกหนึ่งดินแดนของเยอรมนีที่ถูกห้อมล้อมด้วยนิยายปรัมปราอันน่าหลงใหล นำท่านเข้าชมมหาวิหารไมนทซ์ (Mainz Cathedral) สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองไมนทซ์ โดยมหาวิหารตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางประวัติศาสตร์ และจัตุรัสหลักของเมือง ปัจจุบันมหาวิหารไมนทซ์ เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ของยุคที่รุ่งเรืองที่สุดบนฝั่งแม่น้ำไรน์ในเยอรมนี  จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับไอรอน ทาวเวอร์ (Iron Tower) หอคอยจากยุคกลาง ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 เป็นหนึ่งในสามหอคอยที่เหลือจากกำแพงเมืองของเมืองไมนทซ์ โดยไอรอน ทาวเวอร์นั้นทำหน้าที่เป็นสังเกตการณ์และประตูเมือง ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หอคอยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงใน และถูกสร้างขึ้นใหม่ในทศวรรษที่ 1960
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

10 เมษายน 2568 : รูเดสไฮม์ – โคเบลนซ์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
นำท่านเที่ยวชมเมืองรูเดสไฮม์ (Rüdesheim) เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติการอยู่อาศัยมานานกว่า 2 พันปี มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์ชั้นดี มีโบสถ์และอาคารบ้านเรือนเก่าแก่และ มีภูมิทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ที่สวยงามมีเสน่ห์ ทำให้เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นำท่านแวะถ่ายรูปกับปราสาทบรอมเซ่อ (Bromser Castle) ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 10 และเป็นที่พำนักอาศัยมาจนถึงปี 1937 กระทั่งในปี ค.ศ. 1941 เทศบาลเมืองรูเดสไฮม์จึงซื้อมาและได้จัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์ไวน์ของเมืองนี้ (Rheingau Wine Museum) นำท่านสู่ย่านถนนดรอสเซลกาซเซ่ (Drosselgasse)  ซึ่งกว้าง 3 เมตร ยาวแค่ 144 เมตร แต่ เป็นที่ตั้งของบาร์ไวน์  ให้บริการสารพัดไวน์ท้องถิ่นหลากหลายรสชาติ  ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนับล้านมาเยือนได้ทุกปี
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
บ่าย  ในวันนี้เรือจะล่องในแม่น้ำไรน์ ในเส้นทางมรดกโลก (Loreley and UNESCO World Heritage Middle Rhine Valley)  ซึ่งจะผ่านบ้านเรือน ปราสาทเก่าแก่ และอาคารสวยงามทั้งสองฝั่ง แนะนำให้ท่านขึ้นไปชมวิวบนชั้นดาดฟ้าของเรือ เพื่อชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำที่หลากหลายแปลกตายิ่ง
นำท่านเที่ยวเมืองโคเบลนซ์ (Koblenz) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเยอรมนี โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในเขตรัฐไรน์ลันด์-พฟัลซ์ (Rheinland-Pfalz) หรือ ไรน์แลนด์-พาลาทิเนต (Rhineland-Palatinate) สำหรับเมืองโคเบลนซ์ เป็นเมืองโบราณที่ถูกสร้างขึ้น 8 ปีก่อนคริสตกาล โดยจักรพรรดินีโร หรือที่รู้จักในชื่อ นีโรจอมโหด ซึ่งมีชื่อเต็มใหม่ ว่า นีโร คลอดิอุส ซีซาร์ ดรุสซุส (Nero Claudius Caesar Drusus) สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำซึ่งเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำ 2 สาย คือแม่โมเซล (Moselle River) และแม่น้ำไรน์ (Rhine River) ซึ่งต่อมาในปี 1992 เมืองโคเบลนซ์ได้ฉลองครบรอบอายุ 2000 ปีของเมืองอีกด้วย  นำท่านเข้าชมมหาวิหารเซนต์คัสเตอร์ (Basilica of St. Castor) มหาวิหารที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเก่าแก่ที่สุดในเมืองโคเบลนซ์ และในเขตรัฐไรน์ลันด์-พฟัลซ์ เมื่อมองจากมหาวิหารจะสามารถมองเห็นบริเวณสามเหลี่ยมเยอรมัน (Deutsches Eck)  และในปี 2002 มหาวิหารเซนต์คัสเตอร์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกที่เกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของลุ่มแม่น้ำไรน์ช่วงกลางตอนบน (Upper Middle Rhine Valley) นอกจากนี้ยังเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้อนุสัญญาเฮก(Hague Convention) อีกด้วย จากนั้นนำท่านเที่ยวชมและเดินเล่นในเมืองโคเบลนซ์ ได้เวลานำท่านกลับเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

