CRUISE-SH Diana 22ส.ค.-1ก.ย.68 แพคเกจล่องเรือสำราญเที่ยวเมดิเตอร์เรนียน โครเอเชีย ทะเลเอเดรียติก11 คืน สิงหาคม 2568: SWAN HELLENIC

รหัสสินค้า : CTX-TP001-SH DIANA-MEDITERRANEAN

ราคา

229,299.00 ฿


237,299.00 ฿

 (-3%)
จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 229,299.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

ล่องเรือ Expedition สุดหรูระดับ 5 ดาว SH Diana

เที่ยวเมดิเตอร์เรนียน เมืองลับชายฝั่งโครเอเชียและทะเลเอเดรียติก

เส้นทาง เส้นทาง Palermo, Sicily•Lipari,Sicily•Giardini Naxos (Taormina),Sicily•Gallipoli•Momopoli•Dubrovnik•Kotor•Split/Hvar•Rovinj•Venice

ราคาเริ่มต้น (ห้องInside) 6,780 USD

**โปรโมชั่นจองภายใน 20 พ.ย.67 ลดท่านละ 8,000 บาท

สายการบิน : ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน

รวม : ห้องพักบนเรือ 10 คืน , โรงแรม 1 คืน ,ภาษีท่าเรือ , อาหารและเครื่องดื่มทุกมื้อบนเรือ ,wifi , ค่าทิปบนเรือ,รถรับ – ส่ง (สนามบิน–โรงแรม–ท่าเรือ –สนามบิน),ทัวร์บนฝั่งพร้อมผู้บรรยายทัวร์ที่ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา,กิจกรรม ตามที่ระบุในตั๋วเรือ 

ไม่รวม : ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ,ค่าวีซ่าเชงเก้น,ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ,**ไม่มีหัวหน้าทัวร์ร่วมเดินทาง

>>ขอสงวนสิทธิ์หากเรือมีการปรับเปลี่ยนท่าเทียบเรือ ซึ่งทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าต่อไป ,โปรแกรมการท่องเที่ยว Shore Excursion ของเรือ อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการเข้าออกของตารางเดินทางเรือ

เดินทาง : 22สิงหาคม - 1 กันยายน 2568

วันแรกของการเดินทาง : กรุงเทพ ฯ – ปาแลร์โม

เมื่อเดินทางถึงสนามบิน ปาแลร์โมPALERMO (PMO) ประเทศอิตาลี พบกับเจ้าหน้าที่จากทางเรือ Swan Hellenic ขอนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก จากนั้นอิสระตามอัธยาศัย
เมืองปาแลร์โม เป็นเมืองหลวงของแคว้นซิซิลี ตั้งอยู่ทางตอนเหนือฝั่งตะวันตกของเกาะ ปาแลร์โมเป็นเหมือนศูนย์รวมวัฒนธรรมจากหลากหลายชาติมหาอำนาจที่หลงเหลือไว้ให้ผ่านสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน ตึกรามบ้านช่อง ล้วนแล้วแต่มีวัฒนกรรมผสมผสานลงตัวดูสวยงามแปลกตา สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของเมือง ได้แก่ Cappella Palatina โบสถ์ทองคำที่สร้างจากโมเสสทองคำหนักถึง 2200 กิโลกรัม โดยเฉพาะภาพด้านหน้าโบสถ์ที่เป็นภาพของพระคริสภาพใหญ่อยู่กลางโบสถ์ประดับประดาด้วยทองคำดูสวยงามดังต้องมนต์สะกด นอกจากนี้ยังมีมหาวิหารปาแลร์โม (Palermo Cathedrale) และโรงละคร Teatro Massimo ซึ่งเป็นโรงละครที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี เป็นต้น สำหรับสาย Food Lover ขอแนะนำตลาดที่คึกคักสุดๆ ของเมืองปาแลร์โม เช่น ตลาด Capo, Bollaro, Vucciria วัฒนธรรมการกินที่หลากหลาย โดยเฉพาะจากอาหรับผสมผสานกับอิตาเลียนพื้นเมือง ทำได้เมนูที่นักท่องเที่ยวต่างต้องมาชิมกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม ( ตามที่เรือจอง )

