ข้อมูลเรือสำราญ Ovation Of The Seas

#เรือสำราญ Ovation Of The Seas 
สัมผัสประสบการณ์ เรือแห่งนวัตกรรมสุดทันสมัย หนึ่งในเรือสำราญ กลุ่ม Quantum Class ของตระกูล Royal Caribbean International ซึ่งได้ออกมาเมือปี 2016 มาพร้อมระวางขับน้ำ 168,666 ตัน สามารถจุผู้โดยสารได้จำนวน 4,905 คน และลูกเรือกว่า 1,500 คน มีห้องพักแบบต่างๆจำนวน 2,901 ห้อง มีทั้งหมด 18 ชั้น เป็นพื้นที่ใช้งานสำหรับแขกทั้งหมด 16 ชั้น มีลิฟต์ให้บริการ 16 ตัวเป็นเรือที่โดดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัย เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย เดินทางได้ทั้งครอบครัว พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดทันสมัย และกิจกรรมหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมแนว Adventure ที่น่าตื่นเต้น ท้าทาย หรือ กิจกรรมสบาย สบาย ชิวล์...ชิวล์....พิเศษสุดๆสำหรับห้องพักบนเรือลำนี้คือ ทุกห้องจะมีวิวทิวทัศน์ของท้องมหาสมุทร แม้กระทั่งห้องแบบไม่มีหน้าต่าง เพราะห้องไม่มีหน้าต่างบนเรือลำนี้จะนำเสนอ Virtual Balconies ผ่านทางจอสกรีน HD ขนาด 80 นิ้ว

ส่วนบริการห้องพักบนเรือ

รอยัล แคริบเบียน อินเตอร์เนชั่นแนล ได้พาเรือสำราญ Quantum Class ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการออกแบบห้องพักบนเรือสำราญ รอยัล แคริบเบียน ได้เปิดตัวห้องพักที่กว้างขวางและล้ำสมัยที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาโดยการออกแบบคำนึงถึงความสะดวกสบายของแขกเป็นใจกลางอยู่เสมอมา ห้องพักบนเรือสำราญ Quantum Class นั้นมีสัดส่วนกว้างขวางกว่าห้องพักบน Oasis Class ถึง 9% โดยเฉลี่ย พร้อมกับประเภทห้องพักที่หลากหลายที่สุดในบรรดาเรือสำราญด้วยกันเพื่อให้ตรงกับความต้องการอันหลากหลายของความต้องการของแขกที่เข้าพัก

พื้นที่ในส่วนของห้องพักบนเรือทั้งหมด 9 ชั้น มีห้องพักจำนวน 2,091 ห้องโดยมี 4 ประเภทหลัก
-ห้อง Interior with Virtual Balcony : ห้องไม่มีหน้าต่าง พร้อมวิวระเบียงเสมือนจริง สามารถพักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 16 ตารางเมตร มีประมาณ 375 ห้อง
ทุกห้องจะมีวิวทิวทัศน์ของระเบียงทะเลและเมืองท่าใหม่ๆในแต่ละวันแบบเรียลไทม์ช่วยให้แขกได้ใกล้ชิดกับท้องทะเลและสถานที่ท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
-ห้อง Oceanview : ห้องมีหน้าต่าง เป็นห้องพักที่จะมีหน้าต่างมองเห็นข้างนอกลำเรือได้ เราจะสามารถเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน แต่ว่าหน้าต่างนั้นจะเปิดออกมาไม่ได้ พักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 17 ตารางเมตร - 17 ตารางเมตร มีประมาณ 148 ห้อง
-ห้อง Ocean View Balcony : ห้องมีระเบียง เป็นห้องที่มีระเบียงสามารถเดินออกมาสูดลมทะเลภายนอกห้องได้ พักได้สูงสุด 4 ท่าน ความกว้างภายในห้องมีขนาด 19 ตารางเมตร และความกว้างพื้นที่ระเบียงมีความกว้าง 5 ตารางเมตร มีประมาณ 1,572 ห้อง ซึ่งห้องประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงสุด
-ห้อง Suite : ห้องสวีท ซึ่งมีแยกย่อยเป็นอีกหลายประเภท สำหรับห้องจูเนียร์สวีทจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 ประเภท โดยในบางประเภทห้องจะมีการแยกห้องอาบน้ำออกมาและตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศจากสปา,ห้องแฟมิลี่จูเนียร์สวีท หรือ ห้องลอฟท์สวีท ก็ได้มีการออกแบบให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นตั้งอยู่ทางด้านท้ายเรือเพื่อให้รับชมทัศนียภาพของท้องทะเลได้อย่างเต็มอิ่ม
นอกจากนี้ยังมีห้องพักแบบ Family-Connected Stateroom สำหรับครอบครัวใหญ่หลากหลายช่วงอายุ และ ได้มีการเปิดตัวห้องพักแบบ Studio Stateroom ขึ้นเป็นครั้งแรกสำหรับเรือ Quantum Class โดยมีทั้งแบบไม่มีระเบียง และมีระเบียง ซึ่งห้องประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเดินทางแบบเดี่ยวเป็นที่สุด
สำหรับคอนเซปต์ดีไซน์ห้องพัก ในทุกประเภทห้องจะมาพร้อมกับตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของที่กว้างมากขึ้น จุได้มากขึ้น และใช้งานได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ด้วยสีพื้นหลังที่ให้ความสวยงามตามธรรมชาติที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องทะเล รายละเอียดภายในห้องพักแอบแฝงไปด้วยปรัชญา เรียบง่าย หรูหรา มีUSB และเฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังค์ชั่นเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของแขกได้ครอบคลุมมากขึ้น ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน

ตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมไฮไลท์
Royal Caribbean International เผยเทคโนโลยีและความล้ำสมัยของเรือสำราญลำใหม่ Ovation of the Seas เรือสำราญอัจฉริยะลำแรกของโลกที่มาเปลี่ยนรูปแบบการล่องเรือสำราญจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งได้จัดเตรียมความสนุกมายมายไว้ให้ท่านได้เพลิดเพลินตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเรือสำราญ
- Ripcord by iFLY : ประสบการณ์ดิ่งผสุธากลางท้องมหาสมุทร ที่จะให้ทุกคนได้ทดลองสนุกสนานและตื่นเต้นสุดขั้วไปกับบรรยากาศดิ่งผสุธาจำลองภายใต้บรรยากาศจำลองที่ควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ โดยเริ่มด้วยการเข้าไปในหอแก้วใสสูง 23 ฟุต โดยแขกของ รอยัล แคริบเบียน จะเริ่มต้นล่องลอยอยู่กลางอากาศท่ามกลางทิวทัศน์ของท้องมหาสมุทรอันแสนตื่นตะลึง
โดยก่อนที่จะเริ่มต้นโบยบิน แขกทุกคนจะต้องลงทะเบียนและเข้าร่วมคอร์สเทรนนิ่งก่อน โดยจะทำการฉายวีดีทัศน์ถึงตำแหน่งและท่าทางที่ถูกต้องระหวางการเล่น สัญญาณมือและความหมายจากผู้ฝึกสอน ก่อนที่จะสวมชุดและอุปกรณ์ ได้แก่ ชุดสูทสำหรับการบิน, แว่นตา และหมวกกันน็อค และเริ่มต้นเดินเข้าสู่เครื่องเล่นพร้อมผู้ฝึกสอน ก่อนที่จะเริ่มเล่นกิจกรรมไปพร้อมๆกัน ก่อนที่ผู้ฝึกสอนจะเปิดโอกาสให้แขกได้ทดลองเล่นในแบบฟรีสไตล์ของตนเอง นอกจากนี้ยังมีบริการเก็บภาพและวีดีโอไว้จำหน่ายเป็นที่ระลึกด้วย
**เครื่องเล่น RipCord by iFly นี้ตั้งอยู่บนชั้น 16 โซน Sports Court ทางด้านท้ายเรือ โดยต้องจองรอบเพื่อเล่น
- North Star : หนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดของเรือสำราญQuantum Class ซึ่งเครื่องเล่นนอร์ธสตาร์นี้จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับท่าน ซึ่งครั้งหนึ่งในชีวิตกับการขึ้นไปบนแคปซูลกระจก ล่องลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า 300 ฟุต หรือ 92 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลและยื่นออกนอกตัวเรือ ให้ได้ตื่นตะลึงไปกับทัศนียภาพ 360 องศาของท้องมหาสมุทรโดยท่านจะได้ใช้เวลารวม 15 นาทีที่จะได้ตื่นเต้นไปกับทัศนียภาพที่ได้เห็น โดยจะเปิดให้ใช้บริการทั้งในวันที่ล่องอยู่กลางทะเลหรือแวะเทียบท่า
**เครื่องเล่น North Star นี้ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าบนสุดของเรือ ชั้น 16 เรือ โดยต้องจองรอบเพื่อเล่น
-Bionic Bar : บาร์โฉมใหม่ บริเวณชั้น 5 ที่ออกแบบโดยให้หุ่นยนต์คือศูนย์กลางของเวที ท่านสามารถสั่งเครื่องดื่มผ่านเครื่องแท็บเล็ต โดยเลือกเมนูเครื่องดื่มที่ต้องการ เลือกมิกซ์เครื่องดื่มเองได้ จากนั้นกดคอนเฟิร์ม แล้วหุ่นยนต์อัจฉริยะก็จะเริ่มชงเครื่องดื่มให้ทันทีพร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มตามแบบที่เลือก ซึ่งเจ้าโรบอทบาร์เทนเดอร์ นี้สามารถผสมเครื่องดื่มได้นาทีละ 2 แก้ว ให้ท่านได้สั่งจนเพลินเลยทีเดียวจ้า

