ทัวร์แอฟริกาใต้ Big Amazing 8วัน 5คืน เดินทาง ธันวาคม 2567 | กุมภาพันธ์ มีนาคม 2568 | สายการบินเคนย่า แอร์เวย์ (KQ)

รหัสสินค้า : CJN_B003_Amazing Africa 8D 5N DEC 24, FEB-MAR25 KQ

ราคา

199,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 199,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

Big Amazing Africa | 8 วัน 5 คืน 

แซมเบีย – ซิมบับเว – แอฟริกาใต้

เปิดประสบการณ์แบบใกล้ชิดและประทับใจ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ชมความยิ่งใหญ่ วิวน้ำตกวิกตอเรีย (Victoria Falls) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก 

#แอฟริกา #แอฟริกาใต้ #south africa

ราคา: 199,900.-บาท / ท่าน

โดยสายการบิน: เคนย่า แอร์เวย์ (KQ)

HIGHLIGHT!!!

นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิวน้ำตกวิคตอเรีย

ชมน้ำตกวิคตอเรียทั้งฝั่งแซมเบียและซัมบับเว

ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกแม่น้ำซิมเบซี

ขึ้นกระเช้าสู่Table Mountain จุดชมวิวเมืองที่สวยที่สุดในเคปทาวน์

ไร่ไวน์ Groot Constantia Wine Estate

ล่องเรือชมฝูงแมวน้ำ

ช้อปปิ้งย่าน V&A Waterfront

แหลมกู๊ดโฮป

ฟาร์มนกกระจอกเทศ  

ชมนกเพนกวิน

***พักโรงแรม 4 ดาว

Livingstone Radisson Blu Resort 2 คืน

Cape Town Radisson Red Hotel, V&A Waterfront 3 คืน

***พิเศษ!!.. เมนูกุ้งเครย์ฟิชสดๆ เมนูอาหารไทย อาหารจีน ชิมไวน์รสเลิศ ณ Groot Constantia Wine Estate

เดินทาง: ธันวาคม 2567 | กุมภาพันธ์ มีนาคม 2568

หมายเหตุ: กรุณาสอบถามที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

Big Amazing Africa

วันแรก  กรุงเทพฯ – ไนโรบี – ลิฟวิ่งสโตน (ประเทศแซมเบีย)

21.30 น.  พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ  อาคารผู้โดยสายขาออกชั้น 4  สายการบินเคนย่า  แถว W เพื่อทำการเช็คอิน   เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและแจกเอกสารในการเดินทาง

วันที่สอง  ลิฟวิ่งสโตน (ประเทศแซมเบีย) – ชมน้ำตกวิกตอเรีย

01.00 น.  นำท่านออกเดินทางสู่ ประเทศเคนย่า โดยสายการบินเคนย่า แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KQ887  

06.05 น.  เดินทางถึง สนามบินเมืองไนโรบี ประเทศเคนย่า เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

07.30 น.  ออกเดินทางต่อไปยัง เมืองลิฟวิ่งสโตน ประเทศแซมเบีย โดยสายการบินเคนย่า เที่ยวบินที่ KQ782

09.45 น.  เดินทางไปถึง สนามบินเมืองลิฟวิ่งสโตน ประเทศแซมเบีย หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่าน ชมพิพิธภัณฑ์ลิฟวิ่งสโตน ให้ท่านได้ชมประวัติความเป็นมาของน้ำตกวิคตอเรียรวมถึงชนพื้นเมืองและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ จากนั้นให้ท่านผ่านชมอาคารบ้านเรือนที่ปลูกสร้างอย่างลงตัวอยู่กับธรรมชาติที่งดงามริมฝั่งแม่น้ำซิมเบซี