วันที่สองของการเดินทาง : เมืองปาแลร์โม , ซิซิลี (อิตาลี)  - ขึ้นเรือ SH DIANA

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเช็คอินขึ้น เรือสำราญ SH Diana
เรือ SH DIANA เป็นเรือบูติคสไตล์สแกนดิเนเวียนสุดหรูระดับ 5 ท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวและชมทิวทัศน์ตลอดการเดินทาง โดยตัวเรือได้รับการออกแบบเพื่อให้เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเรือที่มีขนาดใหญ่ ทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยความรื่นรมย์
หลังจากที่ขึ้นเรือมาแล้วนำท่านเก็บสัมภาระในห้องพัก ท่านสามารถเดินสำรวจส่วนต่างๆของเรือ และในวันนี้ทางเรือจะจัดกิจกรรมอธิบายกฏต่างๆ และซ้อมการเตรียมตัวในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ทุกท่านต้องเข้าร่วมในการฝึกซ้อมครั้งนี้ โดยท่านจะต้องใส่เสื้อชูชีพที่อยู่ในห้องพักของท่านแล้วไปที่จุดนัดพบตาม *เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยสากล ขอความร่วมมือทุกท่านปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด*
เส้นทางเมดิเตอร์เรเนียนนี้ประกอบไปด้วยเมืองลับ เมืองสวยที่หลายท่านยังไม่เคยมาเยือน ซึ่งทางเรือได้รวบรวมและจัดมาให้ ผสมผสานมาอย่างลงตัว
18.00 น. เรือสำราญ SWAN HELLENIC ออกเดินทางล่องเรือสำรวจทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารค่ำอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สามของการเดินทาง : เกาะลิปารี ซิซิลี (อิตาลี)

***เชิญรับประทานอาหารเช้า กลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
LIPARI ISLAND TOUR (4.00 Hrs.) : วันนี้ท่านจะได้เที่ยว ชมเกาะลีปารี ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะอีโอเลียน เมืองที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิด เต็มไปด้วยหินภูเขาไฟและหินออบซิเดียน เป็นเมืองท่าที่คึกคัก อาคารบ้านเรือนสีพาสเทลเรียงรายอยู่ริมท่าเรือพร้อมด้วยร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย มองเห็นป้อมปราการและปราสาทที่สร้างโดยชาวสเปนในศตวรรษที่ 16 เป็นที่ตั้งของโบราณวัตถุที่มีอายุนับพันปีและอาณาจักรในอดีตย้อนกลับไปได้ถึง 6,000 ปี จากนั้นแวะชมโบสถ์ San Bartolomeo โบสถ์เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในเมืองลีปารี
ภายในวันนี้ทางเรือจะล่องผ่าน Stromboli ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆของหมู่เกาะอีโอเลียน ในทะเลไทเรเนียน ชมภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1932
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

วันที่สี่ของการเดินทาง : GIARDINI NAXOS(TAORMINA), ซิซิลี (อิตาลี) 