ขอบคุณเครดิตภาพ Royal Caribbean Cruises

- TWO70 : Ovation of The Seas เรือสำราญ Quantum Class เรือสำราญที่ก้าวล้ำทันสมัยที่สุดในโลก นำเสนอสถานที่แห่งใหม่บนเรือสำราญชื่อ Two70 ตั้งอยู่ชั้น 5 และ 6 บริเวณ ท้ายเรือ มาพร้อมกับทิวทัศน์พาโนราม่าแบบ 270° ที่มีกำแพงกระจกขนาดมหึมาสูงถึง 3 ชั้นทางด้านตอนท้ายเรือ สถานบันเทิงบนเรือแห่งนี้มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่จะนำพาท่านเดินทางไปพร้อมความตื่นตาตื่นใจทั้งกลางวันและกลางคืน
เมื่อท่านย่างก้าวเข้าสู่ Two70 เสมือนว่าท่านก้าวเข้าสู่ศูนย์กลางของทัศนียภาพที่ตื่นตาตื่นใจเท่าที่จินตนาการได้ กำแพงกระจกแก้วที่สูงตระหง่านแสดงให้เห็นถึงขีดสุดของการปฏิวัติการออกแบบ ให้ท่านได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันโอ่โถงของท้องมหาสมุทรและเมืองท่าอันน่าอัศจรรย์ โดยทุกที่นั่งภายในสถานที่แห่งนี้คือตำแหน่งที่ดีที่สุดในการรับชมวิวภายในเลาจ์นอันกว้างขวางโอ่โถง จะมีโต๊ะและที่นั่งตั้งกระจายอยู่ทั่วภายในเลาจ์น ท่านสามารถนั่งเอนกายผ่อนคลายได้อย่างสบายในเวลากลางวันดื่มด่ำกับทัศนียภาพ หรือรับประทานอาหารในบรรยากาศสบายๆเป็นกันเองที่ The Café @ Two70° สำหรับผู้ที่มองหากิจกรรมสามารถขึ้นไปบนชั้น 2 ได้ซึ่งมีห้องสมุดและกิจกรรมเวิร์คช้อปต่างๆมากมาย อาทิ คลาสเลคเชอร์, การสาธิตต่างๆ และกิจกรรมทางศิลปะอื่นๆ
และในช่วงค่ำ Two70 จะเปลี่ยนโฉมกลายเป็นสถานที่แสดงโชว์สุดอลังกาลผ่านเทคโนโลยีอันเหนือชั้น ทั้งระบบ แสง สี เสียง ครบเต็มรูปแบบ พร้อมด้วยสิ่งที่โลกแทบไม่เคยได้เห็นมาก่อนอย่าง การแสดงของแขนหุ่นยนต์พร้อมจอภาพ LED 100 นิ้ว ที่มาจะมาแสดงการแสดงอันน่าตื่นตะลึงที่ภาพและวีดีโอจะกระโดดจากจอหนึ่งสู่อีกจอหนึ่ง พร้อมระบบ แสง สี ที่สาดส่องวาววับอยู่ภายในห้อง 
-SeaPlex : ลานกิจกรรมอินดอร์ที่ใหญ่ที่สุดกลางท้องทะเล ชั้น 15 บริเวณท้ายเรือ เป็นสถานที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นได้ทั้งลานกีฬา, สถานที่จัดแสดงเอนเตอร์เทนเมนท์ต่างๆ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ที่จะมาปลดปล่อยความเป็นตัวตนจากแขกทุกเพศทุกวัย และกระตุ้นความสนุกสนานออกมา ลาน SeaPlex นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่จะพาแขกออกผจญภัยทั้งกลางวันกลางคืน และกิจกรรมต่างๆหลากหลายระหว่างการล่องเรือ อาทิ รถบั๊มพ์, โรงเรียนละครสัตว์ สอนกายกรรมและโรลเลอร์สเก็ต รวมถึงกีฬาที่สามารถเล่นกันเป็นทีมได้อย่างเช่น บาสเก็ตบอล, ฟุตบอล, วอลเล่ย์บอล ,แบดมินตัน ปิงปอง, แอร์ฮ็อคกี้ และตู้เกมส์อื่นๆมากมาย

