ทัวร์ตุรเคีย 8 วัน 5 คืน บิน TK เดินทาง มกราคม-มีนาคม 2566 : มหัศจรรย์ TURKIYE

รหัสสินค้า : CJN-B001 TURKEYIST46-TK8D5N

ราคา

40,999.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 40,999.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

โปรแกรม : มหัศจรรย์ TURKIYE ทัวร์ตุรเคีย 8 วัน 5 คืน

ราคา : เริ่มต้น 40,999.-บาท

คลิกดูโปรแกรม

โดยสายการบิน : Turkish Airlines ( TK ) บินตรง+บินภายใน 1 ครั้ง

•กรุงอิสตันบูล•พระราชวังทอปกาปึ•ฮิปโปโดรม•บลูมอสก์•ฮายาโซฟีอา•ตลาดแกรนด์บาซาร์•จุดชมวิว Pierre loti hill•ย่าน Balat •พระราชวังโดลมาบาห์เช่•ช่องแคบบอสพอรัส•เมืองชานักกาเล่•เมืองโบราณทรอย•ม้าไม้เมืองทรอย•เมืองคุชาดาสึ•Turkish Delight บ้านพระแม่มารี•เมืองโบราณเอฟฟิซุส•โรงงานผลิตเสื้อหนัง•ปามุคคาเล่•ปราสาทปุยฝ้าย•เฮียราโพลิส•เมืองคอนย่า•เมืองคัปปาโดเกีย•สถานีคาราวาน•Belly Dance •พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม•นครใต้ดินคาดัค•โรงงานผลิตพรมทอมือ•ร้านจิวเวอร์รี่และเซรามิค

**ชมโชว์ Belly Dance…พักโรงแรมถ้ำ 1 คืน

เดินทาง : มกราคม - มีนาคม 2566

หมายเหตุ กรุณาเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

( อัตราค่าบริการและวันเดินทางตามตารางท้ายโปรแกรม )

วันแรก  สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ • อิสตันบูล ตุรกี

20.00 น.  พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์เคาน์เตอร์ U ประตู 9 Turkish Airlines (TK)โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
22.55 น.ออกเดินทาง สู่ประเทศตุรกีเมืองอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK 65

วันที่สองอิสตันบูล • พระราชวังทอปกาปึ • ฮิปโปโดรม • บลูมอสก์ • ฮายาโซฟีอา • ตลาดแกรนด์บาซาร์• จุดชมวิว Pierre loti hill • ย่าน Balat (อาหาร:-/กลางวัน/เย็น)

