สายมูสิงคโปร์

1.วัดซัมบาวัง (Sembawang God of Wealth Temple)

 “ไฉ่ ซึ้ง เอี้ย” หรือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนทั่วโลกให้ความนับถือ ที่วัดซัมบาวังแห่งนี้มีเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนหลังคา ตัวองค์เทพเจ้าเป็นสีทอง มีความสูงถึง 9.44 เมตร และหนักถึง 8 ตัน

เด่นดัง: ขอพรโชคลาภ การงาน ค้าขายรุ่งเรือง

2. วัดเยี่ยไห่ชิง (Yueh Hai Ching Temple)

 วัดลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1850-1855  วัดนี้มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรความรัก ่จึงเป็นที่รู้จักในชื่อ “The Love Temple”  ภายในวัดจะแยกเป็น 2 ส่วน ด้านซ้ายเป็นศาลาสำหรับบูชาเทพหม่าโจ่ว หรือเทพเจ้าแห่งท้องทะเล  ส่วนด้านขวาเป็นศาลาสำหรับบูชาเทพเจ้าเซวียนเทียนซังตี้ หรือเทพบิดาแห่งสรวงสวรรค์ นอกจากนั้นยังมีเทพหลักสององค์แล้ว ยังมีเทพองค์อื่น ๆ ที่เป็นที่นิยมในการสักการะบูชา โดยเฉพาะการคล้องด้ายแดงกับเฒ่าจันทรา  “Elder of Moon” ซึ่งเชื่อว่าจะให้พรด้านคู่ครองและความรัก รวมถึงเทพเจ้าเกี่ยวกับการขอบุตร และเทพที่ให้พรด้านการศึกษาอีกด้วย 

เป็นที่น่าสังเกตุว่าในวัดจะมีศาลเจ้า 2 ห้องสร้างเหมือนกันเหมือนเป็นคู่แฝดหรือคู่รักเลย จุดสังเกตุอีกอย่างคือในวัดจะมีชุดกระดาษสีเป็นชุดแต่งงานของผู้ชายและผู้หญิงแขวนอยู่เป็นคู่ 

เด่น ดัง: ความรัก การขอบุตร ความสำเร็จทางการศึกษา

เคล็ดลับวิธีไหว้ *รับธูปจากจุดด้านใน ไหว้ 3 จุดจากด้านนอก

****วิธีการไหว้ขอพร : จุดธูปทั้ง 9 ดอก ทีเดียวเลย*** 

ธูป 3 ดอก : ขอเรื่องการงานหรือการศึกษา 

ธูป 3 ดอก : ขอเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย 

ธูป 3 ดอก : ขอเรื่องความรักและขอบุตรขอลูก

**รับเครื่องไหว้/ทำบุญตามศรัทธา นำด้ายสีแดงไปคล้องไว้ที่องค์เทพเจ้า "Elder of Moon" และให้นำเงินใส่ซองไว้ที่ฐานองค์เทพเจ้าหลังจากนั้นขอพร หรือเนื้อคู่

**เวลาขอระบุลักษณะให้ชัดไปเลย ว่าต้องการคู่ครองแบบใด สูง ขาว อายุ ฯลฯ ขอให้เจอภายในกี่วัน หากสำเร็จ ห้ามลืมกลับไปขอบคุณท่านด้วย

3.วัดเซียน จู่ กง (Xian Zu Gong Temple)

วัดเซียน จู่ กง เป็นวัดจีนลัทธิเต๋าที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1867 โดยชุมชนพ่อค้าชาวจีนฮกเกี้ยน เพื่อถวายแด่เทพเจ้าตั่วแป๊ะกง หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ  และยังช่วยปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัย

เด่นดัง: โชคลาภ ความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดจากภยันตราย

4. วัดเจ้าแม่กวนอิม จูเจี่ย (Kuan Im Tng Temple, Joo Chiat) 

วัดเจ้าแม่กวนอิม ย่านจูเชียต เป็นหนึ่งในสองวัดที่มีองค์เจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้าแห่งความเมตตา ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสิงคโปร์ ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระจุณทีโพธิสัตว์ อันเป็นปางหนึ่งของเจ้าแม่กวนอิม มีความศักดิ์สิทธิ์ด้านขอพรเรื่องความรัก นอกจากความสวยงามของภาพวาดแกะสลักแบบจีนที่มีสีสันงดงามตระการตาแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีความพิเศษตรงที่ได้หลอมรวมพุทธศาสนา ลัทธิเต๋า และลัทธิขงจื๊อ เข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม

 เด่น ดัง: ขอพร เรื่องความรัก

5. วัดตันสิชงชู (Tan Si Chong Su Temple)

วัดจีนฮกเกี้ยนโบราณ สร้างขึ้นโดยชาวจีนตระกูลตันที่อพยพมาช่วงปี ค.ศ. 1876-1878 เพื่อกราบไหว้บรรพบุรุษ ชื่อ “ตันสิชงชู”  “สถานที่บูชาบรรพบุรุษตระกูลตัน” ที่นี่ มีสถาปัตยกรรมตามแบบภาคใต้ของจีน ผู้คนที่มาเยี่ยมเยือนวัดนี้ จะต้องมาขอพรที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณวัดที่เชื่อว่าให้พรด้านโชคลาภ และความรุ่งเรือง 