***เชิญรับประทานอาหารเช้า กลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
เมืองนาซอส ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของซิซิลี เมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องชายหาดที่สวยงาม และมีซากโบราณสถาน วิหารอันศักดิ์สิทธิ์ในอดีต ซึ่งมีภูเขาเอตนาซึ่งเป็นแบคกราวด์แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
TAORMINA HIGHLIGHTS (4.15 Hrs.) : วันนี้ท่านจะได้เที่ยวชมเมือง Taormina ซึ่งเป็นเมืองที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี นำท่านชมโรงละครกรีกแห่งทาโอร์มิน่าสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาลมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมสร้างตามแบบกรีกโบราณ ท่านสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทะเลสีฟ้าสวยสดของทะเลไอโอเนียนได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันโรงละครแห่งนี้ยังมีการใช้งานในการจัดเทศกาลของเมือง จากนั้นนำท่านเดินเล่นที่ถนนคอร์โซ อัมเบอร์โต้ ถนนสายหลักกลางเมืองที่มีอาคารบ้านเรือนสไตล์ยุโรป เป็นแหล่งช้อปปิ้งสำคัญของเมือง ประกอบด้วยซอกซอยมีศิลปะซ่อนอยู่ทุกซอกมุม บ้างประดับประดาด้วยดอกไม้สีสันจัดจ้านแทรกซึมอยู่ตามอาคารบ้านเรือน มีร้านคาเฟ่ ร้านเบเกอรี่ ร้านขนมสัญชาติซิซิลี ชื่อคาโนลี่(Canoli) ร้านไอศกรีมเจลาโต กรานิต้า(Granita) ที่มีต้นกำเนิดที่ซิซิลี ร้านอาหารทะเล ร้านอาหารอิตาเลียน วิวบรรยากาศติดทะเลให้เลือกมากมายที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

วันที่ห้าของการเดินทาง :กัลลิโปลี

***เชิญรับประทานอาหารเช้า กลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
DISCOVER GALLIPOLI ON FOOT (2.30 Hrs.) : เกาะกัลลิโปลี เป็นหมู่บ้านชาวปะมง ค้นพบโดยชาวกรีกและต่อมาชาวโรมันได้ยึดครองในปี 266 ก่อนคริสตกาล ถือเป็นอัญมณีบนคาบสมุทรซาเลนไทน์ เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานในศตวรรษที่ 17 ให้ท่านได้เดินเล่นชมเสน่ห์ความสวยงามของเมืองเก่ามองไปทางไหนก็เห็นความสวยงามของทะเลไอโอเนียน  ย่านประวัติศาสตร์นี้มีโบสถ์อยู่มากมาย อาทิ โบสถ์เซนต์ฟรานซิสแห่งอัสซีซี ที่สร้างขึ้นในยุค 1200 มหาวิหารเซนต์อกาธาในศตวรรษที่ 17 ที่โดดเด่นด้วยสไตล์บาร็อคและพื้นที่ภายในที่วิจิตรงดงาม ภายในเกาะยังมีร้านค้า คาเฟ่ บาร์ริมทะเล ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

วันที่หก ของการเดินทาง :  เมืองโมโนโปลี

**เชิญรับประทานอาหารเช้า กลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
เมืองโมโนโปลี เมืองท่าของปูเกลียที่ผสมผสานประวัติศาสตร์กับการใช้ชีวิตในสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวเลื่องชื่อในเรื่องของโบสถ์ยุคกลางและปราสาทที่ยื่นสู่ทะเลเอเดรียติก นอกจากนี้ เมืองนี้ยังเป็นเมืองแห่งความฝันของจิตรกรด้วยเรือประมงสีฟ้าสดใสที่ตัดกับกำแพงที่มีสีขาวโพลน
ALBEROBELLO & COOUNTRYSIDE (5.30 Hrs.): วันนี้ท่านจะได้เที่ยวชม หมู่บ้านอัลเบโรเบลโล (Alberobello) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1996 หมู่บ้านอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี ซึ่งตั้งอยู่ใน แคว้นปูลยา (Puglia หรือ Apulia) ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี เป็นหมู่บ้านเล็กๆแต่กลับมีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ บ้านตรูลี (Trulli) บ้านทรงกรวยลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนใคร สร้างขึ้นจากก้อนหินปูนก้อนใหญ่ที่ตัดแต่งอย่างหยาบๆ ที่นำมาจากทุ่งในบริเวณใกล้เคียงมีหลังคาสีเทา โดยสร้างขึ้นด้วยวิธีการสร้างบ้านแบบโบราณที่เรียกว่า "dry stone" ซึ่งเป็นการก่อหินแต่ละก้อนค่อยๆ ไล่เรียงกันไปอย่างแข็งแรง และเข้าล็อกกันอย่างแน่นหนาตามธรรมชาติโดยไม่ต้องอาศัยปูนซีเมนต์ และอนุรักษ์เป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน จากนั้นชมบ้านชนบทที่มีวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น การหมักไวน์ การทำขนมปังมะกอก (Focaccia) เป็นต้น
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