05.45 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานอิสตันบูล สนามบินแห่งใหม่ของ ประเทศตุรกี พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ (เวลาท้องถิ่นที่ตุรกีช้ากว่าประเทศไทย4 ชั่วโมง)เมืองอิสตันบูลเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีปคือ ทวีปยุโรป (ฝั่งThrace ของบอสฟอรัส)และทวีปเอเชีย(ฝั่งอานาโตเลีย)
จากนั้น   ชมพระราชวังทอปกาปึ(Topkapi Palace)อันเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านมานานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดย 'จักรพรรดิเมห์เม็ตผู้พิชิต'(MEHMET THE CONQUEROR)ในอดีตพระราชวังทอปกาปึเคยเป็นสถานที่ฝึกขุนนางทหารรับใช้ของสุลต่านชาวตุรกี ซึ่งคัดเลือกเด็ก ๆ คริสเตียน(พวกนอกศาสนา)มาสอนให้เป็นเติร์กและนับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาเมื่อขุนทหารเหล่านี้ออกมารับราชการเป็นใหญ่เป็นโตในวังก็กลายเป็นหอกข้างแคร่ และในบางยุคก็ร่วมก่อการปฏิวัติรัฐประหารเลยด้วยซ้ำ ในที่สุดสุลต่าน 'มาห์มุทที่ 3' ก็ตัดสินใจยุบระบบขุนนางทหารรับใช้ซึ่งยืนยงมากว่า 350 ปีนี้ลง และปฏิรูประบบการจัดการทหารในประเทศเสียใหม่ โดยการนำการจัดทัพแบบยุโรปมาใช้ ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่าอาทิ เช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่าน
จากนั้น ชมจัตุรัสสุลต่าน อาห์เหม็ด(Sultanahmed Complex)หรือที่มีชื่อเรียกมาแต่โบราณว่า ฮิปโปโดรม (Hippodrome)ซึ่งย่านแห่งนี้แต่เดิมเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองในยุคไบแซนไทน์และใช้เป็นลานกว้างสำหรับแข่งกีฬาขับรถม้า แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงร่องรอยจากอดีตที่มีแค่ลานและเสาโบราณอีก 3 ต้น คือ เสาโอเบลิสก์แห่งกษัตริย์เธโอโดเชียส (Theodosius Obelisk) เป็นเสาทรงสี่เหลี่ยมฐานกว้างแล้วค่อย ๆ เรียวยาวขึ้นไปเป็นยอดแหลมส่วนเสาโบราณต้นที่ 2 เรียกกันทั่วไปว่า เสางู (Bronze Serpentine Column) เป็นเสาบรอนซ์ที่แกะลวดลายเป็นรูปงู 3 ตัวพันเกี่ยวกันไปมาได้รับการยอมรับว่าเป็นเสาแบบกรีกที่เก่าแก่ที่สุดที่มีเหลืออยู่ในอิสตันบูล และเสาต้นที่ 3 มีชื่อว่า เสาคอนสแตนติน (Column of Constantine) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1483 แต่เดิมเป็นเสาบรอนซ์ แต่ในช่วงสงครามครูเสดได้ถูกศัตรหลอมเอาบรอนซ์ออกไปจนเหลือเพียงแค่เสาปูนเท่านั้น
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น   ชมสัญลักษณ์ของเมืองนครอิสตันบูล“บลูมอสก์” (Blue Mosque) สุเหร่าสีน้ำเงินสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเยือนเมืองอิสตันบูล มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสุเหร่าสุลต่านอาห์เมตที่ 1 (Sultan ahmet I) เป็นสุเหร่าที่มีแรงบันดาลใจมาจากการสร้างที่ต้องการเอาชนะและต้องการให้มีขนาดใหญ่กว่าวิหารเซนต์โซเฟียในสมัยนั้น ซึ่งวิหารเซนต์โซเฟียได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง สุเหร่าแห่งนี้ประดับด้วยกระเบื้องอัซนิค บนกำแพงชั้นในที่มีสีฟ้าสดใสลายดอกไม้ต่างๆเช่นกุหลาบ ทิวลิปคาเนชั่น ฯลฯ  โดยหันหน้าเข้าวิหารเซนต์โซเฟียเพื่อประชันความงามกันคนละฝั่ง ถ้ามองจากด้านนอกวิหารจะมองเห็นหอสวดมนต์ 6หอ ซึ่งปกติมัสยิดจะมีหอสวดมนต์เพียง 1 หรือ 2 หอ แต่มัสยิดแห่งนี้มี หอมินาเร็ตทั้ง 6หอ ตกแต่งด้วยหน้าต่าง 260 บาน สลับด้วยกระจกสีอันน่าวิจิตร มีพื้นที่ให้ละหมาดกว้างขว้าง มีขนาดใหญ่ ภายในประกอบด้วย โรงเรียนสอนศาสนา โรงพยาบาล ที่พักสำหรับขบวนคาราวาน โรงครัวต้มน้ำ ปัจจุบันเปิดให้เข้าไปทำละหมาด 24 ชั่วโมง
นำท่านชม ฮายาโซฟีอา (Hagia Sophia)เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและมักถูกจัดให้อยู่ในรายการสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางฮายาโซฟีอาเคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมานานเกือบพันปี จนกระทั่งอาสนวิหารเซบียาสร้างเสร็จในปี 1520 สิ่งก่อสร้างที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันถูกสร้างให้เป็นโบสถ์ในระหว่างปี ค.ศ. 532-537 โดยจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ และเป็นโบสถ์หลังที่สามถูกสร้างขึ้นในสถานที่เดียวกันนี้ (โบสถ์สองหลังแรกถูกทำลายในระหว่างการจลาจล) โบสถ์นี้เป็นศูนย์กลางของนิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์เป็นเวลาเกือบ 1,000 ปีในปี 1453 หลังจากที่จักรวรรดิออตโตมันพิชิตจักรวรรดิไบแซนไทน์ สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 จึงดัดแปลงโบสถ์ให้กลายเป็นสุเหร่า เช่นย้ายระฆัง แท่นบูชา รูปปั้นต่าง ๆ ออก และสร้างสัญลักษณ์ทางอิสลาม
เดินทางสู่ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar)เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตรประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน
จากนั้น   นำท่านสู่ จุดชมวิว Pierre loti hill ที่เมื่อมองออกไปจะเห็นวิวแม่น้ำอันสวยงามรวมถึงจะได้เห็นวิวทิวทัศน์มุมสูงของเมืองอิสตันบลูได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีร้านชาตุรเคีย ร้านขนมให้ท่านลิ้มลองถ่ายรูปตามอัธยาศัย (ให้ท่านลิ้มลองชาตุรกีแท้ๆ ท่านละ 1 แก้ว)
จากนั้น   เพลิดเพลินย่าน บารัต(Balat)เมืองแห่งสีสันของอิสตันบูล สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยบ้านเก่าแก่หลากหลายสีสัน ร้านคาเฟ่สุดชิคที่ให้ท่านได้ถ่ายรูปอาตๆได้หลากหลายมุม รวมถึง ชมวิหารสไตล์กรีก สุเหร่า โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ Chora Museum  ให้ท่านได้เดินเล่นชมความสวยงามและอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก    ROYAL STAY HOTEL ระดับ 5 ดาวตุรกีหรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศตุรกี เมืองอิสตันบูล
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