เด่น ดัง: ขอพรโชคลาภ ค้าขาย ความรุ่งเรือง 
  

6. วัดโลยังตั่วแปะกง Loyang Tua Pek Kong Temple

ขอพรเรื่องโชคลาภและการแก้ชง เป็นวัดใหม่ทีมีกําแพงอิฐและหลังคามุงกระเบื้อง ถูกสร้างในปี2000 เป็นหนึ่งในวัดไม่กี่แห่งในสิงคโปร์ที่มีเทพเจ้าฮินดูบูชาควบคู่ไปกับเทพเจ้าจีน เช่น องค์พระพิฆเนศร์  สะท้อนถึงความสามัคคีทางศาสนา วัดนี้ยังเปิดให้สวดมนต์ตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย 

เทพเจ้าหลักที่นี่คือ องค์ตั่วปัก ตามตำนานท่องถิ่น วัดนี้เริ่มต้นจากคนเก็บกล่องกระดาษพบองค์แปะกง ถูกทิ้งไว้จึงนำมาบูชาและทำศาลเจ้าเล็กๆ ที่ทำจากกล่องกระดาษที่เก็บมาได้ จากนั้นคนเก็บกล่องได้โชคจากเลขข้างกล่องเป็นจำนวนเงินมหาศาล จึงสร้างวัดนี้ให้ใหญ่อลังการเพื่อตอบแทนองค์แปะกง วันนี้จึงมีชื่อเสียงเรื่อง Lucky Number อย่างมากในสิงคโปร์

เด่น ดัง: แก้ชง และขอพรโชคลาภ ลาภลอย ทั้งจากการค้าและเสี่ยงโชค 

แนะนำวิธีไหว้

การไหว้องค์เทพเจ้า ให้ไหว้เดินวนตามหมายเลขบนป้าย เมื่อไหว้ในวัดครบทุกจุดแล้วก็ออกมาจุดธูปขด แล้วแขวนไว้ที่ลานวัด คนที่นี่เชื่อว่าคำอธิษฐานจะส่งไปถึงเทพเจ้าบนสวรรค์เพราะธูปยาวจะอยู่ได้นานกว่าธูปธรรมดา

7 .วัดพระเขี้ยวแก้ว (The Buddha Tooth Relic Temple and Museum)

วัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นวัดขนาดใหญ่ อาคารสีแดงสด ตั้งอยู่ใจกลางไชน่าทาวน์ และถือเป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ วัดแห่งนี้มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม ซึ่งออกแบบตามสมัยราชวงศ์ถัง ทำหน้าที่เป็นทั้งศาสนสถานและพิพิธภัณฑ์ ด้านบนมีสวนดอกไม้ และระฆังใหญ่ ภายในวัดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งก็คือพระทนต์ของพระพุทธเจ้า จึงเป็นที่มาของชื่อ “วัดพระเขี้ยวแก้ว” ความงดงามศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้เอง ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาไหว้พระขอพรเพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเอง แก้ดวงปีชง และขอพรจากเทพเจ้าประจำปีเกิดให้คุ้มครองจากภยันตรายทั้งหลาย

เด่น ดัง: ความเป็นสิริมงคล แก้ปีชง

8. วัดเทียนฮกเก๋ง (Thian Hock Keng Temple)

วัดเทียนฮกเก๋ง  ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1839 ถือเป็นวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ มีความหมายว่าวัดแห่งความสุข สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพหม่าโจ่ว หรือเจ้าแม่ทับทิม ผู้เป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเล  นปัจจุบัน วัดเทียนฮกเก๋งมีชื่อเสียงเรื่องการขอบุตร และความสงบสุข ชีวิตคู่ที่ยั่งยืนและราบรื่น นอกจากนี้ ผู้ที่แวะมาเยี่ยมเยือนยังจะได้พบกับสถาปัตยกรรมอันงดงามอลังการในสไตล์ศิลปะจีนทางตอนใต้แบบดั้งเดิม โดยหนึ่งในความพิเศษก็คือ ไม่มีการใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียวในการก่อสร้างวัดในครั้งแรก

เด่นดัง: ความรัก คู่ครอง การขอบุตร
 

9. วัดเจ้าแม่กวนอิมท้งฮุดโจ้ว (Kwan Im Thong Hood Cho)

วัดเจ้าแม่กวนอิมท้งฮุดโจ้ว เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ขอพรสิ่งใดก็มักได้ตามที่ปรารถนา ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จด้านการงาน หรือขอพรให้สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว แต่ที่โด่งดังที่สุดคือการเสี่ยงเซียมซีที่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม่นมากจ้า! ทำให้ที่นี่มีผู้คนที่เดินทางมาสักการะบูชาเจ้าแม่กวนอิมอย่างเนืองแน่นอยู่เกือบตลอดเวลา

เด่น ดัง: การงาน สุขภาพ

10. วัดศรีมาริอัมมัน (Sri Mariamman Temple)

วัดศรีมาริอัมมันเป็นศาสนสถานฮินดูเก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ สร้างขึ้นเมื่อราวปี ค.ศ. 1827 โดยชาวอินเดียเพื่อถวายแด่เจ้าแม่มาริอัมมัน ซึ่งเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านการปกปักษ์คุ้มครองให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงรักษาโรคระบาด และอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ  วัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมแบบดราวิเดียน ตัววัดประดับตกแต่งด้วยรูปปั้นเทพเจ้าในศาสนาฮินดู และสัตว์ในตำนานมากมาย สีสันสวยงามสะดุดตา 

เด่น ดัง: สุขภาพ