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติ Mosi-oa-Tunya National Park  “โมซิ- โออา- ตุนยา (Mosi-oa-Tunya)” แปลว่า ม่านควันที่ส่งเสียงก้องกังวาล  ซึ่งเป็นชื่อเดิมภาษาท้องถิ่นของน้ำตกวิคตอเรีย ตามลักษณะของน้ำตกที่มีเสียงดังสนั่นและมีไอน้ำจนสามารถมองเห็นได้จากระยะรัศมี 20 กิโลเมตร ชม น้ำตกวิกตอเรีย (Victoria Fall ) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก (Seven Natural Wonders of the World)  ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนระดับของ แม่น้ำแซมบีซี (Zambezi River) ทั้งสาย ปัจจุบันเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างซิมบับเว่ และแซมเบีย น้ำตกค้นพบโดยด็อกเตอร์ลีฟวิ่งสโตน เมื่อปี ค.ศ.1855 เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก มีความสูง ณ จุดสูงสุดถึง 108 เมตร ตัวน้ำตกมีความกว้างถึง 1.7 กิโลเมตร ในฤดูน้ำหลากซึ่งตรงกับช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน จะมีปริมาณน้ำตกจากหน้าผาถึงนาทีละกว่า 100 ล้านแกลลอน ปัจจุบันได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก ท่านจะประทับใจแทบไม่เชื่อสายตาว่าจะได้เห็นน้ำตกที่สวยงามยาวสุดลูกตาสู่เบื้องล่างพร้อมเสียงกึกก้องตลอดเวลา หากวันไหนท้องฟ้าโปร่งมีแสงแดด จะเห็นสายรุ้งขนาดยักษ์ที่สวยงามทอดยาวข้ามน้ำตก ซึ่งเกิดจากแสงแดดส่องผ่านม่านละอองน้ำขนาดใหญ่ ในด้านฝั่งประเทศแซมเบียจะ มีน้ำตกที่สำคัญและสวยงามอีก 2 แห่ง ซึ่งอยู่ฝั่งแซมเบีย คือArmchair Falls ที่มีน้ำตกสูงเป็นอันดับสองรองจากน้ำตกจุด Rainbow Falls ที่สูงถึง 101 เมตร EASTERN Cataract ซึ่งสวยงามไม่แพ้จุดอื่นๆ เช่นเดียวกัน การเดินชมน้ำตกจะต้องเปียกจากละอองน้ำ และฝนที่อาจตกได้ตลอดทั้งปี เพราะฉะนั้นควรเตรียมเสื้อกันฝนที่มีฮู้ด ร่ม ติดตัวไปด้วยและอย่าลืมถุงหรือกระเป๋ากันน้ำสำหรับกล้องต่างๆ

(Note : การเดินชมน้ำตกจะต้องเปียกจากละอองน้ำ และฝนที่อาจตกได้ตลอดทั้งปีเพราะฉะนั้น ควรเตรียมเสื้อกันฝนที่มีฮู้ด ร่มติดตัวไปด้วย และอย่าลืมถุงหรือกระเป๋ากันน้ำสำหรับกล้องและของสำคัญไปด้วย)

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม

นำท่านเข้าพัก LIVINGSTONE RADISSION BLU  RESORT(4*) หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1 )

วันสาม  ลิฟวิ่งสโตน – ชมน้ำตกวิกตอเรีย (ฝั่งประเทศซิมบับเว) – ลิฟวิ่งสโตน

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พรมแดนและผ่านการตรวจคนเข้าเมืองประเทศซิมบับเว ให้ท่านได้ชมความงามอีกด้านของน้ำตกวิกตอเรียจากฝั่งประเทศซิมบับเว ท่านสามารถชมวิวที่สวยงามของน้ำตกที่เต็มไปด้วยละอองน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากด้านล่างตัดกับน้ำสีขาวที่ตกจากแม่น้ำซิมเบซีที่สวยงามพร้อมเสียงดังกึกก้องทั่วบริเวณ แนะนำจุดเชคอินที่สวยงามของน้ำตกที่ไม่ควรพลาด คือ

จุดเชคอินที่ 1. Devil’s Cataract 

จุดเชคอินที่ 2. Main Falls ที่มีหน้ากว่างของแผงน้ำตกสูงถึง 830 เมตร ต่อไปให้ท่านชมจุดที่

จุดเชคอินที่ 3. Horse Shoe Falls เป็นจุดที่ทุกคนยอมรับว่าสวยที่สุดตัวน้ำตกคล้ายเกือกม้าและมีความสูงถึง 95 เมตร