วันที่สาม พระราชวังโดลมาบาห์เช่ • ช่องแคบบอสพอรัส • เมืองชานัคคาเล่ (อาหาร : เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมพระราชวังโดลมาบาห์เช่ (Dolmabahce Palace)ซึ่งสร้างเสร็จในสมัยของสุลต่านอับดุลเมจิตซึ่งทรงคลั่งไคลความเป็นยุโรปอย่างที่สุดทรงมีพระประสงค์จะให้พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับแห่งใหม่แทนพระราชวังทอปกาปิการอสร้างพระราชวังโดลมาบาห์เช เน้นความหรูหราอลังการสะท้อนความเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่เด่นชัด ด้านหน้าพระราชวังมีหอนาฬิกาใหญ่สไตล์บาร็อกตั้งตระหง่า ขณะที่ตัวพระราชวังนั้นงดงามด้วยศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ลูกกรงบันไดยังตกแต่งด้วยแก้วเจียระไน ห้องโถงใหญ่ประดับ
นำท่านล่องเรือช่องแคบบอสพอรัส(Bosporus Strait) เป็นช่องแคบที่กั้นระหว่างตุรกีเธรซที่อยู่ในทวีปยุโรปกับคาบสมุทรอานาโตเลียในทวีปเอเชีย เป็นช่องแคบหนึ่งของตุรกีคู่กับช่องแคบดาร์ดะเนลส์ทางตอนใต้ที่เชื่อมกับทะเลอีเจียน ช่องแคบบอสฟอรัสทางตอนเหนือและช่องแคบดาร์ดาเนลส์ทางตอนใต้เชื่อมระหว่างทะเลดำกับทะเลมาร์มะราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนช่องแคบบอสฟอรัสยาวราว 30 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดกว้าง 3,700 เมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 700 เมตร ความลึกระหว่าง 36 ถึง 124 เมตร ฝั่งทะเลของช่องแคบเป็นเมืองอิสตันบูลที่มีประชากรหนาแน่นถึงราว11ล้านคน
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษ!! เมนูซีฟู้ด ณ GALATA BRIDGE
เดินทางสู่เมืองชานักกาเล(Canakkale) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของตุรกี มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมมีชื่อว่า โบกาซี่ (Bogazi) หรือ เฮลเลสปอนต์ (Hellespont) มีความยาว 65 กิโลเมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 1.3 กิโลเมตร เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดแคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาแนลส์ ใกล้กับแหลมเกลิโบลูของกรีซ บนฝั่งของ 2 ทะเลคือ ทะเลมาร์มารา และ ทะเลเอเจียนชานักกาเล อยู่ห่างจากกรุงอิสตันบูล เมืองหลวงของตุรกีด้วยการเดินทางทางรถยนต์ประมาณ 4 ชั่วโมง เคยเป็นที่ตั้งของเมืองทรอย ที่ปรากฏในสงครามกรุงทรอย ปัจจุบัน มีซากของกำแพงเมืองที่เป็นหินหนาปรากฏอยู่ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
เย็น  บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก  KOLIN HOTEL ระดับ 5 ดาวตุรกี หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศตุรกี เมืองชานักกาเล
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