วันที่เจ็ด ของการเดินทาง :  ดูบรอฟนิค (โครเอเชีย )

**เชิญรับประทานอาหารเช้า กลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
เมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) อยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย ติดกับทะเลอาเดรียติกเป็นเมืองเก่าที่มีความสวยงามมาก และยังได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1979 ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ทั้งเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคโบราณ ทั้งกอทิก เรอเนซองส์และบารอก มีกำแพงหินเป็นป้อมปราการล้อมรอบ รวมถึงผังเมืองสวยสมบูรณ์แบบ เป็นเมืองติดทะเลที่มีเสน่ห์จนถูกเลือกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญอย่าง ดินแดนของราชา King’s Landing ในซีรี่ส์ Game of Thrones
DUBROVNIK WALKING TOUR (3.00 Hrs.) : เรามีความภูมิใจขอนำท่านเดินเล่มชมเมืองเก่าดูบรอฟนิคมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ประกอบด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีหลังคาสีส้มสร้างอยู่หนาแน่นเต็มพื้นที่ ถนนแคบๆและตรอกซอกซอยที่เชื่อมทะลุถึงกันเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟ นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งให้ชม ดูบรอฟนิคมีแลนด์มาร์คที่คุณควรไปเช็คอินอยู่มากมายหลายจุด เช่น น้ำพุโบราณทรงกลม BIG ONOFRIO FOUNTAIN, วิหาร Franciscan Monastery,กำแพงเมือง, จุดถ่ายทำ เรื่อง Game of thrones, โบสถ์ Dominican เป็นต้น
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

วันที่แปด ของการเดินทาง :  เมืองกอเตอร์ (มอนเตเนโกร )

***เชิญรับประทานอาหารเช้า กลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
เมืองกอเตอร์ (Kotor) เมืองชายฝั่งทะเลแสนสวยอีกเมืองของประเทศมอนเตเนโกร ประเทศซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” โดยประเทศสาธารณรัฐมอนเตเนโกรนี้ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลเอเดรียติค ที่ประกอบไปด้วย ทะเลสาบน้ำเงินเข้มใส แม่น้ำใสไหลเชี่ยวและภูเขาสวยสง่า
KOTOR WALKING TOUR (1.30 Hrs.) : ชมความงดงามของ เมืองกอเตอร์ ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ.1979  เป็นเมืองที่สร้างภายในกำแพงสูง (City Wall) ซึ่งแบ่งตัวเมืองเป็น 2 ส่วนคือ เมืองเก่า (Old Town) และเมืองใหม่ (New Town) โดยกำแพงเมืองแห่งนี้สร้างโดยชาวเวนิส อีกทั้งสถาปัตยกรรมในเมืองส่วนใหญ่ยังได้รับอิทธิพลจากชาวเวนิสเช่นกัน นำท่านแวะถ่ายรูปกับ  โบสถ์เซ็นต์ไทรฟอน (Cathedral of Saint Tryphon) ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1166 ภายในตัวเมืองเก่า จากนั้นนำท่านชมพิพิธภัณฑ์ทางทะเล (Maritime Museum) ภายในพิพิธภัณฑ์มีสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจและได้จัดแสดงนิทรรศการจากสงครามโลก
เย็นนี้ เรือจะล่องผ่านปากอ่าวเมืองกอตอร์ ส่วนที่แคบที่สุด โดยที่ท่านสามารถมองเห็นโบสถ์และหมู่บ้านสไตล์บารอค หอระฆังที่เป็นสัญลักษณ์ เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามน่าประทับใจอีกวันหนึ่ง
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