ใกล้ๆกันกับลาน SeaPlex เป็น Sports Court ที่มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกสนานเพลิดเพลินอีกหลากหลาย อาทิ Rock Climbing Wall ทดสอบความแข็งแรงกับกิจกรรมปีนหน้าผาจำลอง, FlowRider Surf Simulator เครื่องเล่นเซิร์ฟซิมูเลเตอร์ ไอคอนที่เป็น ไฮไลท์ของสายเรือสำราญ Royal Caribbean เป็นต้น 
-Music Hall : ฮอลล์สำหรับจัดการแสดงและจัดแสดงดนตรีสด บริเวณชั้น 3 และ ชั้น4 ให้ท่านได้ปลดปล่อยและเพลิดเพลินไปอย่างใกล้ชิดและพิเศษสุดกับการแสดงต่างๆ ดีเจ ธีมไนท์ปาร์ตี้ ดนตรีสด คอนเสิร์ต และอื่นๆอีกมากมาย ด้วยการออกแบบมาเป็นพิเศษ ในช่วงเวลากลางวันจะจัดเป็นกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ คลาสสอนเต้นรำ และเวิร์คช้อปต่างๆ ขณะที่ในยามค่ำคืน Music Hall จะกลายเป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งบนเรือที่เคล้าเสียงดนตรีอยู่ตลอดเวลา ด้วยการดีไซน์ออกแบบอันแปลกแหวกแนวและได้รับแรงบันดาลใจมาจากจิตวิญญาณแห่งร็อคแอนด์โรลล์ การตกแต่งเน้นไปทางโทนสีเข้มและสัมผัสแห่งเครื่องหนังและกระจก ผนังกำแพงที่เรืองแสงจากหลอดไฟ LED ผ้าม่านยาวจากผ้ากำมะหยี่สีแดงประดับด้วยโซ่และพู่ เฟอร์นิเจอร์ภายในออกแบบในสไตล์บาร็อคช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจภายในห้อง บริเวณด้านบนใจกลางห้องคือโคมไฟระย้าส่องแสงประกายเป็นศูนย์กลางของห้องอย่างแท้จริง และเพื่อให้เข้าถึงบรรยากาศของดนตรีสด Music Hall ออกแบบมาโดยไม่ให้มีสิ่งใดบดบังบริเวณเวทีหลัก สร้างมุมมองที่ดีได้จากทุกจุดทุกพื้นที่ รวมถึงบริเวณระเบียงบนชั้นลอย ห้อง Music Hall เปิดให้บริการทุกวันและมีเคาท์เตอร์บาร์ให้บริการ 2 บาร์แยกชั้นละ 1 บาร์ บริเวณชั้นบนมีโต๊ะพูลปรับระดับอัตโนมัติไว้ให้บริการทุกค่ำคืน

ขอบคุณเครดิตภาพ Royal Caribbean Cruises
นอกจากนี้บนเรือสำราญOvation Of The Seas ยังมีกิจกรรมและส่วนบริการอื่นๆอีกมากมาย เช่น
-DreamWorks :จะมีตัวการ์ตูนมาเดินโชว์เป็นเวลา เช่น ตัวละครจากเรื่องกังฟูแพนด้า เป็นที่ชื่นชอบสำหรับเด็ก

-Sports Court : ลู่วิ่งออกกำลังกาย Running Track บริเวณชั้น 15
-Outdoor Movie Screen : ชมภาพยนตร์กลางแจ้ง ชิวล์ ชิวล์ ริมสระน้ำ บริเวณชั้น 14
-Outdoor Pools : สระว่ายน้ำกลางแจ้ง พร้อม SunDesk นั่งอาบแดด บริเวณชั้น 14 
-Indoor Pools : สระว่ายน้ำในร่ม บริเวณชั้น 14
-Whirl Pools : อ่างน้ำวน บริเวณชั้น 14
-Casino Royale : คาสิโน บริเวณ ชั้น 3 สำหรับท่านที่ชอบเสี่ยงโชค โดยจะมีเวลาเปิดปิดชัดเจน
-Royal Theater : บริเวณชั้น 4 และ ชั้น 5 ให้ท่านได้เต็มอิ่มกับโชว์ที่ทางเรือได้จัดไว้ให้ชมสลับสับเปลี่ยนในทุกค่ำคืน นอกจากนี้ ในช่วงเช้าจะเป็นพื้นที่สำหรับรวมตัวของท่านที่จะไปทัวร์กับทางเรือที่ได้มีการจองทัวร์เสริมไว้ โดยจะได้รับหมายเลขหลังจากนั้นก็รอประกาศจากเจ้าหน้าที่
-Adventure Ocean Youth Area : สวนสนุกสำหรับเด็กๆ บริเวณชั้น 11
- Fuel Teen Disco : ดิสโก้สำหรับเด็กๆบริเวณชั้น 15 โดยมีค่าใช้จ่าย
-Arcade : ห้องกิจกรรมสำหรับเด็กโต (ไม่มีค่าใช้จ่าย ),Gaming Area ห้องเล่นเกมส์สำหรับหยอดเหรียญ บริเวณชั้น 15
-Concierge Club : เป็นเลานจ์และบาร์สุดพิเศษ บริเวณท้ายเรือ ชั้น 12 สำหรับผู้เข้าพัก ห้อง Grand Suiteฃ
- Conference Room : ห้องประชุมบริเวณ ชั้น 13 สามารถรองรับได้สูงสุด 330 ท่าน พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัยให้บริการ เช่น โปรเจ็คเตอร์, เครื่องเล่นสื่อ, ทีวีพลาสม่าขนาดใหญ่, หน้าจอติดผนัง, วิดีโอ, ไมโครโฟน, ไฟเวที เป็นต้น
- Vitality at Sea Spa and Fitness Center : บริการสปา , ศูนย์ฟิตเนส รวมถึงคลาสโยคะต่างๆ ( บางรายการมีค่าใช้จ่าย ) บริเวณ ชั้น 16