วันที่สี่  เมืองชานักกาเล่ • เมืองโบราณทรอย • ม้าไม้เมืองทรอย • เมืองคุชาดาสึ • Turkish Delight บ้านพระแม่มารี ä (เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น   นำท่านชม เมืองโบราณ ทรอย(Troy)ตามตำนานกรีกโบราณในมหากาพย์เรื่อง ‘อิเลียต’ (Iliad)   ของกวีนามว่า ‘โฮเมอร์’ (Homer) ได้มีการบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘กรุงทรอย’ (Troy) เอาไว้ว่า ‘กรุงทรอย มีที่ตั้งอยู่ในบริเวณจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดของช่องแคบเฮลเลสพอนด์ (Hellenpond) ทำให้นครแห่งนี้สามารถควบคุมเส้นทางการติดต่อทั้งทางบกและทางน้ำระหว่างทวีปเอเชียและทวีปยุโรปได้’ ตามบันทึกที่ว่านี้นั้นแรกเริ่มเดิมทีเหล่านักปราชญ์และผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างก็เชื่อว่ากรุงทรอยเป็นแค่เมืองในตำนาน หาได้มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ไม่ หากแต่เมื่อราว 140 ปีที่แล้ว มีผู้ค้นพบซากของเมืองโบราณแห่งหนึ่ง ซึ่งเชื่อกันว่านี่คือซากของ ‘กรุงทรอย’ระหว่างทาง   แวะถ่ายรูป กับม้าโทรจัน หรือ ม้าไม้เมืองทรอย (Trojan horse) เป็นม้าขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้ จากมหากาพย์อีเลียดเรื่องสงครามเมืองทรอย ม้าไม้นี้เกิดขึ้นจากอุบายของโอดิสเซียส ในการบุกเข้าเมืองทรอย ที่มีป้อมปราการแข็งแรง หลังจากที่รบยืดเยื้อมานานถึง 10 ปีแล้ว ด้วยการให้ทหารสร้างม้าไม้นี้ขึ้นมา แล้วลากไปวางไว้หน้ากำแพงเมืองทรอย แล้วให้ทหารกรีกแสร้งทำเป็นล่าถอยออกไป เมื่อชาวทรอยเห็นแล้วเข้าใจว่าเป็นบรรณาการที่ทางฝ่ายกรีกสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเทพเจ้าและล่าถอยไปแล้ว จึงลากเข้าไปไว้ในเมืองและฉลองชัยชนะ เมื่อตกดึก ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ ก็ไต่ลงมาเผาเมืองและปล้นเมืองทรอยได้เป็นที่สำเร็จ
จากนั้น เดินทางสู่เมืองคุชาดาสึ(Kusadasi)(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ให้ท่านลิ้มลอง Turkish Delightขนมประจำท้องถิ่นของประเทศตุรกี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกอีกอย่างว่า “โลคุม (Lokum)” มีรสชาติหวานทำจากแป้งและน้ำตาล มักจะเสิร์ฟคู่กับชาหรือกาแฟ สวนผสมก็จะมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอัลมอนด์,ถั่ว,ถั่วพิสทาชิโอ,แมคคาเดเมีย,วอลนัท, กุหลาบ ฯลฯ
จากนั้น นำท่านชม บ้านพระแม่มารี (House of Vergin Mary)เชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมา  อาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คริสศาสนิกชนจะต้องหาโอกาสขึ้นไปนมัสการให้ได้สักครั้ง
เย็น  บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก  RAMADA HOTEL ระดับ 5 ดาวตุรกี หรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศตุรกี เมืองคุชาดาสึ
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