วันที่เก้าของการเดินทาง : สปริท (โครเอเชีย) / เมือง Hvar

***เชิญรับประทานอาหารเช้า กลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
เมืองสปริท เมืองท่องเที่ยวริมทะเลเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองซาเกรบในประเทศโครเอเชียเป็นเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่านและมีชีวิตชีวาเนื่องจากเป็นท่าเรือที่มีเรือสำราญมาแวะเวียนอย่างไม่ขาด เพราะความสดใสอากาศแบบเมอร์ดิเตอเรเนียนได้บรรยากาศของการพักผ่อนและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นเมืองทันสมัย เป็นศูนย์กลางการศึกษา โดยรวมอันดีเยี่ยมของเมืองนี้
SPLIT & ANCIENT SALONA (4.00 Hrs.) : เที่ยวชมห้องใต้ดินของพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน Diocletian Palace สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเธี่ยน แห่งโรมัน เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4 ซึ่งต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ภายในพระราชวังประกอบด้วย วิหารจูปิเตอร์ (Catacombes) สุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียงและวิหารต่างๆ ห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ลาน Peristyle ซึ่งล้อมด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้านและเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม ยอดระฆังแห่งวิหาร (The Cathedral Belfry) แท่นบูชาของเซนต์โดมินัสและเซนต์สตาดิอุส ซึ่งอยู่ภายในวิหาร องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 นอกจากนี้เมืองสปริทยังมีมหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์, โบสถ์แห่งเทพวีนัส, วิหารดอมนิอุส ที่จัดเรียงรายรวมกันอย่างลงตัว มหาวิหารเซนต์ดูช St. Duje Cathedral ซึ่งมีหอระฆังที่สวยงามและยังเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองสปริท

**เมือง Hvar ตั้งอยู่บนหมู่เกาะที่มีชื่อเดียวกันนี้ภายในทะเลอะเดรียตริคที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เพราะนอกจากความบริสุทธิ์ของธรรมชาติภายในเกาะแล้ว ความโดดเด่นของเกาะที่เต็มไปด้วยเทือกเขา ความเขียวขจีของต้นไม้ ไร่องุ่น และทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยสดราวกับปูพรมสีม่วงกระจัดกระจายอยู่ทั่วเกาะ และยังเป็นแหล่งผลิตอาหารให้กับเมืองในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่น น้ำมันมะกอก ไวน์ ผลิตภัณฑ์ลาเวนเดอร์ เป็นต้น
**เมือง Hvar ทางเรือไม่ได้รวมรายการทัวร์บนฝั่ง ท่านสามารถเลือกซื้อทัวร์กับทางเรือ หรือพักผ่อนตามอัธยาศัย
รายการทัวร์ที่ท่านสามารถเลือกซื้อจากทางเรือ มีดังนี้
-      KAYAKING PAKLENI ISLANDS(03.45 hrs.)
-      HVAR WALKING TOUR (02.30hrs.)
-      HVAR BIKING ADVENTURE (04.30hrs.)
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

วันที่สิบของการเดินทาง :  เมืองโรวินจ์ (โครเอเชีย)