ห้องอาหารบนเรือสำราญ
บนเรือสำราญนอกจากจะบริการอาหารหลัก 3 มื้อ ต่อวันแล้ว ยังมีมื้อพิเศษ อาหารว่างช่วงบ่าย และรอบดึกอีกด้วย
-WindJammer: ตั้งอยู่บริเวณชั้น 14 บริเวณ ท้ายเรือ เป็นห้องอาหารบุฟเฟต์นานาชาติ เปิดให้บริการสำหรับอาหารเช้า (ระหว่าง 6.30น. - 11.00 น.) อาหารกลางวัน (ระหว่างเวลา 11.30น. – 15.30 น.) และสำหรับอาหารค่ำ (ระหว่าง 18.00 น. - 21.00 น.)
- The Cafe @ Two70 : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เปิดให้บริการช่วง (ระหว่าง 7.30 น. – 19.30 น.) เป็นเลานจ์บาร์ ให้บริการอาหารเบา ๆ เช่น แซนด์วิช, สลัด,ซุป ของหวานชนิดต่างๆ และเครื่องดื่ม (รวมถึงกาแฟชนิดพิเศษ)
- Seaplex Dog House : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 15เปิดให้บริการ(ระหว่างเวลา 11.30 น. -19.00 น.) เป็นบาร์อาหารจานด่วน ประเภท ขนมปัง ฮอทด็อก สลัส ที่ปรุงด้วยซอสเครื่องปรุงหลากหลาย
-Sorrento's : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 เป็นห้องอาหารที่ให้บริการเมนูพิซซ่าหลากหลายรูปแบบ บริการพิซซ่าร้อนๆเสิร์ฟจากเตาอบ ใหม่ๆ โรยหน้าด้วยชีส ไม่ว่าจะเป็น เปบเปอร์โรนี่, พิซซ่าไส้กรอก ,ฮาวายเอี้ยน ,ชีสคลาสิก, โชริโซ่ รวมถึงเมนูของหวาน ไอศครีม ช็อกโกแล็ตต่างๆอีกด้วย
-Café Promenade : ตั้งอยู่โซน Royal Promenade (ถนนใจกลางเรือ) ชั้น 4 บริเวณกลางเรือ บริการเครื่องดื่มและเบเกอรี่ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
-Solarium Bistro : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 14 เป็นคาเฟ่ต์ ที่บริการ อาหารเบาๆ เช่น น้ำผลไม้คั้นสด,อาหารเช้า (โยเกิร์ตผลไม้) และอาหารกลางวัน /อาหารเรียกน้ำย่อย ซุปต่างๆ เป็นต้น
Main Dining Room
พลิกโฉมการรับประทานอาหารบนเรือสำราญ Dynamic Dining คือการพลิกโฉมประเพณีปฏิบัติเกี่ยวกับห้องอาหาร ซึ่งจะบริการอาหารค่ำแบบ Set Menu ที่มีให้เลือกถึง 5 Full Service Restaurants ด้วยกันแต่ละห้องจะมีเอกลักษณ์อาหารอันโดดเด่นและบรรยากาศอันน่าดื่มด่ำ ที่เปิดโอกาสให้ท่านได้สัมผัสรสชาติอาหารในรูปแบบต่างๆ วนเวียนกันไป ไม่จำเจ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์และความหลากหลายในการรับประทานอาหารในแต่ละค่ำคืน มีดังนี้