วันที่ห้า  เมืองคุซาดาสึ • เมืองโบราณเอฟฟิซุส • โรงงานผลิตเสื้อหนัง • ปามุคคาเล่ • ปราสาทปุยฝ้าย • เฮียราโพลิสä (เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น   ชมเมืองโบราณเอฟฟิซุส  (Ephesus)เมืองโบราณที่ได้มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีแห่งหนึ่งของโลก เมืองเอฟฟิซุสเป็นเมืองในยุคโบราณที่ยิ่งใหญ่ สวยงามสมกับการเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณเมืองโบราณเอฟฟิซุส รุ่งเรืองในยุคสมัยกรีก และโรมัน มีอายุกว่า 2,500 ปี เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไอโอเนียน (Ionian) ที่อพยพมาจากกรีก ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นมาในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาลแผนผังเมืองเอฟฟิซุสนั้นได้ชื่อว่าเป็นเลิศทางด้านยุทธศาตร์ทหาร และการค้า
นำท่านชมโรงงานผลิตเสื้อหนังที่มีคุณภาพและชื่อเสียงของตุรกี เสื้อแจ็กเก็ตและหนัง มีคุณภาพดี แบบทันสมัย มีน้ำหนักเบา ฟอกหนังดี นุ่มบางเบา สวมใส่สบายขึ้น ราคาถูกกว่าในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาครึ่งต่อครึ่ง เพราะตุรกีเป็นผู้ผลิตและส่งออกไปขายทั่วโลก
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินสู่ ปามุคคาเล่(Pamukkale)(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
จากนั้น   นำชม ปามุคคาเล แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle)มีลักษณะเป็นระเบียงน้ำพุเกลือร้อน ซึ่งเกิดขึ้นจากการเกิดแผ่นดินไหวของโลกในอดีต ความงดงามสุดวิจิตรของสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นจากบ่อน้ำร้อนที่อุดมไปด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต หรือหินปูน ซึ่งเมื่อน้ำพุร้อนระเหยขึ้นมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ไอน้ำก็จะค่อย ๆ ก่อให้เกิดชั้นของแคลเซียมเกาะบริเวณขอบบ่อจนเกิดเป็นผนังสีขาวขึ้นนั่นเองด้วยความเชื่อว่า ปามุคคาเล เป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษาบำบัดการอาการต่าง ๆ ทำให้ในอดีตชนเผ่ากรีก-โรมันได้เข้ามาสร้างเมืองอยู่บนบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ และขนานนามเมืองนั้นว่า ฮีเอราโพลิส อันหมายถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์ และปามุคคาเล ก็ได้ถูกใช้เป็นสปาบำบัดโรคมานานกว่าพันปี
จากนั้น   นำท่านสู่ เฮียราโพลิส (Hierapolis)ซึ่งมีความหมายว่า เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นก่อนคริสตกาล มีอายุประมาณ 2,200 ปี จุดเด่นสำคัญของที่แห่งนี้คือ มีโรงละครขนาดใหญ่ ที่สามารถจุคนได้ถึง 12,000 คน อดีตงานเทศกาลหรือการแข่งขันต่างๆก็จะจัดที่โรงละครแห่งนี้ และรอบๆจะประกอบไปด้วย โรงอาบนน้ำโบราณ สระน้ำโบราณ ประตูเมือง ฯลฯ
เย็น  บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก  ADEM PIRA HOTELระดับ 5 ดาวตุรกีหรือเทียบเท่ามาตรฐานของประเทศตุรกี เมืองปามุคคาเล่
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

วันที่หก  เมืองปามุคคาเล่ • เมืองคอนย่า • เมืองคัปปาโดเกีย • สถานีคาราวาน • Belly Dance (อาหาร : เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน    เดินทางสู่เมืองคอนย่า(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เมืองนี้เป็นเมืองสำคัญทางศาสนาอิสลามเป็นเมืองต้นกำเนิดศาสนาอิสลาม อีกลัทธิหนึ่งเรียกว่าลัทธิ Mevlevi หรือ ลัทธิลมหวน การปฏิบัติยอมรับนับถือเหมือนอิสลามทุกประการ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่  เมืองคัปปาโดเกีย(Cappadocia)(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ แปลว่า“ดินแดนม้าพันธุ์ดี”  ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกีเป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว (ปัจจุบันภูเขาไฟทั้ง 2 ดับแล้ว) ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา   จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกันกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆนับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย(คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง จนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” ที่ในปี ค.ศ.1985 ยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี ระหว่างทาง  แวะถ่ายรูป สถานีคาราวาน (Caravanserai)มักจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอิทธิพลจากเปอร์เชียที่ก่อสร้างเป็นที่พักเล็กข้างทางที่นักเดินทางสามารถใช้สำหรับการพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการเดินทางสถานีคาราวานตั้งอยู่ได้จากการคมนาคมทางการค้าการติดต่อสื่อสารและการเดินทางของผู้คนในเครือข่ายของเส้นทางการค้า (trade routes) ที่ครอบคลุมเอเชียแอฟริกาเหนือ และ ยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ สถานีคาราวานอาจจะเป็นที่รู้จักในภาษาไทยด้วยชื่อเรียกว่า "โรงเตี๊ยม"
เย็น  รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้น   นำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “โชว์ระบำหน้าท้อง” Belly Danceเป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปีในดินแดนแถบอียิปต์และเมดิเตอร์เรเนียน นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่า ชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลาย มีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงาม จนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน
ที่พัก  พักโรงแรมตกแต่งสไตล์ถ้ำ 1 คืน MINIA CAVE HOTEL หรือเทียบเท่า ตามมาตรฐานตุรกี เมืองคัปปาโดเกีย   
**ในกรณีโรงแรมสไตล์ถ้ำเต็ม ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ใช้โรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกันแทน**