**เชิญรับประทานอาหารเช้า กลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
เมืองโรวินจ์ เป็นเมืองชายฝั่งอันงดงามที่ตั้งอยู่ในคาบสมุทรอีสเตรียของประเทศโครเอเชีย ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยเวเนเชี่ยน และอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลีมาก่อน ทำให้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของเมืองนี้มีความคล้ายคลึงกับอิตาลีเป็นอย่างมาก จึงได้สมญาว่า "เวนิสแห่งโครเอเชีย" เป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ ถนนที่ปูด้วยหินแคบๆ อาคารสีสันสดใส และท่าเรือที่มีชีวิตชีวา สถาปัตยกรรมสะท้อนอิทธิพลของเมืองเวนิสด้วยกำแพงยุคกลาง ไม่เพียงแค่ย่านเมืองเก่าที่มีความงดงาม
HISTORIC ROVINJ & ANCIENT PULA (5.00 Hrs.) : ชมโบสถ์เซนต์ยูเฟเมีย (St.Euphemia) แลนมาร์คสำคัญของเมืองแห่งนี้ หนึ่งในสถาปัตยกรรมสไตล์ บารอคตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นสถานที่สำคัญและโดดเด่นที่สุดในโรวินจ์, โรงละครโรมันกลางแจ้ง จากนั้นเดินเล่นที่เมืองปูลา เมืองสำคัญด้านการค้า และมีอู่ต่อเรือสำคัญของโครเอเชียอยู่ที่นี่ ที่มีความผสมผสานความหรูและความวินเทจไว้ด้วยกันเมืองนี้เต็มไปด้วยร้านกาแฟเก๋ๆ และร้านอาหารชิคๆ มากมาย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

วันที่สิบเอ็ดของการเดินทาง :  เมืองเวนีซ (อิตาลี)

***เชิญรับประทานอาหารเช้า กลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
เมืองเวนีซ เมืองโรแมนติก ที่ท่านจะได้ชื่นชมกับงานศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมที่งดงามและสัมผัสกลิ่นไอธรรมชาติ อันแสนบริสุทธิ์จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยเฉพาะความเป็นเอกลักษณ์ที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใครนั่นคือ หมู่เกาะเล็กเกาะน้อยที่เชื่อมกันด้วยสะพานเกือบ 400 สะพาน อดีตเมืองท่าอันสำคัญที่ซึ่งมาร์โคโปโล มาบุกเบิกและเผยแพร่วัฒนธรรมตะวันออก สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำ อาทิ มหาวิหารเซ็นต์มาร์ค โบราณสถานอันเก่าแก่ล้ำค่าของเมืองนี้ ซึ่งสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ภายในประดับด้วยหินอ่อนและโมเสคทองสลักเสลางดงามนับล้าน ๆ ชิ้น ดอจพาเลซ (DOGE PALACE)  ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นวังของดยุคผู้ครองเวนีซ สร้างในราวศตวรรษที่ 15 ท่านจะเห็นรูปปั้นหินอ่อนมากมาย ประดับอยู่ทั้งภายในและภายนอก เพดานที่ตกแต่งด้วยจิตรกรรมภาพวาดอันงดงามและในบางส่วนก็ประดับประดาด้วยทองคำแท้ แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเวนีซในอดีต ภาพวาดฝีมือจิตรกรชาวเวนิชอันเลื่องชื่อ ห้องประชุม ห้องพิพากษาและพิพิธภัณฑ์ อาวุธสงครามโบราณ เสื้อเกราะ อันน่าสนใจยิ่ง
วันนี้ทุกท่านอิสระกับการชมเมือง เดินเล่นหรือช้อปปิ้ง ตามอัธยาศัย
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

วันที่สิบสองของการเดินทาง :  เมืองเวนีซ (อิตาลี)

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังรับประทานอาหารเช้า เชิญท่านอิสระตามอัธยาศัย ***รอเจ้าหน้าที่จากทางเรือประกาศแจ้งเรื่อง Transfer จากทางเรือเพื่อนำท่านไปสนามบิน พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระของท่าน
เชิญท่านอิสระตามอัธยาศัย หรือเดินทางกลับกรุงเทพฯ

Saving Fare: Rate in USD per person based on double occupancy
(11 Days / 10Nights)

ห้องมีหน้าต่าง(Ocean View)

ห้องมีระเบียง (Balcony)

Junior Suite

$ 6,780

$ 8,880

$ 12,380

Visitors: 153,796