จุดเชคอินที่ 4. Rainbow Falls ที่เป็นจุดที่สวยสูงที่สุดถึง 108 เมตร ให้ท่านได้ประทับใจกับความงามของต้ำตกตามความพอใจ

Note: การเดินชมน้ำตกจะต้องเปียกจากละอองน้ำ และฝนที่อาจตกได้ตลอดทั้งปีเพราะฉะนั้น ควรเตรียมเสื้อกันฝนที่มีฮู้ด ร่มติดตัวไปด้วย และอย่าลืมถุงหรือกระเป๋ากันน้ำสำหรับกล้องและของสำคัญไปด้วย)

นำท่าน Helicopter tour 12-15 mins

จากนั้นนำท่าน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิวน้ำตกวิคตอเรีย (Helicopter tour 12-15 mins) ชมความงามของน้ำตกวิคตอเรียอันยิ่งใหญ่ที่สวยงาม บินผ่านหุบเขาหลากสีสัน เหนือแม่น้ำแซมบีซี (ZAMBEZI RIVER) ซึ่งเป็นเส้น แบ่งเขตแดนระหว่างประเทศแซมเบีย และซิมบับเว ให้ท่านได้ชมทัศนียภาพของแผงน้ำตกวิคตอเรีย ที่เรียกได้ว่าเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในโลก และเป็น 1 ใน 3 น้ำตกที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกด้วย น้ำตกที่คนท้องถิ่นเรียกว่า "THE SMOKE THAT THUNDERS" (ม่านควันที่ส่งเสียงคำราม) ให้ท่านเปิดประสบการณ์แบบใกล้ชิดและประทับใจ ครั้งนี้ไปตลอดกาล

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองลิฟวิ่งสโตนประเทศแซมเบีย นำท่านเดินทางไปยังท่าเรือ เพื่อลงเรือ  ล่องแม่น้ำแซมเบซี ชมวิถีชีวิตของท่ามกลางอาทิตย์อัสดง แม่น้ำแซมเบซี แม่น้ำสายสำคัญ ต้นกำเนิดของน้ำตกวิคตอเรีย แม่น้ำแซมเบซีมีความยาวถึง 2,700 กิโลเมตร ซึ่งมีความยาวเป็นอันดับ 4 ของทวีปแอฟริกา ไหลผ่านประเทศต่าง ๆ รวม 6 ประเทศ คือ แซมเบีย แองโกล่า บอสวาน่า ซิมบับเว นามีเบีย และสิ้นสุดที่โมซัมบิค และไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดีย จึงได้รับอีกสมญานามว่า เป็น “The river of life” หรือ แม่น้ำแห่งชีวิต เพราะนอกจาก แม่น้ำแซมเบซี่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างชื่อ

เสียงและรายได้แล้ว ยังเป็นแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารของเหล่าสรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งสัตว์บกที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งและบรรดาสัตว์น้ำต่างๆ รวมถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ยังใช้เป็นเส้นทางการคมนาคมทางน้ำ ที่สำคัญเป็นแหล่งผลิตพลังงานทางธรรมชาติอีกด้วย ให้ท่านล่องเรือไปตามลำน้ำ ชมดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ในบรรยากาศอันแสนโรแมนติก สายลมอันสดชื่นที่กรุ่นกลิ่นทุ่ง หญ้าอ่อนๆ และดอกไม้ป่าจะช่วยให้ท่านผ่อนคลาย พร้อมชม ทิวทัศน์สองข้างทางซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้เขียวชะอุ่ม ตื่นตาตื่นใจ กับบรรดาชีวิตสัตว์ป่าที่หาชมได้ยาก อาทิ ฮิปโปโปเตมัส และนก นานาชนิด ทั้งหมดนี้จะทำให้ท่านรู้สึกว่า 2 ชั่วโมงที่ล่องเรือผ่าน ไปไวเหมือนสายลมพัดจนไม่ทันรู้สึกตัว ระหว่างล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม

นำท่านเข้าพัก  LIVINGSTONE RADISSION BLU  RESORT (4*) หรือเทียบเท่า(คืนที่ 2)