11 เมษายน 2568 : โคโลญจน์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
นำท่านเที่ยวชมเมืองโคโลญจน์ เมืองใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี รองจากเบอร์ลิน ฮัมบูร์ก และมิวนิก เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย (North Rhine-Westphalia) โคโลญจน์เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี สร้างโดยชาวโรมัน มีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึง ค.ศ. ​50 เมืองนี้มีชื่อเสียงเป็นเมืองแห่งน้ำหอมและมหาวิหารสวยงามและยิ่งใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ นำท่านเข้าชมมหาวิหารโคโลญจน์ หรือที่รู้จักในนาม เคิล์นโดม (Cologne Cathedral) เป็นมหาวิหารโคโลญจน์แห่งเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2536 จัดเป็นไฮไลท์ของเมืองที่นักเที่ยวไปเที่ยวชมมากที่สุด วิหารแห่งนี้ ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 600 ปี และปัจจุบันก็ยังมีการบูรณะซ่อมแซมอยู่ตลอด บริเวณใกล้กับวิหาร จะมีสะพานสายสำคัญทอดยาวข้ามแม่น้ำไรน์ เชื่อมตัวเมืองโคโลญจน์ทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน นั่นคือ สะพานโฮเฮนโซลแลร์นบรุคเคอ (Hohenzollernbrucke) บริเวณราวสะพานจะเต็มไปด้วยกุญแจของเหล่าคู่รักนักท่องเที่ยวที่นำมาติดไว้มากมาย เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของการมาเยือนโคโลญจน์
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
บ่าย อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ที่มีชอป บริการให้ลูกค้าได้เลือกซื้อมากมาย สมควรแก่เวลานำท่านกลับสู่เรือสำราญ
วันนี้เรือสำราญจะมุ่งหน้าสู่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้ท่านได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมฝั่งทั้งสองข้างของแม่น้ำไรน์ระหว่างการล่องเรือไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

12 เมษายน 2568  : อัมสเตอร์ดัม

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ

นำท่านเดินเที่ยวชมย่านใจกลางเมือง และพาท่านล่องเรือ Canal Cruise ชมบรรยากาศ และบ้านเมืองริม 2 ฝั่งคลองในอัมสเตอร์ดัม ผ่านประวัติศาสตร์ และ  ยุครุ่งเรืองในอดีต “Golden Age”เดินทางสู่ย่านใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของ จัตุรัสแดม (Dam Square) เขตย่านใจกลางเมือง เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ที่มีสถานที่สำคัญๆ ตั้งอยู่มากมาย อย่างมุมหนึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์ใหม่ ที่สร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่ 14 และผ่านการบูรณะซ่อมแซม ปรับปรุงจนถึงสร้างใหม่หลายต่อหลายจนมีความสวยงามน่าชมเป็นอย่างยิ่ง นำท่านถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์แห่งเสรีภาพ เป็นรูปทรงกรวยสีขาวสูงประมาณ 70 ฟุต สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1956 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝั่งตรงข้ามกับอนุสาวรีย์ยังมีอาคารเก่าแก่ที่สวยงามและสำคัญคือ พระราชวังหลวง (Koninklijk Plaeis) หรือ วังหลวง ที่ครั้งแรกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1655 มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่ว่าการอำเภอ สร้างโดยสถาปนิกที่ชื่อ ยาคอบ ฟาน กัมเปน ตรงหน้าจั่วของตึกแห่งนี้มีรูปปูนปั้นที่สวยงาม เป็นรูปเทพีแห่งทะเล และสัตว์ในเทพนิยายกรีก ต่อมาในปี ค.ศ. 1801 หลังจากที่เนเธอร์แลนด์ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นที่ประทับของพระเจ้าหลุยส์ โบนาปาร์ต น้องชายนโปเลียน โบนาปาร์ต จนถึงปี ค.ศ. 1810 เมื่อฝรั่งเศสหมดอำนาจลงก็ยังคงใช้เป็นพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์เนเธอร์แลนด์ และในปี ค.ศ.1967 สมเด็จพระราชินีนาถจุเลียนาได้ทรงย้ายไปประทับอยู่ที่เมืองเฮกจึงมีการซ่อมแซมพระราชวัง

กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)

บ่าย              มีเวลาอิสระให้ท่านเลือกท่องเที่ยวตามอัธยาศัย  เช่น พิพิธภัณฑ์ หรือเลือกชอปปิ้งสินค้า ของฝาก แบรนด์เนม ของที่ระลึก

 สถานที่แนะนำพิพิธภัณฑ์เร็กซ์ (Rijksmuseum) หรือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี เป็นแหล่งรวบรวมผลงานศิลปะกว่า 8,000 ชิ้น รวมถึง The Night Watch (1642) ภาพผลงานชิ้นเอกของ แร็มบรันต์ (Rembrandt) ศิลปินชาวดัตช์ที่มีชื่อเสียงจากศตวรรษที่ 17 และ Self-portrait ของ วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent van Gogh) ศิลปินชาวดัตช์ชื่อดังอีกท่านหนึ่งที่พวกเรารู้จักกันดี  หรือ พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum) ที่รวบรวมผลงานของเจ้าตัวไว้มากมาย รวมถึงบอกเล่าถึงชีวประวัติอันแสนเศร้าของ วินเซนต์ แวนโก๊ะ ศิลปินที่ขายภาพได้เพียงชิ้นเดียวในยามที่มีชีวิตอยู่ แต่กลับมีชื่อเสียงกึกก้องไปทั่วโลกหลังจากที่เขาได้จากโลกนี้แล้ว

สมควรแก่เวลานำท่านกลับสู่เรือสำราญ
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ (Unlimited drink)
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

13 เมษายน 2568 : อัมสเตอร์ดัม–สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ- Tulip Festival -ช้อปปิ้งเอาท์เลต

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
นำท่านเชคเอาท์ และรับกระเป๋าสัมภาระ
**กรุณาตรวจสอบสัมภาระของท่านก่อนออกจากท่าเรือ**
นำท่านเดินทางสู่ สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ (Keukenhof) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ตั้งอยู่ที่ชานเมืองลิซเซ่ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกทิวลิปที่ใหญ่และสำคัญยิ่งของฮอลแลนด์ เดิมเป็นสวนสาธารณะมาก่อน ต่อมาสมาคมผู้ส่งเสริมการปลูกดอกไม้ประเภทไม้หัวแห่งเมืองลิซเซ่ ได้ใช้สวนแห่งนี้ส่งเสริมการปลูกไม้หัวพันธุ์ใหม่ๆ โดยแบ่งที่ให้กับบริษัทผู้ผลิตไม้หัวเป็นผู้ปลูกและเข้าบำรุงรักษา ซึ่งก็ทำให้เกิดพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นทุกปี ผู้ซื้อทิวลิปจากทั่วโลกจะมาชมและคัดเลือกทิวลิปที่ต้องการจากแปลงสาธิต ในสวนเคอเคนฮอฟแห่งนี้ นับเป็นสวนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยทิวลิปที่มีมากกว่า 7 ล้านต้นในแต่ละปี
รวมทั้งไม้หัวอื่นๆ เช่น ลิลลี่ แดฟโฟดิล หรือนาซิสซัส ไฮยาซินธ์ ออกดอกบานสะพรั่งอยู่ดูละลานตา สวนได้ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม ประกอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีทางเดินร่มรื่น บางตอนก็มีงานประติมากรรมประดับสวนอยู่เป็นระยะ มีสระน้ำและน้ำพุ มีศาลาจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกไม้มากมาย มีการจัดสวนตัวอย่าง การวางแผนจัดปลูกไม้ดอกไม้ใบ รวมทั้งคอฟฟี่ช็อปและร้านขายอาหาร เปิดให้เข้าชมประมาณกลางเดือนมีนาคม ไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี อิสระให้ท่านเดินชมสวนดอกไม้ตามอัธยาศัย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
บ่าย นำท่านแวะชอปปิ้งสินค้า  ที่ Batavia Stad Fashion Outlet ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ Armani, Guess, Michael Kors, กระเป๋า Samsonite และรองเท้า Adidas, Nike,  Crocs ฯลฯ หรือขนมของฝาก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หลากหลาย  อิสระมีเวลาให้ท่านเลือกชม เลือกซื้อ ตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Amsterdam Tuarusavenue **** หรือเทียบเท่า

14 เมษายน 2568 : อัมสเตอร์ดัม-Zanse Schans หมู่บ้านกังหันลม - สนามบินฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
8.00 น.   นำท่านเดินทางไปยังหมู่บ้านกังหันลมโบราณ Zanse Schans ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านพิพิธภัณ์ที่ยังมีชีวิต  ในอดีตที่นี่เคยเป็นแหล่งผลิตสินค้าในระดับอุตสาหกรรมมากมาย โดยใช้พลังงานที่ได้จากกังหันลมเป็นหลัก จึงมีการอนุรักษ์กังหันลมแบบโบราณในหมู่บ้านไว้ เพื่อให้ได้ชมกันจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนั้นยังมีธรรมชาติสวยๆ และบ้านเรือนแบบโบราณ ซึ่งหลายหลังยังมีผู้คนอาศัยอยู่จริง นอกจากนั้น ยังมีร้านแหล่งผลิตของฝากของที่ระลึกในสไตล์ท้องถิ่น ชมโรงงานผลิตรองเท้าไม้ โรงบ่มชีส และอีกมากมาย
อิสระเดินเที่ยวชม และเลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึก จนถึงเวลานัดหมาย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
12.00 น. ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสูสนามบินเพื่อเชคอิน 
13.00 น. เชคอินสายการบิน เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
16.15 น.  ออกเดินทางจากสนามบินสคริปโฮล อัมสเตอดัม เนเธอร์แลนด์ โดยสายการบินการ์ตาร์แอร์เวยส์ เที่ยวบินที่ QR274
23.30 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศการ์ต้า 2.20 ชม

15 เมษายน 2568 : กรุงเทพ

01.50 ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบิน QR834
12.45 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