วันที่เจ็ดเมืองคัปปาโดเกีย • พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม • นครใต้ดินคาดัค • โรงงานผลิตพรมทอมือ • ร้านจิวเวอร์รี่และเซรามิค • สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ  (อาหาร : เช้า/กลางวัน/-)

05.00 น.   นำท่านเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศ เมืองคัปปาโดเกียยามเช้า โดยการขึ้นบอลลูน โดยท่านจะเห็นวิวทั่วเมืองคัปปาโดเกีย โดยจะนั่งบอลลูนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในรายการ อัตราค่าบริการท่านละ 250 USD โดยประมาณ
**โดยสอบถามราคากับทางหัวหน้าทัวร์อีกทีในวันที่จะเดินทาง

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น  ชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (GOREME OPEN MUSEUM)เป็นสถานที่ที่มีความงดงามและเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ได้รับขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี1984 สร้างโดยชาวคริสต์ที่หลบหนีการเข่นฆ่าคนต่างศาสนาของทหารออตโตมัน และสร้างโบสถ์ไว้มากกว่า 30 แห่ง จนกลายเป็นศูนย์กลางสำนักสงฆ์เมื่อราวปี 300-1200 ภายในมีภาพวาดเฟรสโกบนผนังและเพดานภายในถ้ำที่ถูกวาดไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ช่างงดงามตราตรึงใจแก่ผู้มาเยือน
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร แวะชิม TURKISHICE CREAM MADO
พิเศษ!!!ให้ท่านได้ลิ้มลองไอศกรีมตุรกีต้นตำรับ ร้าน MADO เป็นร้านที่ติดอันดับ 1 ใน Trip Advisor ของไอศครีมตุรกีนั่นเอง
จากนั้น   นำท่าน ชมนครใต้ดินคาดัค (CardakUnderground City)เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู ในยามสงคราม ของชาวคัปปาโดเกียในอดีต โดยทั้งจากชาวอาหรับจากทางตะวันออกที่ต้องการเข้ามายึดครองดินแดนนี้เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการค้าและชาวโรมันจากทางตะวันตกด้วยเหตุผลเดียวกัน รวมทั้งต้องการที่จะหยุดยั้งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในดินแดนแถบนี้ด้วยเมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นถ่ายเทเย็นสบาย หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-18 องศาเซลเซียส และด้วยการออกแบบที่ดี มีทางออกฉุกเฉินที่เป็นทางระบายอากาศไปในตัว ทำให้อากาศถ่ายเท
จากนั้น  นำชม ชมโรงงานผลิต พรมทอมือ หัตถกรรมของชาวตุรกีที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีคุณภาพดี ลวดลายสวยงาม และมีราคาแพง หาซื้อได้ทั่วไป ลวดลายแตกต่างกันออกไปตามแหล่งที่ผลิต แต่ละท้องถิ่นจะมีสินค้าขึ้นชื่อของตนเองโดยเฉพาะ พรมที่มีราคาแพงจะทอด้วยขนสัตว์ มีชื่อเสียงมากที่สุดต้องเป็นของเมืองเฮเรเค (Hereke) พรมมี 2 แบบ ตามลักษณะความยาวของเส้นใบที่ใช้ทอคือ ฮาลี (Hali) เป็นพรมทั่วไป ที่นิยมขายกันอย่างแพร่หลาย ทำจากวัสดุ ทั้งขนสัตว์ ฝ้าย ไหม ระหว่างการทอเมื่อผูกปมแล้วจะตัดเส้นใยออก จะเหลือเพียงด้านเดียวที่มีขนปุยฟูขึ้นมา เป็นลวดลายตามที่ต้องการ อีกแบบคือ "คาลิม" (Kilim) ทอจากขนสัตว์ ฝ้าย และไหม ราคาถูกกว่าฮาลี ชนิดที่มีชื่อเสียงจะมาจากเมืองเฮเรเค
จากนั้น  ชมโรงงานเซรามิคและโรงงานจิวเวอรี่ อิสระเชิญท่านเลือกชมสินค้าตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเนฟเซไฮร์ (NEVSEHIR KAPADOKYA AIRPORT)
21.40 น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูลโดยเที่ยวบินที่TK 2009
23.05 น.  ถึงสนามบิน อิสตันบูล ISTANBUL INTERNATIONAL AIRPORT
หลังจากนั้นให้ท่านได้พักผ่อนระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องโดยมีร้านค้าปลอดภาษี แบรนด์สินค้าชั้นนำ เช่น HERMES, LOUIS VUITTON, GUCCI, PRADA และยังมีร้านอาหารต่างๆอีกมากมาย