วันที่สี่  ลิฟวิ่งสโตน – เคปทาวน์ (ประเทศแอฟริกาใต้)

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

หลังอาหารเช้านำท่านดินทางสู่ สนามบินเมืองลิฟวิ่งสโตน ประเทศแซมเบีย เพื่อทำงานเช็คอิน

10.30 น.  ออกเดินทางสู่ เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ โดยสายการบินเคนย่า เที่ยวบินที่ KQ782 

(บริการอาหารว่างบนเครื่องแบบ Snack)

13.40 น.  เดินทางถึง สนามบินนานาชาติของเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางถึงสู่ตัวเมืองเคปทาวน์ (Cape Town) เมืองใหญ่อันดับสามและยังเป็นเมืองหลวงศูนย์กลางของฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศแอฟริกาใต้ เมืองเคปทาวน์มีอดีตเก่าแก่ที่สุด โดยที่เมืองมีอายุกว่า 300 ปี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่ทันสมัยที่สุดด้วยเช่นกัน ในเมืองเต็มไปด้วยผู้คนทุกสีผิว ร้านค้าทันสมัยมากมาย เคปทาวน์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ว่าเป็นดินแดนแห่งการท่องเที่ยวติดอันดับหนึ่งในห้าของโลก เมืองตั้งอยู่ปลายสุดของอัฟริกาใต้ ถูกโอบล้อมด้วยมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแอตแลนติก ด้านหน้าหันหน้าเข้าหามหาสมุทรใหญ่ทั้งสอง ส่วนด้านหลังมีเทือกเขาสูงเป็นกำแพง  ทำให้มีภูมิอากาศแบบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ลมแรงตลอดทั้งปี พัดเอามลพิษทางอากาศไปจากเมือง อากาศที่เคปทาน์จึงบริสุทธิ์  และในปี 2010 สนามกีฬาเคปทาวน์ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในสนามเจ้าภาพ จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกอีกด้วย

นำท่านชม ฟาร์มนกกระจอกเทศ Cape Town Ostrich Ranch  ชมการสาธิตการเพาะเลี้ยงลูกนก การวางไข่ พร้อมวิธีชมขั้นตอนการดูแลนกเหล่านี้เติบโตอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ยังให้ท่านได้ลองให้อาหารนกกระจอกเทศ และลองนั่งบนหลังนกเพื่อให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หรือจะเลือกซื้อสินค้าที่ทำจากหนังนกกระจอกเทศไม่ว่าจะเป็นกระเป่าหนัง เข็มขัด ตุ๊กตา สินค้ามาเป็นที่ระลึกจากแอฟริกา

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านกลับที่พัก โรงแรม CAPE TOWN RADISSON RED HOTEL, V&A WATERFRONT (4*)  หรือ เทียบเท่า (คืนที่ 3)

วันที่ห้า  เคปทาวน์ – เทเบิ้ลเม้าเท่นส์ – ชมไวน์ที่ไร่ Groot Constantia – ช้อปปิ้ง

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านขึ้นสู่ยอดเขา เทเบิ้ลเม้าเท่น (Table Mountain) โดยรถกระเช้าลอยฟ้า เพื่อชมความงดงามของเมืองเคปทาวน์จากยอดเขาสูงสุดของเมือง เทเบิ้ลเม้าเท่น เป็นภูเขาสูงยอดตัดตรงเหมือนกับโต๊ะ นำท่านขึ้นสู้ด้านบนโดยกระเช้าสู่ยอดเขาด้านบน ให้ท่านได้ชมวิวอันสวยงาม และด้านบนนั้นมีเส้นทางเดินลัดเลาะไปตามแนวขอบเขา เพื่อให้ท่านได้ชมวิวรอบด้านได้อย่างชัดเจน บนเขานี้มีสุตว์ชนิดหนึ่ง หน้าตาน่ารักชื่อตัว แดสซี่หรือกระต่ายหิน Rock Hyrax มีลักษณะผสมระหว่างกระต่ายกับกระรอก มีสีน้ำตาลขนฟูๆและเป็นมิตรกับผู้มาเยือน จากยอดเขานี้เราจะเห็นภูเขาล้อมรอบหลายต่อหลายลูก ที่โดดเด่นคือ ไลอ้อนเฮด Lion Head ภูเขาที่มีลักษณะคล้ายหัวของสิงโต ในเวลาที่ดวงอาทิตย์ใกล้ตกภูเขาลูกนี้จะมีสีแดงสวยงามมาก  