- American Icon Grill : ห้องอาหารสไตล์อเมริกัน มีเมนูให้เลือกมากมาย เช่น สเต็กชนิดต่างๆ สลัด ,แซลมอน เป็นต้น ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 
-Chic : ห้องอาหารบริเวณ ชั้น 3 เปิดให้บริการ(ระหว่าง 17.30 น. – 21.00 น.) อาหารสไตล์โมเดิร์น เช่น เมนู สลัด, ซุปประจำวัน, แซลมอนรมควัน, กุ้งย่าง, ค็อกเทลกุ้ง, เต็กพรีเมี่ยม (เนื้อริบอาย), เนื้อแกะ, ไก่ย่าง, อาหารทะเล เมนูของหวานต่างๆบรรยากาศห้องอาหารตกแต่งสวยงาม
-Silk : ห้องอาหารบริเวณ ชั้น 4 เปิดให้บริการ(ระหว่าง 17.30 น. – 21.30 น.) ห้องอาหารสไตล์เอเชีย มีเมนูให้เลือกหลากหลาย
-The Grande: ห้องอาหารบริเวณ ชั้น 3 เปิดให้บริการ(ระหว่าง 17.30 น. – 21.00 น.) สไตล์ตะวันตก มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ภายในตกแต่งหรูหรา
-Coastal Kitchen : สุดพิเศษสำหรับแขกผู้เข้าพักในระดับ Suite เท่านั้น กับเมนูอาหารฟิวชั่นที่รับอิทธิพลจากเมดิเตอร์เรเนียนเข้ากับความสดใหม่จากแคลิฟอร์เนียฟาร์ม รวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพ
**การแต่งกายสำหรับมื้ออาหาร Main Dining Room แนะนำเป็นแบบสุภาพ Smart Casual โดยผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตมีปก หรือ โปโล กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น , ผู้หญิงใส่กระโปรง หรือกางเกงขายาว รองเท้าสุภาพ

ห้องอาหารพิเศษที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม( Specialty Dining)
Specialty Restaurants ของ Royal Caribbean เป็นที่รู้กันดีถึงคุณภาพ การนำเสนอ และการให้บริการ อีกก้าวหนึ่งของ Signature Dining บนเรือสำราญ Ovation of the Seas ได้แก่
-Wonderland : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 สามารถรองรับได้ถึง 62 ที่นั่งห้องอาหารที่เชฟของ Royal Caribbean เติมเต็มจินตนาการสุดล้ำสู่เมนูอาหารที่ทั้งแปลก ใหม่ และอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศอันตื่นตะลึงและสนุกสนาน
-Jamie’s Italian : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เปิดให้บริการมื้อกลางวัน( ระหว่าง 12.00น.-13.30น. )และเย็น ( ระหว่าง 18.00 น. - 21.30 น.) สามารถรองรับได้ถึง 132 ที่นั่ง ห้องอาหารจากเชฟชื่อดังชาวอังกฤษ เจมี่ โอลิเวอร์
เมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่ปรุงขึ้นอย่างเรียบง่าย ด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาล แฟมิลี่สไตล์ เมนูเนื้อขึ้นชื่อ สปาเก็ตตี้ , ลาซานญ่า ,พาสต้า, ชีส รวมถึงของหวานต่างๆ
- Chops Gille : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เปิดให้บริการมื้อเย็น ( ระหว่าง 17.30น.-21.00น. ) สามารถรองรับได้ถึง 130ที่นั่ง มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ท่านละ US39 เป็นร้านอาหารสเต๊กเฮาส์ซีฟู้ดระดับพรีเมี่ยม
อาหารคุณภาพและคัดสรรมาอย่างดี ด้วยสไตล์ร่วมสมัยผสมผสานกับสเต็กแบบดั้งเดิม เมนูที่พลาดไม่ได้คือ เสต็กเกรดเอเนื้อวัวชั้นเลิศ ,อาหารทะเลสุดพิเศษ,กุ้งล็อบสเตอร์ ,ปลากระพงย่าง ,หอยเชลล์และอืนๆอีกมากมาย
รวมถึงเมนู ของหวาน พายช็อกโกแลต, ช็อคโกแลตลาวา,เค้ก, ชีสเค้ก,ไอศครีม ต่างๆ อีกด้วย
-Izumi Japanese Cuisine : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เป็นร้านอาหารจานพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของ RoyalCaribbean ที่มีอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นส่วนใหญ่ ร้านอาหารเป็นอาหารตามสั่ง มีเมนูพิเศษที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ,ซาชิมิ ข้าวปั้นหน้าต่างๆ (เมนู ย่าง/ ไก่, เนื้อวัว), สลัดสาหร่าย wakame ,เกี๊ยวซ่า, อาหารเรียกน้ำย่อยเย็น, อาหารทะเลพรีเมี่ยม (ปลาทูน่า, กุ้ง, กุ้งก้ามกราม, ปลาไหล, ปู) ของหวาน (ไอศครีม, แพนเค้ก เป็นต้น) และเครื่องดื่มพิเศษ (ค็อกเทล, เบียร์, เหล้า,สาเก) และอื่นๆอีกมากมาย
-Chef’sTable : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เป็นห้องรับประทานอาหารส่วนตัว (รองรับได้ 16 ท่าน) มีค่าใช้จ่าย
ท่านละUS $85 โดยต้องทำการจองและแต่งกายเป็นทางการ ห้องนี้เป็นส่วนหนึ่งของร้านอาหาร Chops Grille โดยท่านจะได้ เมนู 6 คอร์ส ที่เชฟจะจับคู่กับไวน์พรีเมี่ยม มีระยะเวลาในการทาน 3 ชั่วโมง
นอกจากเหนือจากนี้ยังมี Specialty Restaurants ที่ได้รับความนิยมอยู่เดิมของ Royal Caribbean ได้แก่
-Kung Fu Panda Noodle Shop : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 14 ร้านอาหารจีน ตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดงและรูปหมีแพนด้า
- La Patisserie : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 บริการอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ของว่าง,ของหวาน,มาการอง เป็นต้น
- Vintages : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เป็นบาร์ไวน์ที่ขึ้นชื่อของ RoyalCaribbean บริการ ไวน์ชั้นดีและแชมเปญจำนวนมาก รวมถึงเมนูมีอาหารเรียกน้ำย่อย สำหรับนักดื่มห้ามพลาดจ้า