วันที่แปด  สนามบินอิสตันบูล • สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

01.45 นออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ  โดยสายการบินสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 68
15.00 น.  เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม 

**สามารถตรวจสอบเที่ยวบิน และ เวลาบินได้ด้านท้ายตารางราคา**

*****Travel Around The World by Chic Journey*****
หมายเหตุ โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ การจราจร การล่าช้าของสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น  เพื่อความเหมาะ และความปลอดภัยในการเดินทาง บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ หัวหน้าทัวร์ผู้นำทัวร์ มีอำนาจตัดสินใจ ณ ขณะนั้นทั้งนี้การตัดสินใจ จะคำนึงถึงความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสำคัญ

** ก่อนตัดสินใจจองทัวร์ควรอ่านเงื่อนไขการเดินทางและรายการทัวร์อย่างละเอียดทุกหน้าอย่างถ่องแท้แล้วจึงมัดจำเพื่อประโยชน์ของท่านเอง ทางบริษัทฯจะถือว่า ท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆของบริษัทฯที่ได้ระบุในรายการทัวร์ทั้งหมด**

อัตราค่าบริการและเงื่อนไขรายการท่องเที่ยว

มหัศจรรย์...TURKEY บินตรงสู่อิสตันบูล
สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ 8 วัน 5 คืน (TK) พัก 5 ดาว ทุกคืน

วันเดินทาง

ไฟท์บิน

จำนวน

ผู้ใหญ่

เด็กไม่มีเตียง

พักเดี่ยว
(เพิ่ม)

30 ม.ค. – 06 ก.พ.66

TK65 BKK-IST 22.55-05.45
TK2009 NAV-IST 21.40-23.05
TK68 IST-BKK 01.45-15.00

31+1

41,999

40,999

8,000

03 – 10 ก.พ. 66

TK65 BKK-IST 22.55-05.45
TK2009 NAV-IST 21.40-23.05
TK68 IST-BKK 01.45-15.00

26+1

43,999

42,999

8,000

08 – 15 ก.พ. 66

TK65 BKK-IST 22.55-05.45
TK2009 NAV-IST 21.40-23.05
TK68 IST-BKK 01.45-15.00

31+1

40,999

39,999

8,000

23 ก.พ. – 02 มี.ค.66

TK69 BKK-IST 23.30-06.30
TK2009 NAV-IST 21.40-23.05
TK68 IST-BKK 01.45-15.00

26+1

42,999

41,999

8,000

02 – 09 มี.ค. 66

TK69 BKK-IST 23.30-06.30
TK2009 NAV-IST 21.40-23.05
TK68 IST-BKK 01.45-15.00

26+1

43,999

42,999

8,000

24 – 31 มี.ค. 66

TK69 BKK-IST 23.30-06.30
TK2009 NAV-IST 20.50-22.15
TK68 IST-BKK 01.45-15.25

26+1

43,999

42,999

8,000

**ราคา INFANT (อายุไม่ถึง 2 ปี บริบูรณ์ ณ วันเดินทางกลับ) ท่านละ 10,000 บาท

Visitors: 153,273