*** หมายเหตุ ในกรณีที่กระเช้าปิดซ่อมระหว่างเดือน กรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี หรือหากมีลมแรงและมีฝนตกหนักกระเช้าจะหยุดให้บริการเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ดังนี้นเราจะนำท่านขึ้นไปชมวิวที่ Signal Hill แทน ***

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ไร่ไวน์ Groot Constantia Wine Estate  อีกหนึ่งไร่ไวน์ที่มีชื่อเสียงในเมืองเคปทาวน์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์น้อยๆของดินแดนแห่งไวน์  ชมทัศนียภาพของไร่ไวน์อันงดงามและในวันที่อากาศสดใสจะสามารถเห็นวิวของเทือกเขาเทเบิ้ลเม้าท์เท่นได้อีกด้วย  ซึ่งไร่ไวน์แห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่และยังให้ท่านสามารถชมวิธีการผลิตเบื้องต้นและชิมไวน์จากไวน์มีชื่อของแอฟริกาใต้ และพร้อมให้ท่านเลือกซื้อเป็นของฝาก

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ในไร่ไวน์               

นำท่านเดินทางสู่แหล่ง ช้อปปิ้งที่ทันสมัยที่สุดในเมืองเคปทาวน์  VICTORIA & ALFRED WATERFRONT  แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีอายุเก่าแก่กว่า 140 ปี ชมความงามของสถาปัตยกรรมอันงดงามและพบกับร้านค้าต่าง ๆ มากมายกว่า 250 ร้านค้า ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น สินค้าหัตถกรรมและสินค้าพื้นเมืองมากมาย และแหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นเมือง หรือสินค้าแบรนด์ดัง จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้ท่านเพลิดเพลินเลือกซื้อสินค้ากับร้านรวงต่าง มากมาย ทั้งภัตตาคาร ผับ ร้านอาหาร คาเฟ่ สินค้าพื้นเมือง Art & Craft รวมทั้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่มาจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ ARMANI, BURBERRY, GUCCI เป็นต้น  และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังของสถานที่ต่าง ๆ เช่น อะแควเรี่ยมโลกใต้ทะเลสองมหาสมุทรหรือพิพิธภัณฑ์ทางทะเลแห่งแอฟริกาใต้ หรือชมประวัติความเป็นมาของเรือต่าง ๆ มากมายที่เดินทางมายังบริเวณแหลมกู้ดโฮปและหอนาฬิกาที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงประธานาธิบดีเนลสันแบนเดล่า อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการสำรวจราคาสินค้า เลือกชมและเลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึก ของฝากตามอัธยาศัย

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคารภายใน V&A WATERFRONT

นำท่านกลับที่พัก โรงแรม CAPE TOWN RADISSON RED HOTEL, V&A WATERFRONT (4*)  หรือ เทียบเท่า (คืนที่ 4)

วันที่หก  เคปเพนนินซูล่า – เกาะแมวน้ำ – ชายหาดโบลเดอร์ – แหลมกู๊ดโฮป

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านออกเดินทางจากโรงแรมเพื่อให้ท่านท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน เริ่มที่ชมความงามของชายฝั่งบริเวณ เคปเพนนินซูล่า ลัดเลาะสู่ชายหาดที่สวยสะดุดตา Sea Point เรื่อยไปจนถีง Camps Bay บริเวณเทือกเขา Twelve Apostles หากอากาศเอื้ออำนวย  นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือฮูทเบย์ (Hout Bay) เพื่อล่องเรือไปชมฝูงแมวน้ำจำนวนมากที่เกาะดุยเกอร์ แมวน้ำเหล่านี้จะพากันมานอนอาบแดดรับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์อย่างมีความสุขกันตามธรรมชาติอยู่บริเวณเกาะซีล (Seal Island) ซึ่ง เป็นวิถีชีวิตน่ารักๆ อิริยาบทอันน่ามหัศจรรย์ของสัตว์โลกน่ารักอีกชนิดที่หาดูไม่ได้ที่บ้านเรา ให้ท่านได้ถ่ายรูปมากมายเป็นที่ระลึก