พบกับ SMARTH TECHNOLOGY บนเรือ Ovation of the Seas
นักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่สไตล์โมเดิร์นที่หลงใหลในเทคโนโลยีจะ WOW อีกครั้งกับเรือสำราญสุดไฮเทค ของ Royal Caribbean International ซึ่งได้รับการติดตั้งใหม่ล่าสุดของโลกมากมายอย่างที่ไม่เคยปรากฎที่ใดมาก่อนเพื่อยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวให้สูงขึ้น บนเรือได้ติดตั้งเทคโนโลยี Wi-Fi ความเร็วสูงเพื่อช่วยให้แขกสามารถติดตามโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา แอพลิเคชั่นช่วยให้แขกจัดช่วงเวลากิจกรรมที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย เทคโนโลยี RFID ที่ทำให้แขกสามารถเช็คอินขึ้นเรือได้อย่างรวดเร็วและสามารถติดตามกระเป๋าเดินทางของตนเองได้แบบเรียลไทม์จากบนมือถือสมาร์ทโฟน ด้วยเทคโนโลยีอันเบ็ดเสร็จทันสมัยและออกแบบให้แขกเป็นศูนย์กลาง ทำให้ Ovation of the Seas เป็นเรือสำราญที่มีความอัจฉริยะถึง 6 แขนงด้วยกัน
**SMART Check-In: ระบบเช็คอินอันทันสมัยช่วยย่นระยะเวลาในอาคารผู้โดยสาร ท่านสามารถเริ่มต้นเช็คอินขึ้นเรือ Ovation of the Seas ได้ตั้งแต่ที่บ้าน โดยพิมพ์เอกสารขึ้นเรือจากระบบออนไลน์ อัพโหลดหน้าหนังสือเดินทาง และรับ Digital Boarding Pass และทันทีที่แขกมาถึงบริเวณอาคารผู้โดยสารเพื่อเช็คอินขึ้นเรือ ท่านสามารถใช้เวลาขึ้นเรือนับจากเดินทางมาถึงในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น โดยไม่ต้องเช็คอินที่เคาท์เตอร์ หรือเข้าคิวกรอกแบบฟอร์มใดๆ
อีกทั้งยังสามารถติดตามกระเป๋าเดินทางในแบบเรียลไทม์ โดยกระเป๋าเดินทางทุกใบจะถูกติดแถบ RFID เทคโนโลยี ณ บริเวณจุดดรอปกระเป๋าเดินทาง ทำให้ท่านสามารถรู้ตำแหน่งกระเป๋าเดินทางของตนเองตลอดเวลาตั้งแต่ท่าเรือจนถึงห้องพัก
**SMART Concierge: คอนเชียสส่วนตัวเพียงปลายนิ้วสัมผัส บนเรือ Ovation of the Seas ท่านจะได้รับสายรัดข้อมือ WOWband ที่มีเทคโนโลยี RFID ที่สามารถนำทางให้ท่านไปยังส่วนต่างๆบนเรือได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ใช้จ่ายซื้อสินค้าบนเรือ กุญแจห้องพัก และอื่นๆอีกมากมาย แอพพลิเคชั่นที่ทำงานอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพนี้คือหัวใจสำคัญในการให้แขกเป็นผู้ควบคุมตัวเลือกต่างๆระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว Cruise Planner นั้นช่วยให้ท่านสามารถค้นหาและสำรองช่วงเวลาในการรับประทานอาหาร โปรแกรมทัวร์ชายฝั่ง ทำนัดหมายใช้บริการสปา และอื่นๆอีกมากมายล่วงหน้า และหากท่านต้องการเปลี่ยนแปลงกำหนดการณ์ใดๆขณะที่อยู่บนเรือ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ที่จุด Royal iQ ที่มีอยู่ทั่วเรือ ท่านสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Royal iQ ได้แล้วตั้งแต่ก่อนเดินทาง
**SMART Connect: อินเตอร์เนตไฮสปีด ชีวิตติดเทรนด์ อินเตอร์เนตบนเรือสำราญ Ovation of the Seas จะได้รับการเชื่อมต่อโดยดาวเทียม O3b ด้วยจำนวน มากกว่าเรือสำราญทุกๆ ลำรวมกัน ท่านสามารถออนไลน์เชื่อมต่อกับโลกสังคมออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะนำอุปกรณ์สื่อสารชนิดใดติดตัวขึ้นมาด้วยก็ตาม สามารถรับชมสตรีมมิ่งวีดีโอ, เช็คอีเมล, แบ่งปันรูปภาพบนโซเชี่ยลมีเดีย หรือวีดีโอแชทได้อย่างไร้รอยต่อแม้อยู่กลางท้องมหาสมุทร
**SMART Experiences: ควอนตั้มเปลี่ยนทุกสิ่ง นอกจากเทคโนโลยีจะสร้างความสะดวกแล้วยังสร้างความประหลาดใจให้แก่ท่าน ด้วยบาร์โฉมใหม่ล่าสุด Bionic Bar ที่ออกแบบโดยให้หุ่นยนต์คือศูนย์กลางของเวที ซึ่งโรบอทบาร์เทนเดอร์ จะชงเครื่องดื่มให้ท่านได้ลิ้มลอง รวมถึงความล้ำสมัยของเทคโนโลยีภายในห้องพักของท่าน
**SMART Service : เทคโนโลยี + ความสุข + ลูกเรือ นำมาซึ่งการให้บริการอันยอดเยี่ยม ไม่ได้มีเพียงแต่ผู้เข้าพักเท่านั้นที่จะได้เพลิดเพลินกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย บนเรือ Ovation of the Seas ยังเปิดโอกาสให้ลูกเรือได้เพลิดเพลินด้วยเช่นกัน ด้วยแอพพลิเคชั่นทำให้ลูกเรือสามารถจดจำรสนิยมและความต้องการของแขกได้ดียิ่งขึ้น ช่วยยกระดับการให้บริการในแบบส่วนตัวที่ดีอยู่แล้วนั้น ให้ยกระดับขึ้นสู่ขีดสุดแห่งการให้บริการ ไม่ว่าท่านต้องการที่จะทานอะไร โชว์เริ่มตอนเวลาเมื่อไหร่ นัดหมายสปา คุณสมบัติต่างๆเหล่านี้ของเรือสำราญอัจฉริยะลำนี้จะช่วยให้ลูกเรือมีส่วนร่วมในทุกความต้องการของท่าน
**SMART Sustainability : เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีอันล้ำสมัยยังเข้ามามีส่วนช่วยให้เรือสำราญลำนี้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบการคิดคำนวณของคอมพิวเตอร์อันซับซ้อนทำให้ได้มาซึ่งการออกแบบเรือสำราญที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในปริมาณที่น้อยที่สุดตั้งแต่การออกแบบส่วนหัวเรือ การออกแบบเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ลดอัตราการใช้พลังงานของเครื่องยนต์ หลอดไฟทุกดวงบนเรือจะเป็นหลอดประหยัดพลังงานแบบ LED หรือฟลูออเรสเซนต์ ระบบเซ็นเซอร์ที่จะคอยตรวจจับบริเวณทางเดินและหรี่แสงไฟลงเมื่อไม่มีผู้คนเดินผ่านในขณะนั้น

สำหรับเส้นทางล่องเรือ Ovation Of The Seas จะล่องในแถบ อลาสก้า อมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เป็นต้น

***Cruise Vacations Start Here….Cruise Tour eXperts by Chic Journey 2020***

Visitors: 154,018