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น  ลิ้มรสความอร่อยของกุ้งเครย์ฟิชสดๆ  (Crayfish)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไซม่อนส์ ซึ่งเมืองนี้บ้านเรือนจะตั้งลดหลั่นกันอยู่ตามเนินเขา หันหน้าออกทะเล และเจ้าของบ้านส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะดีทั้งนั้น  นำท่านชมอาณาจักรนกเพนกวินตัวจิ๋ว ให้ท่านชมความน่ารักของเพนกวินอย่างใกล้ชิด ที่หาดโบลเดอร์ เป็นนกเพนกวินพันธุ์ Jackass ซึ่งมีเท้าเป็นสีดำ และเป็น1ใน15ชนิด ที่มีอยู่ในโลกและใกล้จะสูญพันธุ์ ชมความน่ารักและชีวิตความเป็นอยู่ของนกเพนกวิน

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแหลมกู๊ดโฮป (CAPE OF GOOD HOPE NATURE RESERVE) ปลายสุดของแหลมจะมีประภาคารขนาดใหญ่ ซึ่งท่านจะได้เห็นรอยตะเข็บระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแอตแลนติคที่มาบรรจบกันได้อย่างชัดเจนบนผิวน้ำที่แตกต่าง 

จากนั้นนำท่าน ขึ้นรถรางเพื่อไปชมทิวทัศน์อันสวยงามที่ CAPE POINT จุดเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแอตแลนติกตามความเชื่อของนักเดินทางเรือในอดีตท่านจะได้ชมแหลมแห่งความหวัง CAPE OF GOOD HOPE ที่เป็นที่เลื่องลือทางประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งการค้นพบเส้นทางการค้าจากโลกตะวันตกสู่โลกตะวันออก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

นำท่านเดินทางกลับสู่ ตัวเมืองเคปทาวน์

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านกลับที่พัก โรงแรม CAPE TOWN RADISSON RED HOTEL, V&A WATERFRONT (4*)  หรือ เทียบเท่า (คืนที่ 5)

วันที่แจ็ด  เคปทาวน์ – อิสระช้อปปิ้ง – ไนโรบี (เคนย่า)

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

ให้ท่านได้อิสระตามอัธยาศัยในโรงเรม หรือจะเดินช้อปปิ้งในห้าง V&A WATERFRONT เพื่อซื้อสินค้ามากมาย หรือของฝากคนทางบ้าน

11.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ สนามบินของเมืองเคปทาวน์

(อาหารกลางวัน อิสระในสนามบิน)

14.30 น.  ออกเดินทางจาก เมืองเคปทาวน์ โดยสายการบินเคนย่า เที่ยวบินที่ KQ793

22.20 น.  เดินทางถึง สนามบินเมืองไนโรบี ประเทศเคนย่า เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

23.59 น.  ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย สนามบินสุวรรณภูมิฯ โดยเที่ยวบินที่ KQ886 

วันที่แปด  ไนโรบี – กรุงเทพฯ

13.20   เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) โดยสวัสดิภาพ....

 

****Travel Around the World by Chic Journey****

 

วันเดินทาง

19 – 26  ตุลาคม 2567 / 9 – 16  ธันวาคม 2567

17 – 24 กุมภาพันธ์ 2568  / 17 – 24 มีนาคม 2568

คณะผู้เดินทาง

ราคารวมตั๋ว

ผู้ใหญ่ (พักห้องคู่) 2 ท่าน/ห้อง

(ไม่มีห้องพักสำหรับ 3 ท่าน)

199,900.- บาท

ห้องพักเดี่ยวเพิ่มท่านละ       

39,900.- บาท

Visitors: 150,982